พาป้ามี้ พิศมัย มาทักทายกันค่าา

กรณีชายชาวต่างชาติก่อเหตุที่พัทยาเมื่อคืน

2 พ.ย.63 เวลาประมาณ 15.50 น. ชายชาวต่างชาติก่อเหตุชิงทรัพย์และใช้อาวุธปืนยิงในเขตท้องที่ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี หลบหนีและใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นระหว่างหลบหนีในท้องที่ สภ.นาจอมเทียน
ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีมาอยู่ในคอนโดมิเนียมในเขต สภ.เมืองพัทยา จึงได้สั่งการให้สายตรวจปิดล้อมคอนโดมิเนียมดังกล่าวไว้ และต่อมาผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กระสุนแฉลบพื้นถนนไปโดนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในอาคาร
23.30 น. พัทยา 1 ในฐานะผู้รับผิดชอบทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้แสวงหาข้อมูลที่จำเป็นและเกี่ยวข้องในการประกอบการตัดสินใจ และได้นำ casing อาคารที่ผู้ก่อเหตุหนีเข้าไปหลบอยู่ด้วยตนเอง เพื่อประกอบการวางแผน และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมปฏิบัติ
เมื่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาถึง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการ ได้ตัดสินใจสนธิกำลัง สภ.เมืองพัทยา , สภ.ห้วยใหญ่ , กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี , นปพ.ภ.2 นำเพื่อนสนิทของผู้ก่อเหตุขึ้นเจรจาเกลี้ยกล่อม เนื่องจากผู้ก่อเหตุพูดคุยทางโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทว่าจะทำอัตวินิบาตกรรม โดยมอบหมายให้
สภ.เมืองพัทยา และ สภ.ห้วยใหญ่ รับผิดชอบเข้าพื้นที่จากทางด้านบันไดหนีไฟ
นปพ.เข้า contact ผู้ก่อเหตุจากทางลิฟท์
สืบจังหวัดฯ cover ชุด นปพ.
เมื่อไปถึงห้องที่ผู้ก่อเหตุหลบอยู่ ได้เรียก และโทรศัพท์เข้าไป แต่ไม่มีการตอบรับ จึงได้ตัดสินใจสั่งการให้เปิดประตูเข้าไป พบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนทำอัตวินิบาตกรรมในห้องนั้นแล้ว

#ผู้กำกับพัทยานำทีมบุกจับฝรั่งคลั่ง

จากเหตุการณ์ "ฝรั่งคลั่งกราดยิง" และมีผู้โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือเป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องมีความพร้อมตลอดเวลา

มาฟังรายละเอียดเรื่องราว และความรู้สึกจากท่านผู้กำกับกันครับ

พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา (พัทยา๑) เล่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

"...
รอดตายไปอีกวัน
ผู้นำ...ทำเป็นแบบอย่าง

2 พ.ย.63 เวลาประมาณ 15.50 น. ชายชาวต่างชาติก่อเหตุชิงทรัพย์และใช้อาวุธปืนยิงในเขตท้องที่ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี หลบหนีและใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นระหว่างหลบหนีในท้องที่ สภ.นาจอมเทียน

ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีมาอยู่ในคอนโดมิเนียมในเขต สภ.เมืองพัทยา จึงได้สั่งการให้สายตรวจปิดล้อมคอนโดมิเนียมดังกล่าวไว้ และต่อมาผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กระสุนแฉลบพื้นถนนไปโดนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในอาคาร

23.30 น. พัทยา 1 ในฐานะผู้รับผิดชอบทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้แสวงหาข้อมูลที่จำเป็นและเกี่ยวข้องในการประกอบการตัดสินใจ และได้นำ casing อาคารที่ผู้ก่อเหตุหนีเข้าไปหลบอยู่ด้วยตนเอง เพื่อประกอบการวางแผน และได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมปฏิบัติ

เมื่อหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาถึง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการ ได้ตัดสินใจสนธิกำลัง สภ.เมืองพัทยา , สภ.ห้วยใหญ่ , กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี , นปพ.ภ.2 นำเพื่อนสนิทของผู้ก่อเหตุขึ้นเจรจาเกลี้ยกล่อม เนื่องจากผู้ก่อเหตุพูดคุยทางโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทว่าจะทำอัตวินิบาตกรรม โดยมอบหมายให้
สภ.เมืองพัทยา และ สภ.ห้วยใหญ่ รับผิดชอบเข้าพื้นที่จากทางด้านบันไดหนีไฟ
นปพ.เข้า contact ผู้ก่อเหตุจากทางลิฟท์
สืบจังหวัดฯ cover ชุด นปพ.

เมื่อไปถึงห้องที่ผู้ก่อเหตุหลบอยู่ ได้เรียก และโทรศัพท์เข้าไป แต่ไม่มีการตอบรับ จึงได้ตัดสินใจสั่งการให้เปิดประตูเข้าไป พบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนทำอัตวินิบาตกรรมในห้องนั้นแล้ว

เราทำดีที่สุดและรวดเร็วที่สุดแล้วครับ ไม่ต้องการให้มีการสูญเสียไม่ว่าใครทั้งสิ้น เสียใจจริง ๆ ครับ

"กันพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงให้ปลอดภัย พวกเราตำรวจไทยจะเข้าไปเผชิญเหตุเอง"

#วิถีพัทยา1

จากกรณี “ช่างสัก” ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ภาพหญิงสาวเปลือยกายมีร่องรอยฟกช้ำตามแขนและต้นขาไปทั่วบริเวณ พร้อมระบุข้อความทำนองว่าภรรยาของเขาโดนทำร้ายร่างกายและบังคับข่มขืน รุมโทรม มาหลายวัน ถูกอัดคลิปขู่ประจาน รวมถึงอ้างว่ากลุ่มคนที่ทำร้ายร่างกายภรรยายังมีการชักชวนเก็บเงิน ทำเป็นขบวนการ โดยการนำคลิปไปขายและเก็บเงินด้วย โดยเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว ทาง สภ.เมืองพัทยา ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลและติดต่อไปยังผู้โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าว เบื้องต้นจากการพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ ผู้โพสต์เล่าว่า เหตุการณ์ที่โพสต์บนเฟซบุ๊กเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ยังไม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากภรรยายังอยู่ในอาการบาดเจ็บและหวาดกลัว ตำรวจจึงขอความร่วมมือให้ผู้โพสต์ซึ่งเป็นสามี เข้ามาให้ข้อมูลก่อน เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบสวนติดตามคดี

ต่อมาผู้โพสต์ ได้นัดเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อพาตัวแฟนสาวมาให้ข้อมูล แต่ปรากฏว่าผู้โพสต์ไม่มาตามนัดและสลับปรับเปลี่ยนจุดให้ข้อมูลถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งล่าสุดไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมกับลบโพสต์และข้อความดังกล่าวออกไป สร้างความแปลกใจให้กับตำรวจเป็นอย่างมาก ตำรวจจึงได้ตรวจสอบข้อภูมิลำเนา พบว่า มีบ้านอยู่ในเมืองพัทยา

เมื่อไปถึงพบผู้หญิง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแม่ของผู้โพสต์ เล่าให้ตำรวจฟังว่าผู้โพสต์เป็นลูกชายมีอาการป่วยทางจิต เคยรับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธัญลักษณ์ แต่ด้วยค่ารักษามีค่าใช้จ่ายสูง จึงมารักษาต่อที่ โรงพยาบาลบางละมุง และล่าสุดเพิ่งไปรับยา เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวผู้โพสต์มาสอบสวนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่


ต่อมาช่วงกลางดึกคืนวันที่ 10 ตุลาคม 2563 มารดาวัย 43 ปี ได้พาตัวลูกชาย วัย 27 ปี เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังทราบข่าวว่าได้โพสต์เรื่องราวเป็นที่น่าตกใจ พร้อมเปิดเผยว่าลูกชายวัย 27 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างสักนั้น ได้มีอาการป่วยทางประสาท อยู่ระหว่างการรักษาต้องกินยาตลอดเวลา แต่ช่วงหลังแยกออกไปอาศัยอยู่ที่อื่น จึงบกพร่องในเรื่องการกินยา ทำให้มีอาการผิดปกติคิดไปต่างๆนานา ทำให้ไปโพสต์และบอกเล่าในเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งตนเองกับลูกชายรู้สึกเสียใจ และต้องขออภัยกับสังคมกับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะดูแลอย่างใกล้ชิดกว่านี้

ส่วนในด้านทางคดี พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้พ.ต.ต.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส. ตรวจสอบเอกสารการรักษา และยารักษา ซึ่งมีการนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใด จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

https://www.naewna.com/local/524218

เจอกันทั้งทีก็ต้องขอไลฟ์สดทักทายชาวมัมแอนด์มีหน่อยค่ะ แต่ที่พิเศษกว่าครั้งไหนก็คือ ครั้งนี้แม่มี้ พิศมัย ก็มาด้วยค่ะ ใครคิดถึงแก๊งแม่ๆก็มาชมกันเลยจ้า

หลายคนสงสัยทำไมประกันสังคมถึงได้เงินช้า ทั้งทีลูกจ้าง ยื่นเรื่องประกันสังคมเรียบร้อยแล้ว. ติดขัดจากปัญหาอะไร ติดตามจาก คุณ พิศมัย นิธิไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม

รสชาติไม่ซ้ำจำสูตรไม่ได้