🔴การตลาดออนไลน์ กับ การตลาดออฟไลน์ ต่างกันอย่างไร?

ดูคลิปบน youtube กดลิงก์ 👉https://youtu.be/EZ4iozRW_s4

การตลาด Online กับ Offline ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าวิธีการก็คงต้องแตกต่างกันไม่น้อย แน่นอนว่าผลลัพธ์ก็ย่อมแตกต่างกัน ในยุคสมัยที่พฤติกรรมผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไป ทั้ง 2 อย่างนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากคุณกำลังจะทำธุรกิจ ให้ดูคลิปนี้ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าการตลาดแบบไหนเหมาะสำหรับคุณครับ

=============
จกหนังสือฟรี! เงินมาง่าย ๆ ด้วยวิธีการขายของออนไลน์สูตรลับ WAR-KETING™️ กดลิงก์ตอนนี้เพื่อรับหนังสือ 👉 https://get.moneyeasybook.com/?ref=FBA-20210802
.
.
.
.
.
#วรัทภพ #warattapob #การตลาด #การขาย #ขายสินค้า #การตลาดเบื้องต้น #การตลาดสมัยใหม่ #วิธีการขาย #การตลาดและการขาย #marketing2021 #การตลาดออนไลน์ #วางแผนการขาย #กลยุทธ์การตลาด #การตลาดoffline #ตลาดออฟไลน์กับออนไลน์ #ทำการตลาดออนไลน์ดีไหม #พฤติกรรมผู้บริโภค #การทำการตลาดยุคใหม่ #ทำการตลาดอย่างไรให้ปัง

ทำไมประเทศญี่ปุ่น เต็มไปด้วย เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะได้พบเห็นเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ
ซึ่งนอกจากเรื่องจำนวนเครื่องแล้ว ความหลากหลายและแปลกตา
ของประเภทสินค้าที่ขายผ่านเครื่องเหล่านั้น ก็สะดุดตาไม่แพ้กัน

เพราะมีสินค้าตั้งแต่น้ำผลไม้ ชา กาแฟ ขนม ซุปอุ่นร้อน อาหารพร้อมทาน บุหรี่ สาเก เบียร์
ไปจนถึงตั๋วรถไฟ หรือแม้แต่เครื่องสั่งอาหาร เช่น ราเม็ง ก็มีเป็นตู้อัตโนมัติ
ซึ่งถือว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจและเป็นสีสันให้นักท่องเที่ยวได้มากทีเดียว

แล้วอะไรที่ทำให้เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ
ได้รับความนิยมสูงในประเทศญี่ปุ่น ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ
ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 1 ในประเทศอียิปต์
โดยวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีกที่ชื่อว่า เฮโรแห่งอะเล็กซานเดรีย
เขาคนนี้ได้คิดค้นเครื่องอัตโนมัติ ที่รับชำระด้วยเหรียญ เพื่อใช้สำหรับขายน้ำมนต์ในวิหาร

แต่ถ้าเราพูดถึงเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติแบบที่เราคุ้นตาในยุคปัจจุบัน
มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศอังกฤษ ในช่วงกลางทศวรรษ 1880s
โดยถูกนำไปใช้จำหน่ายโปสต์การ์ดและแสตมป์ ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง

ในเวลาต่อมา เครื่องดังกล่าวก็ได้เริ่มนำมาใช้ขายสินค้าประเภทขนม

ปี 1888 บริษัทหมากฝรั่งสัญชาติอเมริกันที่ชื่อ Thomas Adams
เริ่มขายหมากฝรั่งด้วยเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติตามสถานีรถไฟในนิวยอร์ก

ปี 1893 โรงงานช็อกโกแลตสัญชาติเยอรมัน ที่ชื่อ Stollwerck
เริ่มขายช็อกโกแลตด้วยเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ

แม้ว่าจะมีจุดเริ่มต้นจากอังกฤษ แต่ประเทศที่เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ
ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก กลับกลายเป็นประเทศที่อยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง
นั่นก็คือ “ประเทศญี่ปุ่น”

ในประเทศญี่ปุ่น เริ่มมีการใช้เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติหลังจากฝั่งตะวันตกได้ไม่นาน
โดยในช่วงทศวรรษ 1900s ได้ถูกเริ่มนำมาใช้ขายโปสต์การ์ด แสตมป์ และสาเก

ต่อมา เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติเริ่มใช้กันแพร่หลายมากขึ้น จากเป็นเครื่องขายขนม
ก็ได้กลายมาเป็นเครื่องขายน้ำผลไม้และเครื่องดื่มในช่วงปลายทศวรรษ 1950s

ภายหลังน้ำผลไม้และเครื่องดื่ม ก็ได้กลายมาเป็นสินค้าหลัก ที่ถูกนำมาวางขาย
ในตู้กดสินค้าอัตโนมัติและมีสัดส่วนเกินกว่าครึ่งหนึ่งของสินค้าทั้งหมด เลยทีเดียว

ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นมีเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติกว่า 4 ล้านเครื่อง
คิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติทั่วโลก

ในขณะเดียวกัน เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ 1 เครื่อง
จะครอบคลุมประชากรญี่ปุ่นราว 30 คน
ซึ่งถือเป็นความหนาแน่นต่อประชากร ที่มากที่สุดในโลก

โดยสินค้าที่ขายผ่านเครื่องอัตโนมัติเหล่านี้
มียอดขายในญี่ปุ่นต่อปีกว่า 1.31 ล้านล้านบาท

แล้วอะไรกัน ที่ทำให้เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ
ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น ?

ถ้าเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย หรือความรวดเร็วในการซื้อสินค้า
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางสำนักงาน ซึ่งผู้คนต่างใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ
เหตุผลเหล่านี้ ก็ควรทำให้เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ ได้รับความนิยมสูงมากในหลายประเทศ
แต่ความนิยมในประเทศญี่ปุ่นนั้น เกิดขึ้นจาก “ปัจจัยเฉพาะตัว” ผสมเข้าไปด้วย

ปัจจัยแรก มีต้นทุนค่าแรงที่สูง

ประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน
ทั้งจากอัตราการเกิดที่ต่ำ จนนำมาซึ่งสังคมผู้สูงอายุ
รวมถึงแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในญี่ปุ่น ยังมีไม่เยอะเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

แรงงานที่ขาดแคลน จึงทำให้ต้นทุนค่าแรงแพงขึ้นตามไปด้วย
เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติเหล่านี้จึงตอบโจทย์ เพราะสามารถขายของได้แม้ไม่ต้องมีพนักงานขาย
ใช้เพียงพนักงานที่นำสินค้าไปเติม และเก็บเงินออกจากตู้เท่านั้น

ปัจจัยที่สอง ประชากรกระจุกตัวอยู่ในเมือง และอสังหาริมทรัพย์มีราคาแพง

ญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของจำนวนประชากรต่อขนาดพื้นที่มากที่สุดในโลก
และประชากรกว่า 90% ของประเทศ กระจุกตัวอาศัยอยู่ในเมือง
จึงทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นมีราคาสูง

ผู้ประกอบการ ทั้งร้านค้าปลีกรวมถึงเจ้าของสินค้า จึงเลือกขายสินค้าผ่านเครื่องอัตโนมัติ มากกว่าการเปิดร้านค้า เพราะเมื่อเทียบรายได้จากการขายที่เท่ากัน การขายผ่านเครื่องอัตโนมัติ ใช้พื้นที่น้อยกว่าร้านค้า จึงทำให้มีต้นทุนถูกกว่า

ปัจจัยที่สาม มีอัตราการขโมยของน้อยมาก

ประเทศญี่ปุ่น มีอัตราการขโมยของต่ำมาก เกือบจะน้อยที่สุดในโลก
และอัตราการทำลายทรัพย์สินสาธารณะก็น้อยมากเช่นกัน
การติดตั้งเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติในพื้นที่สาธารณะ จึงทำได้อย่างสบายใจ

และปัจจัยสุดท้าย คนญี่ปุ่นยังคงใช้เงินสดเป็นหลัก

ประเทศญี่ปุ่น มีสัดส่วนการชำระเงินโดยไม่ใช้เงินสดอยู่เพียง 20%
ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
เทียบกับสัดส่วนในประเทศเกาหลีใต้ที่ 96% และจีนที่ 66%

ซึ่งเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ ที่ส่วนใหญ่ยังคงรับชำระด้วยเหรียญเป็นหลัก
จึงยังคงได้รับความนิยม แม้มีบางเครื่องจะเริ่มใช้บัตรเติมเงินที่ใช้แทนเงินสดได้
อย่างเช่น IC Card มาตั้งแต่ปี 2001 แล้ว แต่ยังถือเป็นสัดส่วนที่น้อย

ถึงแม้ว่าปัจจัยทั้งหมดนี้ จะทำให้ประเทศญี่ปุ่นอุดมไปด้วยเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ
แต่อนาคตของเครื่องเหล่านี้ กลับกำลังเผชิญความท้าทาย..

เพราะในประเทศญี่ปุ่น ที่บอกว่ามีเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติกว่า 4 ล้านเครื่อง

แต่จำนวนดังกล่าว ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 5.6 ล้านเครื่องเมื่อปี 2000 หรือหายไปกว่า 1 ใน 4

ซึ่งผู้ที่มาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดไปก็คือ “ร้านสะดวกซื้อ”
โดยเฉพาะกับสินค้าอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และกาแฟกระป๋อง
ที่ยอดขายลดลงอย่างมีนัย นั่นก็เป็นเพราะว่า

ปี 1995 ญี่ปุ่นเลิกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านเครื่องอัตโนมัติ เพื่อป้องกันผู้ซื้อที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์
ปี 2008 ญี่ปุ่นเริ่มให้ผู้ซื้อบุหรี่ต้องยืนยันอายุก่อนซื้อ การซื้อโดยตรงจากร้านสะดวกซื้อจึงสะดวกกว่า
ปี 2011 เหล่าเชนร้านสะดวกซื้อ เริ่มมีเครื่องชงกาแฟดริปให้บริการในราคาไม่ต่างจากกาแฟกระป๋อง จึงทำให้คนหันมาซื้อกาแฟชงสดจากร้านสะดวกซื้อแทน

และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2020 ที่ผลจากโควิด 19 ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติเหล่านี้
เพราะสามารถซื้อสินค้าจากตู้ได้โดยตรง ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนขาย

แต่ปัญหาก็คือว่า เมื่อคนส่วนมากทำงานที่บ้าน
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาตามท้องถนนจึงลดลงและถึงต่อให้เดินผ่าน
ก็คงหลีกเลี่ยงการสัมผัสตู้สาธารณะเหล่านี้โดยไม่จำเป็น
กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติเป็นประจำจึงหายไป
ส่งผลให้ยอดขายผ่านช่องทางนี้ลดลงกว่า 30%

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ขายต่างก็หันไปผลักดันช่องทางออนไลน์มากขึ้นแทน
ซึ่งก็สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อที่เลือกพึ่งพาช่องทางออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน

ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนได้จากข้อมูลการสมัครบัตรเครดิตใหม่
ที่แม้ว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะยังคงเป็นสัดส่วนน้อยนิดเมื่อเทียบกับเงิดสด
แต่ก็เริ่มเร่งตัวขึ้นได้ในปีโควิด หลังจากที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมมานาน แต่ไม่เป็นผล

และนี่ก็คงเป็นอีกเรื่องที่น่าจับตาว่า พฤติกรรมผู้บริโภค
ที่เปลี่ยนแปลงไปจากวิกฤติโควิด 19 จะกลายเป็นปัจจัยเร่ง
ให้เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติในประเทศญี่ปุ่น เลือนหายไปเร็วขึ้นหรือไม่..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/why-so-many-vending-machines-in-japan-2017-1
-https://www.abc.net.au/news/2018-01-18/the-first-vending-machine-dispensed-holy-water-not-coke/9323380
-https://www.theguardian.com/world/2020/aug/24/japan-running-out-of-credit-card-numbers-amid-online-shopping-boom
-https://www.bloomberg.com/news/features/2020-10-13/japan-vending-machines-at-risk-of-becoming-retro-vintage-novelty
-https://www.nippon.com/en/features/h00258/
-https://www.statista.com/statistics/815611/japan-vending-machine-numbers/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Vending_machine

เพราะเรื่อง “กิน” คือเรื่องใหญ่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคน ดังนั้น หากต้องการให้ธุรกิจอาหารหรือเครื่องดื่มของคุณ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องตามให้ทันกับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอด โดยเฉพาะในปี 2021 นี้ ที่พฤติกรรมของผู้บริโภคได้รับอิทธิพลต่อเนื่องมาจากปี 2020 ที่ผ่านมา และส่งผลให้เกิดเป็นเทรนด์ยอดฮิตมากมาย ที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษา และทำความเข้าใจ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าอาหารและเครื่องดื่มได้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด
.
โดยรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ระบุว่า จากการเก็บข้อมูลของฝ่ายจัดซื้อสินค้าที่มาจากท้องถิ่นและต่างประเทศ รวมถึงทีมงานด้านอาหารของบริษัทกว่า 50 ราย ชี้ว่า เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มในปี 2021 มีแนวโน้มจะเปลี่ยนไปอย่างมากหากเทียบกับยุคก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่น่าลงทุนดังนี้
.
1.ธุรกิจ Delivery
หรือ ธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร ที่มาแรงแซงทุกเทรนด์ตั้งแต่ปี 2563 มาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วงแรกๆ ทำให้ผู้คนออกไปนอกบ้านไม่ได้ และห้ามนั่งกินในร้านอาหารด้วย ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มใช้บริการเดลิเวอรี่มากขึ้น เพราะสะดวกสบายสามารถสั่งอาหารได้หลายช่องทาง ซึ่งความสะดวกสบายตรงนี้ เป็นจุดให้ผู้บริโภคติดใจและกลายเป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

สำหรับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อผู้บริโภคไม่สบายใจที่จะมาซื้อที่ร้าน คุณก็อย่าปล่อยผ่านให้เขาไปซื้อร้านอื่น ลองหาพาร์ทเนอร์บริการส่งอาหารดีๆ สักเจ้าดูสิ เพื่อให้เขาช่วยเชื่อมโยงร้านของคุณกับลูกค้าได้มากขึ้น หรือไม่คุณก็ให้บริการส่งอาหารถึงบ้านลูกค้าด้วยตัวเองก็ได้ แต่อย่าลืมว่า ยุคนี้ต้องมาพร้อมกับความสะอาด และความปลอดภัยนะ!
.
2.ธุรกิจ Meal Kit
หรือชุดทำอาหารพร้อมปรุง ตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคที่อยากลองทำอาหารเองที่บ้าน แต่ไม่มีความรู้และทักษะในการทำอาหารมาก่อน ก็สามารถทำตามสูตรที่มาพร้อมกับวัตถุดิบของอาหารนั้นๆ ได้ไม่ยาก
.
โดยกระแสของเทรนด์เริ่มต้นจากต่างประเทศก่อน แล้วค่อยๆ เป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในไทย มีตั้งแต่อาหารคาว ขนมหวาน และชานมไข่มุก ที่ให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเชฟเองได้ โดยไม่ต้องเข้าคอร์สอบรมหลายชั่วโมง ซึ่งนับว่านี่ก็เป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ ทั้งยังมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2027 แบรนด์ที่ให้บริการขายชุดทำอาหาร Meal Kit จะสามารถสร้างรายได้ได้มากถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
.
3.ธุรกิจ Coffee Stand
ร้านกาแฟขนาดเล็ก กระทัดรัด มีเพียงเครื่องชงกาแฟ บาร์ขนาดย่อม และหน้าร้านสำหรับให้ลูกค้ามาสั่งเครื่องดื่ม ไม่มีโต๊ะสำหรับนั่ง เพราะเน้นการขายแบบซื้อกลับบ้าน (Take Away) แต่สิ่งที่จะดึงดูดลูกค้าได้ก็คือ การดีไซน์ร้านให้สวย เรียบง่าย มีสไตล์ น่ารัก ๆ ชวนให้ถ่ายรูป

ซึ่งในปี 2021 มีแนวโน้มว่าร้านกาแฟขนาดเล็กนี้ จะเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการนิยมลงทุน เพราะไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนในการซื้อหรือเช่าตึกขนาดใหญ่ ก็สามารถเป็นเปิดร้านได้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังสนใจอยากเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว แต่มีทุนไม่มาก แต่แค่เปิดอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องพัฒนาทั้งร้านและเครื่องดื่มในร้านให้ดี มีคุณภาพ ประกอบกับตกแต่งร้านให้น่าถ่ายรูปรับรองว่า ร้านคุณต้องเป็นหนึ่งในร้านที่ครองใจผู้บริโภคได้แน่นอน
.
4.ธุรกิจ Functional Drink
หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จากการประเมินของ Euromonitor International คาดว่า ตลาดเครื่องดื่มสุขภาพจะมีการเติบโตต่อเนื่อง และในปีนี้จะมีมูลค่าพุ่งถึง 25,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้บริโภคต้องการดื่มน้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน ไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นอกจากรสชาติที่ต้องดีถูกปาก ส่วนผสมในเครื่องดื่มก็สำคัญ เช่น เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืช เครื่องดื่มผสมวิตามิน สาอาหาร รวมถึงการใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล

ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องดื่ม ไม่ว่าอะไรก็ตาม คุณอาจลองนำเอาแนวคิดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนี้ไปพัฒนาใช้ในธุรกิจด้วยก็ได้ แต่ก่อนที่จะนำออกมาจำหน่ายให้ผู้บริโภค คุณต้องแน่ใจแล้วว่าเครื่องดื่มของคุณรสชาติดี มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงๆ ไม่ได้หลอกลวงผู้บริโภค
.
5. ธุรกิจ Superfood
อาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการระดับสูง มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น กลุ่มฟังก์ชันนอลฟู้ด โปรไบโอติกส์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งผลให้การผลิตอาหารได้รับการพัฒนาแปรรูปให้สามารถกินได้ง่ายขึ้น เก็บได้ระยะยาว และยังคงคุณค่าสารอาหารเอาไว้ได้ด้วย
.
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเทรนด์อาหารที่กำลังเป็นที่สนใจจากทั้งผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและผู้บริโภคด้วย นั่นคือ “อาหารอนาคต” หรืออาหารทางเลือกที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทางนวัตกรรมหรือพัฒนาจากวัตถุดิบใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่าง “โปรตีนจากพืช” เช่น โปรตีนจากถั่วลูกไก่ แป้งจากดอกกะหล่ำ รวมถึงการสกัดโปรตีนจาดจิ้งหรีดก็มี แล้วนำสิ่งเหล่านี้ไปคิดค้นปรับเปลี่ยนในรูปแบบเมนูอาหารที่หลากหลาย
.
ซึ่งเหตุผลที่อาหารอนาคตได้รับความสนใจ เนื่องจากในอนาคตนวัตกรรมอาหารเหล่านี้ จะกลายมาเป็นอาหารทดแทนของมนุษย์ เมื่อวันหนึ่งโลกจะต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหาร ดังนั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการ นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย เร่งพัฒนาอาหารอนาคต ให้ผู้บริโภคทานง่ายขึ้น พร้อม ๆ กับเปิดใจรับมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและเป็นอีกหนึ่งอาหารทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และปลอดภัย
.
อย่างไรก็ดี นับว่าเป็นโอกาสการลงทุนในด้านอาหารและเครื่องดื่มที่สำคัญของไทย เพราะในฐานะที่เป็น ครัวของโลก หากยึดติดอยู่กับอาหาร เครื่องดื่มรูปแบบเดิมๆ ก็อาจจะไล่ตามพฤติกรรม ความต้องการของผู้บริโภคไม่ทัน ทั้งยังทำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกบริโภคอาหารจากประเทศอื่นๆ ก็ได้
.
ดังนั้น ต้องเร่งปรับตัว หันมาพัฒนานวัตกรรมอาหารรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ที่ไม่ได้ต้องการแค่ความอร่อยหรือความหลากหลาย แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการ มาตรฐานความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
.
ถ้าธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของคุณ สามารถทำได้แบบนี้ รับรองว่า ไม่เพียงแค่สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมของไทย รวมถึงช่วยเพิ่มรายได้ทั้งจากการขายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย
.
ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com/en/food-trends-and-consumer-behavior-2021
https://www.thairath.co.th/news/business/2012751
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#เทรนด์อาหารเครื่องดื่ม #อาหาร #อาหารเพื่อสุขภาพ #อาหารอนาคต
#เครื่องดื่ม #เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ #ครัวของโลก #พฤติกรรมผู้บริโภค #ธุรกิจอาหาร #เทรนด์2021

Big Data คืออะไร? ใช้ทำอะไร? แล้วเราใช้ได้หรือเปล่า?
.
ได้ยินบ่อยแต่ชักสงสัย ข้อมูลมาจากไหนนะ? เก็บจากอะไร?
ใครได้ประโยชน์? แล้วถ้าเราอยากใช้ จะทำได้หรือเปล่า ?

Tag :
-------------------------------------------------------------
ABOUT ME
Instagram: http://www.instagram.com/ldaworld
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Twitter: http://twitter.com/ldaworlds
Blog: http://www.ldaworld.com
ติดต่องาน/ลงโฆษณา : contact@flourish.co.th
โทร : 086-363-6683