雖然這篇พระอุระ หมายถึง鄉民發文沒有被收入到精華區:在พระอุระ หมายถึง這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 พระอุระ產品中有2篇Facebook貼文,粉絲數超過19萬的網紅Danai Chanchaochai,也在其Facebook貼文中提到, พระแก้วมรกตเทวดาสร้าง! จริงหรือไม่ ตามประวัติกล่าวว่า พระแก้วมรกตพระองค์นี้ เทวดาสร้างถวายพระอรหันต์ องค์หนึ่ง มีนามว่า พระนาคเสนเถระ แห่งเมืองปาตลี...
พระอุระ 在 Danai Chanchaochai Facebook 的最佳貼文
พระแก้วมรกตเทวดาสร้าง! จริงหรือไม่
ตามประวัติกล่าวว่า
พระแก้วมรกตพระองค์นี้ เทวดาสร้างถวายพระอรหันต์
องค์หนึ่ง มีนามว่า พระนาคเสนเถระ แห่งเมืองปาตลีบุตรในอินเดีย
พระนาคเสน ได้อธิษฐานอาราธนาพระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้า ให้ประดิษฐานอยู่ในองค์พระแก้วมรกต ๗ พระองค์ คือ
ในพระโมฬี พระนลาฏ พระอุระ พระอังสาทั้ง ๒ ข้าง พระชานุทั้ง ๒ ข้าง
ต่อมาพระแก้วมรกตได้ตกไปอยู่ที่เมืองลังกา เมืองกัมโพชา เมืองศรีอยุธยา เมืองละโว้ เมืองกำแพงเพชร และเมืองเชียงราย ตามลำดับ เจ้าเมืองเชียงรายได้เอาปูนทาแล้วลงรักปิดทอง นำไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่เมืองเชียงราย เพื่อซ่อนเร้นจากศัตรู
เมื่อ พ.ศ. ๑๙๗๙ เกิดฟ้าผ่าที่องค์เจดีย์ ชาวเมืองได้เห็นพระพุทธรูปปิดทองปรากฎอยู่ คิดว่าเป็นพระพุทธรูปศิลาทั่วไป จึงได้อัญเชิญไปไว้ในวิหารในวัดแห่งหนึ่ง
ต่อมาปูนที่ลงรักปิดทองได้กะเทาะออกที่ปลายพระนาสิก เห็นเป็นเนื้อแก้วสีเขียว จึงได้แกะปูนออกทั้งองค์ จึงพบว่าเป็นพระพุทธรูปแก้วทึบทั้งองค์ ผู้คนจึงพากันไปนมัสการ
พระเจ้าสามฝั่งแกน เจ้าเมืองเชียงใหม่ จึงจัดกระบวนไปอัญเชิญพระแก้วมรกตมาเชียงใหม่ แต่ช้างที่ใช้อัญเชิญได้หันเหไปทางลำปางถึงสามครั้ง จึงต้องยอมให้อัญเชิญไปประดิษฐานที่ นครลำปางถึง ๓๒ ปี ที่วัดพระแก้ว ยังปรากฎอยู่ถึงปัจจุบันนี้
เมื่อ พ.ศ. ๒๐๑๑ พระเจ้าติโลกราชครองเมืองเชียงใหม่ ได้อัญเชิญพระแก้วมรกต มาประดิษฐานที่เมืองเชียงใหม่ เป็นเวลา ๘๔ ปี
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๔ พระเจ้าไชยเชษฐา โอรสพระเจ้าโพธิสาร ซึ่งเป็นพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) ได้ครองเมืองเชียงใหม่ต่อจากพระอัยกา
ครั้นเมื่อพระเจ้าโพธิสารทิวงคต ทางกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงเชิญพระเจ้าไชยเชษฐา กลับไปเมืองหลวงพระบาง จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วย เมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๕
และได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองหลวงพระบาง ๑๒ ปี ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๑๐๗ ได้ย้ายราชธานีไปอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วย พระแก้วมรกต ได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์อีก ๒๑๔ ปี
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขณะที่ทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้ยกกองทัพ ไปตีได้เมืองเวียงจันทน์
และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตพร้อมกับพระบาง มายังกรุงธนบุรี ได้ประดิษฐานไว้ ณ โรงพระแก้วในบริเวณพระราชวังเดิม ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ฯ ได้ครองราชย์ที่กรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ ได้ทรงโปรดให้ประดิษฐานพระแก้วมรกต ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๗
พระแก้วมรกตถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทยเรามานาน เปรียบได้ดังตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังคำบอกเล่าของบูรพาจารย์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต
"พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด
ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล
พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด
ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม"
บุญสูงสุดที่ได้เห็น
ชมคลิปพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต
https://youtu.be/xlwW7D4JmHU
มูลนิธิธรรมดี
พระอุระ 在 SquidMan.ExE Facebook 的精選貼文
ฝากแจ้งกันหน่อย ช่วงนี้จะเห็นกันเยอะประมาณนึง...
ที่บางคนอาจจะผิดพลาดและอาจไม่เหมาะสม...
ในเรื่องของการนำพระบรมฉายาลักษณ์หรือพระรูป...
มาโพสต์กันในเฟซบุคหรือส่งกันในไลน์...
หนักกว่านั้นคือทำเป็นรูปโปรไฟล์หรือ Cover แม้กระทั่ง...
- นำพระบรมฉายาลักษณ์มาพิมพ์ตัวอักษรทับพระวรกาย...
- นำพระบรมฉายาลักษณ์มาพิมพ์ตัวอักษรเหนือพระเศียร...
- นำพระบรมฉายาลักษณ์มาตกแต่งจนผิดธรรมชาติ...
- นำชื่อตัวเองไปวางบนพระบรมฉายาลักษณ์...
- ใส่คำราชาศัพท์ไว้นอกกรอบก็จริงแต่พิมพ์ไม่ถูกต้องหรือพิมพ์ผิดๆถูกๆ...
ถ้าเห็นโพสต์ต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่จะทำแน่นอน...
เพราะผิดต่อแบบแผนที่สำนักราชเลขาธิการได้ให้แนวทางไว้...
ต่อให้มีการอ้างว่า "ทำเพราะความจงรักภัคดี" หรืออย่างไรก็ตาม...
อย่างน้อยๆควรที่จะเรียนรู้จักการนำพระบรมฉายาลักษณ์ไปใช้อย่างเหมาะสมด้วย...
ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราๆที่รักพระองค์ท่านนี่แหละที่จะต้องไม่ทำ...
และไม่ส่งเสริมการกระทำที่มิบังควร...
อย่าไลค์ อย่าแชร์ (และควรเตือนผู้โพสต์)เกี่ยวกับภาพที่เข้าข่ายข้างต้น...
อ้างอิงจาก http://www.oknation.net/blog/tewson/2016/01/15/entry-1
๑ พระบรมฉายาลักษณ์/พระฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์/พระสาทิสลักษณ์ ที่มีข้อความใดๆ เหนือพระเศียร และตัวอักษรทับพระองค์…อย่าทำ...อย่าไลก์...อย่าแชร์ (จะเห็นว่า นิตยสารที่อัญเชิญ พระบรมฉายาลักษณ์/พระฉายาลักษณ์/พระรูป ลงปก จะต้องเปลี่ยนตำแหน่งชื่อนิตยสารมาไว้ข้างล่างเสมอ)
๒.พระบรมฉายาลักษณ์/ พระฉายาลักษณ์ ที่นำมาตกแต่งผิดไปจากเดิม หรือใช้เทคนิคจนเกินความเป็นธรรมชาติด้วยวิธีการใดๆ แล้วส่งทักทายสวัสดีกัน ทั้งในเฟชบุ๊ก และในไลน์...อย่าทำ...อย่าไลก์ อย่าแชร์
๓.พระบรมฉายาลักษณ์/ พระฉายาลักษณ์ ที่นำมาตกแต่ง และใส่เครดิตตนเองลงไปด้านล่างไม่ว่าจะตัวเล็กหรือใหญ่...มิบังควรอย่างยิ่ง อย่าทำ...อย่าไลก์ อย่าแชร์
๔.มิบังควร นำพระบรมฉายาลักษณ์/ พระฉายาลักษณ์ มาเป็นภาพโปรไฟล์ของตนเอง แม้ด้วยแรงจูงใจจงรักภักดี แต่ภาพโปรไฟล์ คือ ภาพแสดงตัวตนคนนั้นๆ...จึงเป็นการกระทำที่มิบังควรอย่างยิ่ง...อย่าทำเด็ดขาด
๕.การเขียนถวายราชสดุดีหรือถวายพระพรชัยมงคล คู่กับ พระบรมฉายาลักษณ์/ พระฉายาลักษณ์ จะต้องแยกส่วนชัดเจน หรือขอบเขตแยกต่างหาก และต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ต้องไม่สูงเกินกว่า พระอุระ/พระทรวง
นอกจากนี้ หากจะทำพระฉายาลักษณ์/พระรูป เผยแพร่ พร้อมพระนามเพื่อแสดงความจงรักภักดีในโอกาสต่างๆ จะต้องใส่พระนามพร้อมพระราชอิสริยยศ/พระอิสริยศ ให้ครบถ้วนเสมอ (เว้นแต่ "พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เขียนแต่เพียงเท่านี้) มิบังควรเขียนสั้นๆ เช่น พระเทพฯ พระบรมฯ องค์โสมฯ องค์ภาฯ เว้นแต่เอ่ยพระนามลำลองส่วนตัว และคำบรรยายต้องอยู่ในตำแหน่งใต้พระฉายาลักษณ์ ไม่ใช่เหนือพระเศียร
และที่สำคัญ หากจะทำภาพ พระบรมฉายาลักษณ์/พระฉายาลักษณ์/พระรูป เพื่อถวายพระพรชัยมงคลในโอกาสสำคัญ พร้อมเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ในนามองค์กรหรือหน่วยงาน จะต้องทำเรื่อง ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต/ พระราชานุญาต ขอประทานพระอนุญาต ผ่านสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เพื่อนำความกราบบังคมทูล, กราบทูล ต่อไป