[爆卦]ผู้ป่วยวิกฤต คือ是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇ผู้ป่วยวิกฤต คือ鄉民發文沒有被收入到精華區:在ผู้ป่วยวิกฤต คือ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ผู้ป่วยวิกฤต產品中有3篇Facebook貼文,粉絲數超過3萬的網紅ณัชชา พุฒ พร้อม เภา,也在其Facebook貼文中提到, ดูปากณัชชานะคะ‼‼ 📌 1 ทุ่มตรง วันนี้‼‼📌เปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วโลก 👍English with Natcha กับโครงการ Chance รอบที่ 3 🥳🥳🥳🥳 เตรียมตัวให้พร้อมกับคอร์สเรี...

ผู้ป่วยวิกฤต 在 ณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบ & ครอบครัว Instagram 的最讚貼文

2021-09-03 16:05:24

#เปิดรับสมัครโครงการ Chance รอบที่ 3 เตรียมตัวให้พร้อมนะคะกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ "English with Natcha" เราจะเปิดรับสมัครพร้อมกัน 📌วันจันทร์ที่ 30 ...

  • ผู้ป่วยวิกฤต 在 ณัชชา พุฒ พร้อม เภา Facebook 的精選貼文

    2021-08-30 10:23:22
    有 26 人按讚

    ดูปากณัชชานะคะ‼‼ 📌 1 ทุ่มตรง วันนี้‼‼📌เปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วโลก
    👍English with Natcha กับโครงการ Chance รอบที่ 3 🥳🥳🥳🥳

    เตรียมตัวให้พร้อมกับคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ "English with Natcha"
    ✅รอบนี้จะเปิดการเรียนการสอนวันเสาร์ที่ 23 ต.ค. 64 - วันเสาร์ที่ 13 พ.ย. 64
    ✅รายได้ทั้งหมดจากการเข้าร่วมโครงการจะนำไปบริจาคมูลนิธิ ร.พ.เด็ก ภายใต้โครงการ "Little Miracle ผู้ป่วยวิกฤต ICU (รวมไปถึงผู้ป่วยเด็กโควิด) ....ยังมีเด็กอีกมากที่รอความช่วยเหลือจากพวกเราค่ะ

    ที่ผ่านมา ...โครงการ Chance รอบที่ 1 และ 2 ได้ทำการบริจาคให้กับมูลนิธิ ร.พ.เด็กไปทั้งสิ้น 110,000 บาทค่ะ (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน)

    🙏🙏🙏🙏กราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนและเปิดโอกาสให้เด็กๆสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันที่แท้จริงค่ะ

    สำหรับน้องๆที่พลาดโอกาสรอบที่ผ่านมา รอบนี้ห้ามพลาด‼‼
    พี่ณัชชารอน้องๆทุกคนอยู่ค่า ❤️❤️
    🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
    #EnglishWithNatcha
    #ChanceThailand
    #ดูปากณัชชานะคะ

    📌📌Link ช่องทางการสมัคร📌📌
    https://forms.gle/U61JFzWfXYdY8EAU9

  • ผู้ป่วยวิกฤต 在 Drama-addict Facebook 的最佳解答

    2021-07-18 23:52:06
    有 824 人按讚

    ข่าวประชาสัมพันธ์ : รพ.พระมงกุฏเกล้าประกาศแนวทางการให้บริการของโรงพยาบาลในสถานการณ์โควิด 19
    เนื่องด้วยในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก ทาง รพ.พระมงกุฎเกล้า ขอแจ้งการดำเนินการดังนี้
    1.งดผ่าตัดล่วงหน้า (Elective case) และหัตถการที่ไม่จำเป็น ยกเว้นกรณีเร่งด่วน ฉุกเฉิน
    2.ห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ให้บริการเฉพาะ ผู้ป่วยวิกฤต ฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน
    3.ลดการให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) โดยงดรับผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยส่งต่อ และผู้ป่วยเดิมที่ไม่ได้นัด ยกเว้นผู้ป่วยวิกฤต ฉุกเฉิน หรือเร่งด่วน
    4.ผู้ป่วยอาการคงที่ ติดต่อขอรับยาทางไปรษณีย์ได้ทาง https://bit.ly/pmkdlv หรือ QR code
    รพ.พระมงกุฎเกล้า ขออภัยในความไม่สะดวก ณ โอกาสนี้ (18/7/64)

  • ผู้ป่วยวิกฤต 在 Facebook 的最佳貼文

    2021-06-05 21:54:25
    有 6,368 人按讚

    "รู้จักกับคุณแม่บ้านและประสบการณ์ศึกษาต่อและทำงานของสายอาชีพพยาบาลในเยอรมนี"

    มาๆ วันนี้พ่อบ้านจะขอนำคุณไปรู้จักคุณแม่บ้านให้มากขึ้นกัน!! 💕ว่าแล้วไปลุยกันน๊า~

    สวัสดีค่ะชื่ออลิสนะคะ​ หรือบางคนอาจจะเรียกติดปากว่าคุณแม่บ้าน​ 😆​

    ปัจจุบันทำอาชีพเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉินที่เยอรมนี​ และมีโอกาสได้ทำหน้าที่ล่ามภาษาไทยให้ทีมแพทย์เยอรมันเวลาไปสอนที่เมืองไทย​ด้วยค่ะ 😊

    วันนี้มีโอกาสเลยอยากมาทำความรู้จักและแชร์ประสบการณ์การเรียนสายอาชีพในสาขาพยาบาลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ​ และกำลังใจให้สำหรับคนที่กำลังศึกษาต่อในด้านนี้ที่เยอรมันค่ะ

    โดยในสมัยก่อนนั้นตอนที่อลิสมานั้น​ ได้ทำการสมัครโดยใช้ผลสอบด้านภาษาในระดับ C1 แต่ในปัจจุบันในหลายๆที่ ได้มีการปรับเงื่อนไขลงจนเหลือ​ระดับ​ B2

    และนอกจากนี้คนที่จบพยาบาลจากไทยยังสามารถทำเรื่องเทียบวุฒิได้​ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องไปเรียนหรือฝึกงานเพิ่มเติมค่ะ โดยขึ้นอยู่กับประสบการณ์และรัฐที่เราทำการเทียบวุฒิด้วย

    โดยปกติโรงพยาบาลขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ของเยอรมัน​ ก็จะมีวิทยาลัยสอน​พยาบาลในรพ.นั้นๆเลยค่ะ​ เรียกได้ว่าเรียนจบมาก็ทำงานต่อกันได้เลยไม่ต้องออกไปหางานให้เหนื่อย​ รพ.ที่อลิสเรียนและได้มีโอกาสทำงานมากว่า 10 ปี​ มีประมาณ1,000 เตียงค่ะ​ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรพ.ที่ใหญ่ระดับนึงเลย​ (คนไข้ก็เยอะตามไปด้วยค่ะ 😅)​

    เรียนยากมั้ย? และเรียนกี่ปี?

    สำหรับหลักสูตรพยาบาลที่เยอรมันจะทำการเรียนเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยเป็นรูปแบบการเรียนทฤษฎี​ และปฏิบัติควบคู่กันไป​ คือเข้าคลาส​เรียน​ อาจจะ3-4เดือน​ และต่อด้วยเข้าฝึกงานอีก2-3เดือน​ เรียนแบบนี้ไปพร้อมๆกัน​ เรื่อยๆจนจบค่ะ

    ซึ่งอลิสเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ดีงามมาก​กกก มันคือการได้ทำงานพยาบาลจริงๆ​ ขึ้นวอร์ดจริง​ คนไข้จริง​ เคสฉุกเฉินจริง​ CPRจริง​ มันทำให้เราสนุกกับการเรียนมาก​ และการได้เข้าปฏิบัติงาน​ มันทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เราเพิ่งเรียนไปในทางทฤษฎี​ และยังได้รู้จักการทำงานของแต่ละแผนก​ เช่นแผนกผิวหนัง, ศัลยกรรม, หูคอจมูก, ห้องผ่าตัด, ห้องฉุกเฉิน, ผู้ป่วยวิกฤต, ห้องคลอด​ ฯ (รวมถึงเข้าห้องชันสูตรศพด้วย​ อันนี้คือไม่บังคับ

    "ถามว่าอลิสได้เข้าไปมั้ย? เข้าค่ะ!"

    ผ่านไปสิบกว่าปีแล้วยังไม่ลืมภาพคุณยายอาจารย์ใหญ่ท่านนั้นเลย)​ คือเวียนไปจบครบทุกแผนก​ ซึ่งมันมีผลให้เราได้​ค้นพบตัวตนตั้งแต่ตอนเรียนเลย​ พอจบมาก็เป็นเหมือนตัวช่วย​ ให้รู้ว่าเราชอบด้านไหน​ และเลือกที่จะทำงานแผนกใด​ ซึ่งผู้ที่สอบจบได้คะแนนสูงจะเป็นผู้ที่มีสิทธิ​เลือกก่อน​ ก่อนจบอาจารย์จะให้ทำการแจ้งไว้3แผนกที่อยากไปทำ​มากที่สุด ส่วนอลิสสอบได้ที่3ค่ะ​ (แอบเกินคาด)​

    และมีเมนเทอร์จากแผนกที่เลือกไว้ทั้ง 3 แผนกเขียนจดหมายถึง Chief Nursing Officer ว่าอยากได้เราไปทำงานด้วยค่ะ​ ทั้งปลื้มใจทั้งเครียด​ เลือกไม่ถูกว่าจะไปทำงานที่ไหนดี​ คิดอยู่หลายคืนจนในที่สุดก็เลือกแผนกฉุกเฉินค่ะ​ เพราะคิดว่ามันเป็นงานที่ท้าทาย​ และเราจะได้เรียนรู้อะไรๆอีกมากมาย​ และที่สำคัญเวรดึก​จะไม่ต้องอยู่คนเดียวค่ะ! (สมัยก่อนกลัวผี😂😂)​

    อ้อ​ และต้องไปฝึกงานและเรียนรู้เรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เช่นต้องไปเรียนรู้ระบบประกันสังคมในบริษัทประกัน​ ไปโรงพยาบาลจิตเวช​ รวมทั้งสถานบำบัดคนติดยาด้วย และเมื่อมีโอกาสไปทำงานทุกแผนกแล้ว

    คุณก็จะต้องสอบ!! วัดใจกันเลยล่ะค่ะ

    สอบปฏิบัติ : จากที่คุณได้ไปทำงานหรือฝึกงานในทุกแผนกแล้ว ดังนั้นคุณพอรู้แล้วใช่มั้ยว่าแผนกไหนที่คุณชอบที่สุด และอยากไปประจำอยู่แผนกไหน ดังนั้น คุณจะต้องทำการเลือกแผนกที่คุณถนัดที่สุดเป็นแผนกในการสอบปฏิบัติ ซึ่งแต่ละแผนกนั้นก็จะมีวิธีในการสอบแตกต่างกันอย่างชัดเจน

    สอบปากเปล่า : คุณจะต้องเดินเข้าไปจับฉลากเรื่องที่คุณจะต้องสอบแล้วพูดตรงนั้นเลยทันที​ มีผู้คุมสอบ3ท่าน​ อาจารย์ของเรา 2 ท่านและคุณหมอ1ท่าน​ อลิสจับฉลากได้เรื่องของ "โรคปอด" คุณก็ต้องพูดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นให้มากที่สุด ทั้งAnatomy และโรคต่างๆ​ และที่สำคัญคือห้ามหยุด เป็นเวลาอย่างน้อย 25-30 นาที! (ถ้าหยุดหรือพูดผิดจะโดนถามเจาะลึกทันที ดิฉันต้องขอบอกว่าวันนี้ล่ะ​ ที่พูดภาษาเยอรมันไฟแล่บมากที่สุดในชีวิต😅)

    สอบข้อเขียน : คือว่ายากกกกที่สุด​ คือคุณจะต้องไปสอบภาคทฤษฏีที่สุดแสนหฤโหด ที่รวบรวมทุกอย่างที่คุณเรียนมา โดยจะทำการสอบที่ใช้ข้อสอบเดียวกันพร้อมกันทั้งรัฐ โดยสภาพยาบาลกลางประจำรัฐจะเป็นผู้ตรวจข้อสอบและออกข้อสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการโกงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด​ คืออลิสกลัวมาก เนื่องด้วย​ ณ​ ตอนนั้นภาษาเยอรมันก็ไม่ได้เป๊ะเท่าไหร่​ ไม่รู้เขียนไปยังไงได้10หน้ากระดาษ​ A4​ แม่งงตัวเองมากค่ะ ไม่มีหรอกนะคะสุ่มกากบาทวัดใจเหมือนตอนเด็กๆ😂

    เท่าที่สัมผัสและสอบถามมา​ น้อยนักที่จะสอบผ่านกันทั้งห้อง เพราะด้วยความยากสุดๆของการสอบนี่เองค่ะ

    และการเรียนพยาบาลที่นี่​ มีรายได้ระหว่างเรียนด้วย!

    การทำ Ausbildung ที่เยอรมันนั้นส่วนใหญ่จะมีรายได้ระหว่างเรียนและอาชีพพยาบาลก็เช่นกันโดยขออ้างอิงจาก Website Ausbildung.de โดยค่าเฉลี่ยคือในปัจจุบันคือ

    ปีแรกได้เดือนละ = 1,040 Euro (39,520 บาท)
    ปีที่สอง​ได้เดือนละ = 1,100 Euro (41,800 บาท)
    ปีที่สาม​ได้เดือนละ = 1,200 Euro (45,600 บาท)

    ข้อดีคือเมื่อคุณจบพยาบาลของเยอรมนีนั้นคุณสามารถจะไปทำงานได้หลากหลายประเทศมากค่ะเพื่อนหลายคนย้ายไปทำงานที่สวิส หรือประเทศอื่นๆ มากมาย และโอกาสในการตกงานของอาชีพนี้นั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นศูนย์​เลยทีเดียว​(ถ้าคุณไม่ได้ไปทำผิดอะไรร้ายแรงนะ😅)​

    แต่ก็ต้องบอกว่าอาชีพนี้​ ในบางแผนกจะเครียดมาก อย่างอลิสที่ทำในแผนกฉุกเฉิน ซึ่งทุกนาทีหมายถึงชีวิตคนไข้กันเลยทีเดียว​ คือแม้จะรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะต้องเครียดและทำงานแข่งกับเวลา​

    สำหรับแนวทางการต่อยอดของสายอาชีพนี้นั้นถ้าคุณยังไม่หมดไฟ ยังสามารถต่อสายเฉพาะทางเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านต่างๆ หรือว่านำไปเทียบและสามารถเปลี่ยนไปเรียนอาชีพอื่นๆ ในสายการแพทย์ได้​อีกด้วย​ (การเทียบนั้นจะได้มากหรือน้อยมีหลายปัจจัยเลยค่ะ)

    เรื่องของการลาพักร้อน​ และพักผ่อนที่นี่คือดีมาก​ เวลาหยุดบินกลับไทยทีก็ไปเลย6 -​7อาทิตย์​ จนเพื่อนๆที่ไทยคิดว่าอีนี่โดนไล่ออกไปแล้ว😅 แต่ด้วยกฏหมายที่ระบุไว้​ บวกกับการได้หยุดพิเศษเพิ่มเติมจากการเข้าเวรดึก​ เราก็จะสะสมเอาไว้ได้ค่ะ

    และตอนนี้มีลูกชายตัวน้อยๆ​ ชื่อน้องคริส​ ตอนนี้ 1 ขวบแล้วค่ะ​ อลิสเลือกลา 2 ปีอยู่ดูแลลูกที่บ้านค่ะ​ โดยก็ยังได้เงินสนับสนุนจากทางรัฐ​

    ส่งท้าย!! ตอนที่เรียนท้อบ่อยมากค่ะ​ เพราะด้วยความที่เกิดที่ประเทศไทยและใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยมาระยะนึง​ ก่อนจะย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่นี่ตอนประมาณ16​ ปี​

    ภาษาเยอรมันก็ไม่เป๊ะ มาถึงก็เข้าคอร์สภาษาไปเลยเกือบ 1 ปีเต็ม​ ดังนั้นเวลาที่เรียนในสมัยก่อน Dictionary คือสิ่งที่ต้องพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา​ และคืออัดเสียงอาจารย์กลับไปฟังที่บ้านอีกรอบนึง!! (อาจารย์อนุญาต)​ วิชายากๆ หรือวิชาที่อาจารย์พูดเร็วๆ​นี่เครียดมาก

    ซึ่งปัจจุบันแม้จะผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว​ ก็ยังได้ฟังมาจากรุ่นน้องแทบทุกรุ่นที่เข้ามาฝึกงานกับเรา​ บอกว่า​ "อ้อออ.. พี่นี่เองที่อาจารย์เล่าให้ฟัง! " คืออาจารย์เอาเคสของเราไปบอกต่อรุ่นน้องถัดๆไป​ ถึงการนั่งเรียนไปเปิดดิคไป​ แต่ก็ยังผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้!

    "เพราะเชื่อว่าถ้าทุกคนมีความฝันและตั้งใจ อยากจะทำอะไรก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ"

    #ทีมพยาบาล #พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German

你可能也想看看

搜尋相關網站