[爆卦]ปัจจัย4是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇ปัจจัย4鄉民發文沒有被收入到精華區:在ปัจจัย4這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ปัจจัย4產品中有176篇Facebook貼文,粉絲數超過178萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Facebook貼文中提到, สรุป วอร์แรนท์ คืออะไร เข้าใจในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน ถ้าใครเคยจองซื้อคอนโดฯ เจ้าของโครงการจะออกเอกสารที่แสดงถึงการจองสิทธิเพื่อซื้อคอนโดฯ ไว้เบื้อง...

 同時也有11部Youtube影片,追蹤數超過75萬的網紅เสกสรร ปั้น Youtube,也在其Youtube影片中提到,https://sekyoutube.com/how-to-get-1-subscriber/ กว่าจะได้คนติดตามในยูทูป 1 คน ต้องทำอย่างไร? ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย 1. คนดูจะต้องค้นหาคลิปของเราเจอ ซึ่...

ปัจจัย4 在 Tai Orathai | ต่าย อรทัย Instagram 的精選貼文

2021-09-24 12:22:08

ไม่เคยคิดเลยว่า โควิดระบาดหนักในรอบล่าสุดนี้!! จะรุนแรงถึงขนาด อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ไกล!! เรียกว่าชายแดนไทย-เขมร-ลาว บ้านเกิดของต่าย จะมี ...

  • ปัจจัย4 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答

    2021-08-31 11:00:07
    有 2,302 人按讚

    สรุป วอร์แรนท์ คืออะไร เข้าใจในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
    ถ้าใครเคยจองซื้อคอนโดฯ เจ้าของโครงการจะออกเอกสารที่แสดงถึงการจองสิทธิเพื่อซื้อคอนโดฯ ไว้เบื้องต้น โดยเรามีหน้าที่วางเงินเป็นหลักประกัน และชำระเงินตามเงื่อนไขภายในวันเวลาที่กำหนด

    แต่ถ้าเราไม่ทำตามเงื่อนไขภายในระยะเวลาที่กำหนด คอนโดฯ ที่เราจองไว้ก็จะถูกนำไปขายให้คนอื่น ซึ่งแนวคิดนี้ก็มีส่วนคล้ายคลึงกับ การถือสิ่งที่เรียกว่า “วอร์แรนท์”

    หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกับการซื้อขายหุ้น แต่ก็มีหลายคน อาจจะยังไม่รู้จักวอร์แรนท์ ทั้งที่ก็เคยได้ยินคำนี้มาบ่อยครั้ง

    แล้ว วอร์แรนท์ คืออะไร ?
    และทำไมบางบริษัทชอบออกตราสารประเภทนี้ให้กับผู้ถือหุ้น
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    วอร์แรนท์ คือ ตราสารที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อหลักทรัพย์ที่วอร์แรนท์นั้นอ้างอิงอยู่ (Underlying Asset) ซึ่งมีตั้งแต่หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้ หรือหน่วยลงทุน โดยจะกำหนดราคาใช้สิทธิ (Exercise Price) เอาไว้

    ที่เราคุ้นเคยกัน หลักทรัพย์ที่มีวอร์แรนท์อ้างอิงมักเป็น หุ้นสามัญของบริษัทต่าง ๆ
    โดยทั่วไป บริษัทจดทะเบียนมักจะแจกวอร์แรนท์ฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิม
    ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดใจให้มาใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มในอนาคต

    โดยเงื่อนไข รายละเอียด หรือจุดสำคัญ ที่ผู้ถือวอร์แรนท์ต้องทำความเข้าใจให้ดี ๆ จะประกอบไปด้วย ราคาใช้สิทธิ, รายละเอียดการใช้สิทธิ, ระยะเวลาที่ใช้สิทธิได้ และอายุคงเหลือของวอร์แรนท์

    ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็เช่น
    สมมติว่า เราเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟและจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น ต่อมาคิดว่าอีก 3 ปีข้างหน้า เราต้องการใช้เงินทุนเพื่อขยายสาขาไปต่างประเทศ

    ดังนั้น เราจึงต้องการออกวอร์แรนท์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
    โดยกำหนดให้ อัตราส่วนหุ้นต่อวอร์แรนท์ที่จะได้รับ คือ 4:1, อัตราส่วนการแปลงสภาพ คือ 1:1, ราคาใช้สิทธิ 20 บาท ใช้สิทธิได้ปีละครั้ง และเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 30 ธ.ค. 2564 ไปจนถึง 30 ธ.ค. 2568

    ซึ่งในกรณีนี้สรุปได้ว่า
    - ผู้ที่ถือหุ้นในธุรกิจร้านกาแฟของเรา ถ้าถือหุ้นอยู่ 4 หุ้นจะได้ 1 วอร์แรนท์
    - ผู้ถือหุ้นสามารถใช้ 1 วอร์แรนท์ แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น โดยจ่ายเงินให้บริษัทเรา 20 บาท
    - วอร์แรนท์มีอายุ 4 ปี โดยใช้สิทธิแปลงสภาพได้ปีละครั้ง โดยผู้ถือหุ้นจะเริ่มใช้สิทธิได้ครั้งแรก ในวันที่ 30 ธ.ค. 2564 และครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 ธ.ค. 2568

    ทั้งนี้ เมื่อผู้ถือวอร์แรนท์มาใช้สิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ บริษัทจดทะเบียนที่ออกวอร์แรนท์ ก็จะได้เงินทุนเพิ่ม เพื่อมาใช้ในกิจการ ส่วนคนที่มาใช้สิทธิแปลงวอร์แรนท์เป็นหุ้นสามัญก็จะได้หุ้นเพิ่ม

    อย่างไรก็ตาม มันยังมีอีกกรณีหนึ่ง
    คือคนที่ถือวอร์แรนท์อยู่ อาจไม่เก็บวอร์แรนท์ไว้ใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญด้วยตัวเองก็ได้
    เนื่องจากวอร์แรนท์นั้นสามารถนำไปขายเปลี่ยนมือในตลาดหุ้นได้ และราคาของวอร์แรนท์ในตลาด ในแต่ละช่วง ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามหลาย ๆ ปัจจัย เช่น

    1. ราคาสินค้าสินทรัพย์อ้างอิง
    วอร์แรนท์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่สูงขึ้น และลดลงหากราคาหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นลดลง

    2. ราคาใช้สิทธิ เทียบกับราคา สินทรัพย์อ้างอิง
    หากราคาใช้สิทธิ สูงกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงมาก ๆ ก็จะทำให้ราคาของวอร์แรนท์นั้นต่ำ

    เนื่องจากนักลงทุนมองว่า โอกาสที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวสูงกว่าราคาใช้สิทธินั้นมีน้อย ซึ่งหากเอาวอร์แรนท์นั้นไปใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้นสามัญแล้วเอามาขาย ก็ย่อมขาดทุน

    3. อายุคงเหลือของสัญญา
    มูลค่าของวอร์แรนท์จะค่อย ๆ ลดลง ตามอายุคงเหลือของวอร์แรนท์ที่ลดลง และถ้าวอร์แรนท์ไม่ได้ถูกใช้สิทธิภายในเวลาที่กำหนด วอร์แรนท์นั้น “จะมีค่าเป็นศูนย์”

    4. ความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
    ความผันผวนของระดับราคาสินทรัพย์อ้างอิง ยิ่งมีมากขึ้น จะส่งผลให้ราคาของวอร์แรนท์มีการเคลื่อนไหวผันผวนสูงตามไปด้วย

    สำหรับคนที่มีวอร์แรนท์อยู่ในมือ
    กรณีที่ราคาใช้สิทธิรวมกับราคาวอร์แรนท์แล้ว (กรณีที่ซื้อวอร์แรนท์มา) ต่ำกว่าราคาหุ้นที่อ้างอิงในตลาด ก็จะสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้น และเอาหุ้นนั้นไปขายในตลาดทำกำไร ซึ่งวอร์แรนท์นั้นจะถือว่ามีมูลค่า หรือเรียกว่า “In-the money”

    ในทางกลับกัน ถ้าราคาใช้สิทธิรวมกับราคาวอร์แรนท์ (กรณีที่ซื้อวอร์แรนท์มา) สูงกว่าราคาหุ้นอ้างอิงในตลาด ผู้ถือก็มักไม่ใช้สิทธิ เพราะไปซื้อหุ้นนั้นในตลาดได้ในราคาที่ถูกกว่า
    วอร์แรนท์นั้น ก็จะถือว่าไม่มีมูลค่า หรือเรียกว่า “Out-of-the money”

    โดยสิ่งที่ทำให้วอร์แรนท์ดึงดูดผู้ลงทุนคือ ความเป็น Leverage หรือที่หมายถึง การลงทุนที่ใช้เงินน้อยแต่มีโอกาสได้กำไรมาก โดยจำกัดความสูญเสียไว้ ซึ่งอย่างมากที่สุดก็คือ ต้นทุนที่ได้วอร์แรนท์มา
    ซึ่งบางคนได้มาฟรี ๆ ก็อาจมองว่าไม่เสียหายอะไร
    ส่วนผู้ที่ซื้อมาจากในตลาดอีกที แล้วใช้สิทธิไม่ทันหรือเลือกไม่ใช้สิทธิ ก็จะขาดทุนเท่าราคาที่ซื้อมา

    ถึงตรงนี้ คำถามที่บางคนอาจสงสัยก็คือ แล้วถ้าบริษัทต้องการเงินทุนเพิ่ม ทำไมไม่เลือกที่จะขอเพิ่มทุนตรง ๆ จากผู้ถือหุ้น แต่กลับเลือกที่จะออกวอร์แรนท์

    ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า การเพิ่มทุนจะเกิดผลกระทบจาก Dilution Effect ในทันที ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จำนวนหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาต่อหุ้นปรับตัวลดลง

    นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่สภาพตลาดหุ้นไม่ดี การเพิ่มทุนมักจะทำได้ยาก หรือถ้าบริษัทต้องการเพิ่มทุน บริษัทก็ต้องลดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนลงมา

    ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบกับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท แต่ยังทำให้บริษัทมีโอกาสได้เงินเพิ่มทุนน้อยกว่า ช่วงที่สภาพตลาดหุ้นคึกคัก ที่มีโอกาสขายหุ้นเพิ่มทุนได้ในราคาสูงกว่า

    การออกวอร์แรนท์นั้น สามารถชะลอผลกระทบของ Dilution Effect เนื่องจากจำนวนหุ้นเพิ่มทุนจะยังไม่เพิ่มขึ้นทันที จนกว่าผู้ถือวอร์แรนท์จะมาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ และจะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้

    นอกจากนี้ การออกวอร์แรนท์ ยังช่วยลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท หรือ Debt to Equity Ratio (D/E Ratio) เพราะเมื่อวอร์แรนท์ถูกใช้สิทธิแปลงสภาพ จะถูกบันทึกเข้ามาอยู่ในส่วนทุน ต่างจากกรณีที่บริษัทไปกู้ยืมเงินมา ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นหนี้สิน

    อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็จะสรุปได้ว่า
    วอร์แรนท์ เป็นตราสารที่ผู้ถืออาจได้มาฟรีหรือไม่ฟรีก็ได้

    ในกรณีที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิม อาจได้รับวอร์แรนท์มาฟรี ๆ หรือพ่วงมากับการขอเพิ่มทุนในรอบก่อน ๆ ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่แจกวอร์แรนท์ ถ้าอยากได้ ก็ต้องไปซื้อเอาจากคนที่เอามาขายต่อในตลาด

    ส่วนคนที่มีวอร์แรนท์อยู่ในมือ ก็สามารถเลือกที่จะใช้สิทธิ หรือไม่ใช้สิทธิก็ได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดมา
    สำหรับการออกวอร์แรนท์

    ในแง่ของบริษัทที่ออกวอร์แรนท์ ต้องคาดการณ์มูลค่าเงินทุนที่บริษัทต้องการใช้ในอนาคต ให้สอดคล้องกับอายุของวอร์แรนท์ รวมไปถึงราคาใช้สิทธิ เพื่อลดผลกระทบด้าน Dilution Effect ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมทั้งนำเงินทุนที่ได้จากการแปลงสภาพไปสร้างผลตอบแทนให้เหมาะสม

    ส่วนในแง่ของผู้ถือวอร์แรนท์ ก็ต้องศึกษารายละเอียดการใช้สิทธิแปลงสภาพ และเงื่อนไขต่าง ๆ ของวอร์แรนท์อย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องของ อายุคงเหลือของวอร์แรนท์ และเข้าใจความเสี่ยงของการถือหรือลงทุนในวอร์แรนท์ให้ดี

    เพราะเราอาจยังสามารถถือหุ้นอยู่ได้ เมื่อบริษัทเกิดปัญหาและราคาหุ้นปรับตัวลดลง ถ้าเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจของบริษัทจะฟื้นตัวกลับมาจนทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น

    แต่เราไม่สามารถถือวอร์แรนท์ไปได้ตลอด เพราะวอร์แรนท์มีอายุที่จำกัด
    ซึ่งถ้าเราซื้อวอร์แรนท์นั้นมาในราคาสูง มันก็ทำให้เราขาดทุนหนักได้เช่นกัน..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://www.sec.or.th/TH/Pages/Investors/EquityProduct-Warrants01.aspx
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Warrant_(finance)
    -https://www.drwealth.com/5-factors-affecting-the-price-of-warrants/
    -https://sias.org.sg/beginners-guide/key-factors-that-determine-a-warrant-price/
    -https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/warrant_issue_p1.html

  • ปัจจัย4 在 Facebook 的最讚貼文

    2021-08-08 13:00:45
    有 13 人按讚

    เมื่อไหร่ในชีวิต

    มีเงินมากกว่าที่ใช้ใน ปัจจัย 4

    นั่นคือ #กำไร

    -วรัทภพ รชตนามวงษ์-

  • ปัจจัย4 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文

    2021-08-05 11:00:32
    有 1,742 人按讚

    บราซิล ประเทศที่เคยเติบโตสูง แต่ตอนนี้คนอยากย้ายออก /โดย ลงทุนแมน
    หลายทศวรรษที่ผ่านมา บราซิล เคยได้รับการจับตามองว่า จะกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงประเทศหนึ่งของโลก เพราะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่น

    อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีมานี้ ความหวังนั้นค่อย ๆ ริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ
    เศรษฐกิจของบราซิลกลับเติบโตช้าลง จำนวนคนตกงานพุ่งสูงขึ้น

    เรื่องนี้ทำให้ชาวบราซิลจำนวนมาก เริ่มสิ้นหวังและตัดสินใจอพยพออกนอกประเทศ จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “สมองไหล”

    เรื่องนี้เป็นอย่างไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    รู้ไหมว่า ในช่วงระหว่างปี 2000-2011 บราซิลมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ เร็วที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยมีอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ยต่อปีในช่วงเวลาดังกล่าว มากกว่า 5% ต่อปี

    ข้อมูลจาก World Bank ระบุว่า ในปี 2012 GDP ของบราซิลสูงถึง 86.2 ล้านล้านบาท ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า GDP ของสหราชอาณาจักร
    และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ณ เวลานั้น

    รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนบราซิล เพิ่มขึ้นจากราว 123,600 บาท ในปี 2000 มาอยู่ที่ราว 426,700 บาท ในปี 2011

    จุดเริ่มต้นของทศวรรษแห่งการเติบโตของบราซิลนั้นเกิดมา ตั้งแต่ในช่วงทศวรรษที่ 1990 บราซิลหันมาใช้นโยบายเปิดเศรษฐกิจ รับการค้า การลงทุนจากต่างประเทศ
    ขณะที่ในปี 1995 บราซิลได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO)

    ทั้ง 2 ปัจจัย ทำให้มีการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศของบราซิลนั้นเพิ่มสูงขึ้น มูลค่าการค้าของประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการจ้างงานและการลงทุนต่าง ๆ ภายในประเทศเกิดขึ้นตามไปด้วย

    การเปิดประเทศยังช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตในประเทศ

    นอกจากนั้นแล้ว รัฐบาลบราซิลในตอนนั้น
    ยังได้แสดงเจตจำนงในการชำระหนี้ที่กู้จากต่างประเทศ
    ทำให้ภาระหนี้สินที่บราซิลกู้ยืมจากต่างประเทศ จากเดิมที่ประมาณ 59% ต่อ GDP ในปี 2003 ลดลงจนเหลือ 12% ต่อ GDP ในปี 2009

    ภาระหนี้สินที่กู้จากต่างประเทศที่ลดลงจนเหลือสัดส่วนต่ำ ช่วยสร้างความเชื่อถือให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของบราซิลให้โดดเด่นมากในเวลานั้น
    จนบราซิลเคยถูกจับตามองว่า เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทางด้านเศรษฐกิจ

    บราซิล ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีชื่อว่า “BRIC” ซึ่งประกอบไปด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน ก่อนที่จะเพิ่มประเทศแอฟริกาใต้เข้ามาอีกในปี 2010 และใช้ชื่อว่า “BRICS” ในปัจจุบัน

    แต่ใครจะรู้ว่า นับจากนั้นเศรษฐกิจของบราซิลก็เริ่มประสบปัญหา
    GDP ของบราซิล ในปี 2020 ลดลงมาเหลือ 47.6 ล้านล้านบาท จากที่เคยสูงกว่า 86 ล้านล้านบาท ในช่วงพีกคือปี 2011

    ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้อดีตประเทศดาวรุ่งอย่างบราซิล กลับต้องเข้าสู่ยุคแห่งความตกต่ำทางเศรษฐกิจ ปัจจัยก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น

    - ประสิทธิภาพในการผลิตที่ต่ำ สวนทางกับค่าจ้างแรงงานที่พุ่งสูงขึ้น

    ข้อมูลจาก World Bank ระบุว่า ในช่วงปี 2003-2014 ค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 68% ในขณะที่อัตราการผลิตต่อคนงานเพิ่มขึ้นเพียง 21%

    พูดง่าย ๆ คือ ต้นทุนค่าแรงของธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่ประสิทธิภาพและผลผลิตนั้นเพิ่มขึ้นน้อยกว่ามาก ซึ่งการขาดผลิตภาพในการผลิตส่วนสำคัญเกิดมาจากการลงทุนในนวัตกรรมของประเทศที่ต่ำ

    - ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

    โดยเฉพาะท่าเรือ ถนน หนทาง ทำให้เกิดปัญหาในการขนส่งสินค้าภายในประเทศ ข้อมูลของ World Bank ระบุว่า ความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของบราซิลนั้น ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 56 จาก 160 ประเทศทั่วโลก

    ขณะที่ข้อมูลจาก International Trade Administration ของสหรัฐอเมริการะบุว่า การขนส่งสินค้าส่วนใหญ่ภายในบราซิลนั้นใช้รถบรรทุก ซึ่งเมื่อโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนนหนทางไม่ค่อยมีความพร้อม ก็ทำให้เกิดต้นทุนค่าขนส่งที่สูง

    - ปัญหาคอร์รัปชันในบราซิล ถือว่ารุนแรงไม่แพ้หลายประเทศในแถบอเมริกาใต้

    ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index) ของประเทศนั้นได้คะแนนน้อยลงเรื่อย ๆ (ยิ่งน้อยลงคือยิ่งภาพลักษณ์ไม่ดีในเรื่องคอร์รัปชัน)
    ปี 2012 บราซิลได้ 43 คะแนน และลดลงเหลือเพียง 38 คะแนนในปี 2020

    ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาการคอร์รัปชันในบราซิลไม่เพียงแต่ยังคงอยู่ แต่กลับเลวร้ายลงเรื่อย ๆ

    ปัญหาคอร์รัปชัน มีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายระดับ ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสูงสุดของประเทศอย่างประธานาธิบดี อย่างเช่น ในปี 2015 อดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

    โดยเป็นการรับสินบนเพื่อแลกกับ การอนุมัติให้บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เข้าไปรับงานก่อสร้างจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่อย่างปิโตรบาส รัฐวิสาหกิจน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ

    ปัญหาคอร์รัปชันที่อื้อฉาวของนักการเมือง นักธุรกิจ สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบราซิลจำนวนมาก

    เรื่องนี้ถึงขนาดทำให้ครั้งหนึ่งชาวบราซิลใน 3 รัฐทางใต้ ที่ไม่พอใจการบริหารและเรื่องคอร์รัปชันของรัฐบาล ร่วมลงคะแนนประชามติเพื่อแสดงความต้องการแยกประเทศ ภายใต้แคมเปน “The South is My Country”

    การประท้วง การก่อจลาจล และความไม่สงบเรียบร้อยทางการเมือง เกิดขึ้นบ่อยครั้งในบราซิล

    ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้บราซิลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว กลับสะดุด จนเหมือนกลายเป็นคนป่วยแห่งทวีปอเมริกาใต้ไปแล้วในตอนนี้

    ความเปราะบางทางเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งมาเจอผลจากการระบาดของโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย

    ปี 2014 จำนวนผู้ว่างงานในบราซิลเท่ากับ 6.0 ล้านคน
    ปี 2021 จำนวนผู้ว่างงานในบราซิลเท่ากับ 14.7 ล้านคน

    จำนวนผู้ว่างงานสูง เศรษฐกิจที่ตกต่ำ
    ทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากรู้สึกว่า ตนเองต้องการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม

    ข้อมูลจาก Migration Policy Institute (MPI) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีชาวบราซิลอพยพออกนอกประเทศเฉลี่ยปีละกว่า 100,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และปัญหาความขัดแย้งมากมายในประเทศที่ดูไร้ทางออก

    ประเด็นคือ ผู้ที่อพยพออกไป ได้รวมแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะกลุ่มนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Brain Drain” หรือสมองไหล

    ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ประเทศหนึ่งกำลังสูญเสียคนเก่งไปจากประเทศ เนื่องจากคนเหล่านั้นต้องการออกไปทำงานและอาศัยในประเทศที่ทำให้พวกเขามีรายได้สูงกว่า สภาพการทำงานที่ดีกว่า

    ดังนั้น อนาคตของบราซิลหลังจากนี้ จึงเกิดเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ของคนในประเทศตามมาว่า แล้วประเทศจะพัฒนาและก้าวหน้าจากวันนี้ไปได้อย่างไร ?

    คนเก่ง ๆ ที่หมดหวังกับประเทศและอพยพออกไป
    ทำให้บราซิลกำลังมีบุคลากรแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ ยิ่งทำให้มีการสร้างสรรค์ความรู้ นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการพัฒนาประเทศ ลดน้อยลงเรื่อย ๆ

    รู้ไหมว่า วันนี้ สัดส่วนนักวิจัยต่อประชากร 1 ล้านคนของบราซิล มีอยู่เพียง 700 คนเท่านั้น
    ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศมหาอำนาจอื่น
    - จีน 1,071 คน
    - รัสเซีย 3,191 คน
    - สหราชอาณาจักร 4,269 คน
    - สหรัฐอเมริกา 4,663 คน

    ตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า ปัญหาสมองไหลที่บราซิลกำลังเจออยู่นั้น จะรุนแรงมากกว่านี้ในอนาคตหรือไม่
    และรัฐบาลจะหาทางหยุดปัญหานี้ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมที่ฝังลึกอยู่ในประเทศได้อย่างไร

    แต่เรื่องนี้ ก็ถือเป็นกรณีศึกษา ที่หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยควรต้องจับตามอง
    ว่าประเทศที่เคยรุ่งเรือง เปี่ยมไปด้วยความหวัง
    ทุกอย่างก็พังทลายลงได้ หากการบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ และเต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชัน..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References:
    -https://data.worldbank.org/country/BR
    -https://en.wikipedia.org/wiki/BRIC
    -https://ditp.go.th/contents_attach/81555/81555.pdf
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Brazil
    -https://www.migrationpolicy.org/article/migration-brazil-making-multicultural-society
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Brazilian_diaspora
    -https://www.worldbank.org/en/country/brazil/publication/brazil-how-resume-growth-keep-social-progress
    -https://www.trade.gov/knowledge-product/brazil-infrastructure
    -https://tradingeconomics.com/brazil/unemployed-persons
    -https://www.if.org.uk/2020/07/06/politics-covid-brain-drain-in-brazil/
    -https://www.transparency.org/en/cpi/2020/table/bra
    -https://www.bbc.com/thai/international-41544397
    -http://chartsbin.com/view/1124

  • ปัจจัย4 在 เสกสรร ปั้น Youtube Youtube 的最讚貼文

    2020-07-15 17:59:09

    https://sekyoutube.com/how-to-get-1-subscriber/ กว่าจะได้คนติดตามในยูทูป 1 คน ต้องทำอย่างไร? ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย

    1. คนดูจะต้องค้นหาคลิปของเราเจอ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งชื่อวิดีโอ ที่จะต้องประกอบไปด้วยคำที่เราต้องการให้คนค้นหา
    2. นิ้วของคนดูจะต้องหยุดดูที่คลิปของเรา ซึ่งขึ้นอยู่กับหน้าปกวิดีโอ เราต้องออกแบบให้สวยงามสะดุดตา
    3. เมื่อคนหยุดดูที่หน้าปกแล้ว เขาจะกดดูคลิปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับชื่อวิดีโอ ที่นอกจากจะมีคำหลักแล้ว ต้องมีคำเชิญชวน เช่น เคล็ดลับ, เทคนิค, ภายใน 5 นาที
    4. เมื่อคนได้ดูคลิปเราแล้ว ถ้าเขาชื่นชอบในคอนเทนต์ของเรา เราก็มีโอกาสที่จะได้คนติดตามเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นเราต้องคิดคอนเทนต์ออกมาให้มีประโยชน์กับคนดู

    เสียงเอฟเฟค : https://bit.ly/2CZWqDd

    สมัครสมาชิกเสกสรร ปั้น Youtube
    ไลฟ์สดตอบปัญหาการสร้างรายได้ พร้อมวิเคราะห์ช่องยูทูปของแต่ละคน
    https://sekbuddy.com/my-youtube-membership/
    ===========================================
    Ebook คู่มือยูทูปเบอร์
    https://sekyoutube.com/ebook-youtuber/

    เสกสรร ปั้น Youtube
    ครูสอนทำการตลาดออนไลน์ด้วยวีดีโอ

    ? ไม่พลาดคลิปความรู้ดีๆ กดติดตามได้เลยเด้อ
    http://www.youtube.com/smileprovideo?sub_confirmation=1

    ? ฟัง Podcast
    https://sekyoutube.podbean.com/

    ประวัติเสกสรร ปั้น Youtube
    https://sekyoutube.com/ทำความรู้จัก/
    ===========================================

  • ปัจจัย4 在 Wongnai Youtube 的最讚貼文

    2020-04-11 12:45:01

    “สู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด” ปณิธานของเชฟเจมส์ Jamie’s Burgers แห่ง Top Chef Thailand แจกข้าวกล่องฟรีให้คนขับเดลิเวอรี ต่อสู้วิกฤต COVID-19
    .
    เราตั้งใจให้พี่คนส่งอาหารมีของถูก ๆ กิน
    .
    ในภาวะแบบนี้หลายคนมองว่า “คนส่งอาหาร” คือตัวกลางส่งความสุขจากเชฟไปถึงคนกิน เพราะ “อาหาร” คือ ปัจจัย 4 ที่เรายังต้องกินอยู่ทุกวัน เมื่อเราหยิบยื่นน้ำใจให้พี่คนส่งอาหาร เชื่อว่าพี่ ๆ ก็มีแรงใจในการส่งอาหารให้ทุกคน
    .
    เชฟเจมส์จึงเริ่มแคมเปญดี ๆ ด้วยการเพิ่มไลน์อาหารจานเดียวในราคาเพียง 30 บาท! ซึ่งร้านเบอร์เกอร์และร้านที่เด่นเรื่องเนื้อวัวไทยของเขาไม่เคยทำมันมาก่อน และด้วยจิตสาธารณะทำให้เพื่อนยื่นมือเข้ามาสนับสนุนต้นทุนและทำให้มันกลายเป็น “ข้าวกล่องฟรี” สำหรับผู้ขับรถเดลิเวอรี คนขับมอไซค์ แท๊กซี่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ
    .
    เชฟเจมส์ได้แรงบันดาลใจนี้มาจากโพสต์ของคุณยอด ชินสุภัคกุล CEO Wongnai ที่ว่า “สู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด” ซึ่งเชฟเจมส์ไม่ได้คิดผิด พี่นพ ร้าน รสดีเด็ด Roddeeded BAAN KHUN NOP ร่วมส่งเนื้อวัวเกือบ 100 กิโลกรัม มาสนับสนุนแคมเปญนี้ แน่นอนว่าทุกคนสามารถส่งแรงสนับสนุนแบบนี้ และ #Saveร้านอาหาร ที่มีน้ำใจต่อสังคมได้ที่ Jamie's Burgers : The โค eating space" สาขาพหลโยธิน ซอย 8
    .
    โดยเชฟเจมส์จะแจกข้าวกล่องฟรี 100 กล่องต่อวัน สำหรับผู้ขับรถเดลิเวอรี คนขับมอไซค์ แทกซี่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม - 12 เมษายน 2020 เวลา 11.30 - 21.00 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
    .
    #สปดกรจรกม สู้ไปด้วยกันเราจะรอดกันหมด ขอบคุณเชฟเจมส์มากๆ เลยค่ะ :)
    อย่าลืมไปสั่งไลน์แมนอุดหนุนเชฟเจมส์ด้วยนะคะ ?? https://bit.ly/2UzqAUa

  • ปัจจัย4 在 เสกสรร ปั้น Youtube Youtube 的最佳貼文

    2019-03-17 15:06:16

    https://sekyoutube.com/ รายได้ Youtube 15,000 บาทต่อเดือน ต้องมีคนติดตามกี่คน มีปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อยอดเงิน

    รายได้ของยูทูปมาจาก
    1. การดูโฆษณา 30 วินาที
    2. การปล่อยให้โฆษณาเล่นจนจบ
    3. การคลิกไปที่แบนเนอร์โฆษณา
    4. การให้แบนเนอร์โฆษณาแสดงระหว่างเล่นคลิป

    จำนวนวิวและคนติดตาม แปรผันโดยตรงกับเรายได้ Youtuber
    เพราะยิ่งมียอดวิวและคนติดตามเยอะ
    โฆษณาก็มีโอกาสจะขึ้นเยอะตาม

    การหวังพึ่งรายได้จาก Youtube ทางเดียวมันมีความเสี่ยงจาก 3 ปัจจัย
    1. การโดนแฮกช่อง Youtube
    2. เจ้าของสินค้าไม่ลงโฆษณาในยูทูป
    3. เหตุการณ์หรือเทศกาลที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น

    ปัจจัยคำนวณรายได้ Youtube
    คำนวณจากค่า CPM, CPC, RPM

    การคลิปลงยูทูป จะช่วยให้คนรู้จักเรามากยิ่งขึ้น
    ซึ่งส่งผลให้เรามีโอกาสขายของได้มากขึ้น

    ===========================================
    เสกสรร ปั้น Youtube
    ครูสอนทำการตลาดออนไลน์ด้วยวีดีโอ

    ? ไม่พลาดคลิปความรู้ดีๆ กดติดตามได้เลยเด้อ
    http://www.youtube.com/smileprovideo?sub_confirmation=1

    ✅ ถามตอบปัญหาเกี่ยวกับวีดีโอ
    Facebook - https://www.Facebook.com/sekyoutube

    ? ฟัง Podcast
    https://sekyoutube.podbean.com/

    ประวัติเสกสรร ปั้น Youtube
    https://sekyoutube.com/ทำความรู้จัก/
    ===========================================

你可能也想看看

搜尋相關網站