เอาอีกแล้วนะ เราหน่ะ บารอน นาชอร์ พร้อมละ

เจอกันครับ

The Trial of the Chicago 7 (2020) สามารถดูได้ใน Netflix

1) เป็นหนังว่าความในศาลที่ประเด็นของเรื่องไม่ได้อยู่ที่การลุ้นฝ่ายจำเลยจะหาข้อโต้แย้งใด ๆ มาค้านจนชนะ เพราะเป็นคดีการเมืองที่มีธงคำตัดสินมาเรียบร้อย แต่เราจะได้เห็นกลไกความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เมื่อรัฐมีอำนาจควบคุมทุกอย่างให้เข้าทางตัวเอง
.
2) กล่าวอย่างย่อ คดีนี้คือการฟ้องกลุ่มคน 8 คน (หนึ่งในนั้นเป็นคนผิวดำผู้นำกลุ่มแบล็กแพนเธอร์ ที่ถูกจับมารวมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กลุ่มจำเลยดูรุนแรง) ในข้อหาสมคบคิดข้ามเขตรัฐให้ใช้ความรุนแรง, ก่อจลาจล, และข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม ซึ่งพวกเขามาประท้วงอย่างสันติ
.
3) จริง ๆ คดีนี้ได้ข้อสรุปจากอัยการสูงสุดคนก่อนไปเรียบร้อยแล้วว่าตำรวจเป็นฝ่ายเริ่มก่อจลาจลและไม่มีการสมคบคิดกันเพื่อยั่วยุให้เกิดความรุนแรงข้ามกลุ่มประท้วง ทำให้ไม่มีมูลเหตุหรือหลักฐานเพียงพอจะฟ้อง จนกระทั่งนิกสันขึ้นเป็นประธานาธิบดีจึงขุดเอาเรื่องนี้มาเล่นงานคนที่ต่อต้านสงครามเวียดนาม
.
4) แอรอน ซอร์กิ้น ใช้การสนทนาโต้ตอบและคำให้การบางส่วนของพยานในการแก้ต่างให้จำเลยทั้ง 7 คน ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงหรือเริ่มต้นก่อจลาจล แต่ละกลุ่มเป็นเพียงคนหนุ่มที่ต่อต้านการส่งคนไปตายในสงครามเวียดนาม (ระหว่างคดีมีทหารเสียชีวิตเกือบ 5,000 นาย) มาประท้วงด้วยอุดมการณ์ของตัวเองเท่านั้น
.
5) เราจะได้เห็นทริคของฝ่ายรัฐในการสร้างภาพคดีการเมือง เช่น การจับคนธรรมดามาฟ้องรวมกับแกนนำไว้ปล่อยตัวทีหลังให้พ้นผิด เพื่อให้คณะลูกขุนไม่รู้กระอักกระอ่วนที่จะเอาผิดคนที่เหลือ (ที่เป็นเป้าหมายของรัฐ) หรือการตุกติกตัดลูกขุนที่มีแนวโน้มเข้าข้างฝ่ายจำเลยออกไป (พยักหน้าท่าทางเหมือนเห็นด้วยกับฝ่ายจำเลยก็โดนเด้งได้เลย) สุดท้ายในศาลก็จะมีแต่ลูกขุนในแบบที่รัฐคัดมาแล้ว และผู้พิพากษาก็ลำเอียงแบบชัดเจน ลำเอียงขนาดทนาย 78% ของชิคาโกโหวตกันว่าผู้พิพากษาขาดคุณสมบัติ
.
6) แน่นอนว่าพอเป็นเรื่องการเมือง เราจะได้เห็นกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกันแต่แนวคิดระหว่างทางต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฝ่ายหนึ่งมองว่าต้องสู้ด้วยความเคารพ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ (แต่งตัวขึ้นศาลในแบบที่ลูกขุนอยากเห็น) และสันติสุด ๆ คำหยาบหรือการเรียกตำรวจเป็นหมูก็ทำไม่ได้ เพื่อหวังผลทางการเมือง การชนะเลือกตั้งจะนำไปสู่ความเท่าเทียมและสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการพัฒนาสังคม ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นยิปปี้ส์ ที่ออกมาเรียกร้องทุกอย่างแต่ภาพลักษณ์ถูกจดจำเป็นพวกพี้ยา มั่วเซ็กส์ ปากเสีย ทำผิดกฎหมาย ทั้งที่ความจริงกลุ่มยิปปี้ส์คือกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม การศึกษา ชี้ปัญหาความยากจนทุกอย่าง แต่ภาพลักษณ์จะทำให้ล้มเหลวในการเลือกตั้ง และคนจะหลงลืมไปเลยว่าต่อสู้เพื่ออะไร
.
7) ตอนดูไม่ได้เอะใจเลยว่าเป็นหนังรวมนักแสดงเข้าชิงและชนะรางวัลออสการ์ถึง 5 คน คือ เอ็ดดี้ เรดเมย์น, ซาชา บารอน โคเฮน, มาร์ค ไรแลนซ์, ไมเคิล คีตัน, และแฟรงค์ แลงเกลล่า แต่ส่วนตัวคิดว่าหนังมันไม่ได้มาขายการแสดงหรือขายดาราอะไร ยกเว้นบทยิปปี้ส์ที่แสดงโดยโคเฮน ที่ดูจะสร้างสีสันด้วยฝีปากให้หนังมากที่สุดแล้ว
.
8) แอรอน ซอร์กิ้น ยังคงไว้ลายสมเป็นนักเขียนบทคนโปรด ในการย่นย่อคดีที่มีเนื้อหามากมายให้รวบรัดจบได้ใน 2 ชั่วโมง เป็นหนังที่เดินเรื่องด้วยไดอะล็อกเหมือน The Social Network, Steve Jobs แต่เพิ่มเติมคือจังหวะจิกกัดสุดยียวนจนชวนหัวเราะในหลายครั้ง
.
9) สุดท้ายนี้อยากบอกว่าเวลาผ่านไป บทหนังที่เล่าเรื่องยุค 1960's ก็ยังช่างเข้ากับบริบทต่าง ๆ ในสังคมปัจจุบัน เพราะวิธีเดิม ๆ ยังคงถูกหยิบนำมาใช้ซ้ำอยู่เสมอ
.
10) "The whole world is watching." ช่างเป็นประโยคปิดหนังที่ดีจริง ๆ

Director: Aaron Sorkin (ผู้กำกับ Molly's Game)
screenplay: Aaron Sorkin (เขียนบท A Few Good Men, The Social Network, Moneyball, Steve Jobs)

Genre: drama, history
8/10

The Spy (สามารถดูได้ใน Netflix)

• สร้างจากเรื่องจริงของสายลับอิสราเอลในช่วงยุค 60's ที่สามารถแฝงตัวเข้าไปลึกถึงระดับใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรีย
• หนึ่งในการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ซาชา บารอน โคเคน อย่างไม่ต้องสงสัย
• สเกลเรื่องใหญ่มาก เพราะต้องปลอมตัวหาทางเข้าซีเรียแบบน่าเชื่อถือ แล้วยังต้องหาทางใกล้ชิดกับทหารที่มีแนวโน้มรัฐประหารยึดอำนาจ แต่เล่ารวบรัดจบใน 6 ตอนแบบดูแล้วเชื่อว่าทำไมถึงเป็นสายลับที่ประสบความสำเร็จในการแทรกซึมได้ลึกขนาดนั้น
• แต่ความรวบรัดก็เป็นจุดอ่อนนิดหน่อยตรงที่แผนมันสำเร็จได้เพราะตัวสายลับสามารถตีสนิทใครต่อใครได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งบางคนก็เข้าหาง่าย บางคนก็พลาดจนต้องหาโอกาสใกล้ชิดใหม่ จริง ๆ อาจจะเพราะรวยน่ะแหละเลยมีคนระดับสูงให้ความสนใจ

-------------------------------------

ช่วงปีค.ศ. 1961 ฝั่งซีเรียเริ่มเคลื่อนไหวโจมตีอิสราเอล โดยที่มอสสาดหรือหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอิสราเอลไม่มีการสอดแนมหาข้อมูลที่จะมาป้องกันประเทศ จึงเร่งวางแผนส่งสายลับสักคนเข้าไปแทรกซึมในซีเรีย หวยมาออกที่ 'อีไล โคเฮน' (Sacha Baron Cohen) ผู้ลี้ภัยชาวอียิปต์ที่เคยมาสมัครงานแต่โดนปฏิเสธทั้งสองครั้ง เขาถูกเรียกตัวมาฝึกเป็นสายลับหลักสูตรเร่งด่วนก่อนจะถูกส่งไปแฝงตัวในชุมชนชาวอาหรับในอาร์เจนติน่า โดยมีหน้าฉากปลอมตัวเป็นเศรษฐีชาวซีเรียที่อยากจะกลับไปลงทุนในบ้านเกิด จึงต้องอาศัยเส้นสายจากคนระดับสูงในซีเรีย
.
คิดว่ารายละเอียดในหนังสือคงมีไม่เยอะเท่าไร ถ้าจะมีข้อมูลอ้างอิงคงมีแค่ข้อความส่งกลับจากซีเรียมายังมอสสาดในอิสราเอล แล้วแต่งเติมรายละเอียดขึ้นมาว่าเข้าไปใกล้ชิดสร้างความไว้วางใจบุคคลระดับสูงในซีเรียอย่างไร ซีรีส์มีหลายอย่างที่แฟนหนังแนวสายลับล้วนกระตือรือร้นจะได้เห็น ทั้งการจับสังเกจคนสะกดรอยตาม, การหาทางส่งข้อมูลและม้วนฟิล์มออกนอกประเทศ, ความทะเยอทะยานของสายลับที่ไม่ใช่แค่รับคำสั่งอย่างเดียวแต่ยังคิดเองและทำเกินคำสั่ง, และสำคัญตรงที่ The Spy เล่าความโดดเดี่ยวและความผิดพลาดในฐานะมนุษย์ที่ไม่ได้ทำงานสายลับสมบูรณ์แบบ
.
ตอนอ่านเรื่องย่อคือตกใจเล็ก ๆ ว่าจะมีสายลับแทรกซึมสร้างความน่าเชื่อถือระดับใกล้ชิดรัฐบาลขนาดนั้นได้จริงหรือ แต่พอดูซีรีส์เล่าแล้วไม่ประหลาดใจสักนิดเดียว ในแง่หนึ่งมันก็เหมือนปลอมตัวขึ้นไปตีสนิทกับบุคคลระดับสูงหลายฝั่งในซีเรีย เข้ากับรัฐบาลปัจจุบันก็ได้ หรือถ้าเกิดรัฐประหารขึ้นมาก็สามารถสนับสนุนอีกฝั่งได้ทันทีเพราะไม่ได้ออกตัวภักดีกับฝ่ายไหนเป็นพิเศษ ซึ่งโครงเรื่องมันน่าเชื่อถือว่าสายลับที่หน้าฉากเป็นเศรษฐี ได้เงินทุนจากอิสราเอลมาสนับสนุนการแฝงตัวมันก็สามารถดึงดูดคนได้อยู่แล้ว พอมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ความเนียนในการเอาตัวรอดและเสาะหาข้อมูลเพิ่มเข้ามามันเลยยิ่งทำให้เรื่องดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เมื่อเล่าได้กระชับและค่อนข้างสนุกเลยเป็นอีกหนึ่งซีรีส์แนวสายลับที่เราชอบได้ไม่ยาก

Creator: Gideon Raff

6 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 50 นาที)
A-

#หนังโปรดxซีรีส์Netflix

การสลับเปลี่ยนตัวการเล่นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งในการเล่น Battlegrounds ด้วยนะครับทุกๆคน ^^

⁓(-_-⁓) ความสนุกมากมายรอทุกๆคนอยู่ที่ ✌ PunzaHoney Gaming Channel✌ ^^ XD (⁓-_-)⁓

อย่าลืมกด Subscribe หรือ กด Like! ได้นะครับ แล้วก็อย่าลืมกดรูปกระดิ่งไว้ด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดคลิปสนุกๆที่จะมีต่อมาเรื่อยๆนะครับ

You guys are AWESOME!!!

☟☟☟ช่องทางติดตาม กะ ช่องทางการสนับสนุน Channel นี้ก็ ☟☟☟

[Facebook] - https://www.facebook.com/PunzaHoneyGaming/

บ๊ายบายย ^^

#PunzaHoney
#Hearthstone
#Battlegrounds

การได้ "บารอน" ไม่ได้ทำให้เราชนะเสมอไป

Fanpage ➨ https://www.facebook.com/NakamaCh08
Sticker Line ➨ https://store.line.me/stickershop/product/1647872
SPEC ➨ https://bit.ly/3c0uJGp
ติดต่อโฆษณาและอื่นๆ ➨ nakama_ch@hotmail.com
*--------------------------------------------------------------------------------------*
#NaKaMa

ซื้อเกมได้ที่ https://store.epicgames.com/legendauser/metro-exodus
Metro Last Light Redux พากย์ไทย

Metro: Last Light takes place in 2034, one year after the events of Metro 2033, following the ending of the original novel in which Artyom's missile strike against the Dark Ones — mysterious beings that seemingly threatened the survivors of a nuclear war living in the Moscow Metro — occurred. The Rangers, a neutral peacekeeping force that operates throughout the system, have since occupied the D6 military facility Artyom visited during the first game. This is a huge, and not fully explored pre-war bunker, and Artyom, now a Ranger himself, remains unsure whether killing the Dark Ones was the correct decision. Rumors of D6's discovery and its great riches have spread around the Metro; rival factions, such as the Soviet Red Line and Nazi Fourth Reich, hope to seize the bunker and its contents.

Metro Redux is a post-apocalyptic first-person shooter, and a two-part remake of Metro 2033 and Metro Last Light for next-generation consoles. It was developed by 4A Games and published by Deep Sliver. The enhanced versions of both games can be bought together as a bundle or separately.

Metro Redux features remakes of both games in an improved 4A Engine. While Metro Last Light Redux includes general improvements, Metro 2033 Redux has been completely remade in the Last Light engine and updated to include the same features as Metro Last Light. Metro Redux has been released for the next-generation consoles, the Xbox One and PS4, as well as PC.

This game is based on Dmitry Glukhovsky's book Metro 2033.

In 2013, nuclear war had devastated the Earth, wiping out billions of lives. Among the affected nations is Russia, including the now-desolate wasteland of Moscow. A handful of survivors manage to hide in the Metro system, salvaging spare parts and growing mushrooms for food. Animals such as rats, bears, and others are mutated into horrific monsters, while the air in many areas that humans breathe becomes heavily irradiated and impossible to survive in without a gas mask. While there is a constant state of war between the Communists and the Nazis both trying to promote their radical ideologies, bandits are stealing, killing and looting in the metro tunnels, even keeping hostages to gain bullets, which are used as currency.

Twenty years later, in 2033, the northern station of VDNKh, now called Exhibition, falls under attack by a group of mysterious creatures referred to as the Dark Ones. Artyom (Russian: Артём), a 24-year-old male survivor born before the bombs fell and the adopted son of the station commander, is persuaded to leave his home there and seek help from the rest of the Metro by Hunter, an elite soldier of the Spartan Order. Hunter gives Artyom his dog tags and tells him to present them to his superiors in Polis, the "capital" of the Metro, before disappearing while tracking the Dark Ones.