雖然這篇ท้องเสีย ภาษาจีน鄉民發文沒有被收入到精華區:在ท้องเสีย ภาษาจีน這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ท้องเสีย產品中有205篇Facebook貼文,粉絲數超過27萬的網紅อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์,也在其Facebook貼文中提到, วันก่อน ถูกสัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง #โรคไข้หูดับ จากการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งมีชาวบ้านที่อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตไปนับสิบราย ! โรค...
同時也有67部Youtube影片,追蹤數超過32萬的網紅TheBabyboom,也在其Youtube影片中提到,ก่อนฉีดทำตามคำแนะนำ แพทย์ 1 ดื่มน้ำมากๆ (ผมดื่ม 3 ลิตร ในวันแรกก่อนฉีด และจิบน้ำตลอด) 2 นอนให้เพียงพอ 3 จริงๆเค้าไม่ได้ บอกให้งดชากาแฟ แต่ผมงด เพราะเ...
「ท้องเสีย」的推薦目錄
- 關於ท้องเสีย 在 nadiakaaa Instagram 的最佳解答
- 關於ท้องเสีย 在 ?Rainy Nangpaya? Instagram 的最佳貼文
- 關於ท้องเสีย 在 JANE SORAYA Instagram 的最佳解答
- 關於ท้องเสีย 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於ท้องเสีย 在 อ.นันท์ ผ่ากรรม สื่อวิญญาณ Facebook 的精選貼文
- 關於ท้องเสีย 在 BeamSensei Facebook 的最讚貼文
- 關於ท้องเสีย 在 TheBabyboom Youtube 的最讚貼文
- 關於ท้องเสีย 在 TAM STORY Youtube 的最讚貼文
- 關於ท้องเสีย 在 555INFINITY Youtube 的最佳解答
ท้องเสีย 在 nadiakaaa Instagram 的最佳解答
2021-09-24 09:07:05
ช่วงนี้เดียหาข้อมูลและอ่านหนังสือเกี่ยวกับProbiotic หรือจุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆเยอะมาก มันช่วยชะลอความแก่เพราะช่วยทำให้ระบ...
ท้องเสีย 在 ?Rainy Nangpaya? Instagram 的最佳貼文
2021-09-11 04:54:29
มีคนที่บ้านติดโควิดมาจากข้างนอก ผ่านมา2-3วัน ตัวเองเริ่มรู้สึกมีอาการ ท้องเสีย ปวดหลัง ไม่มีแรง มีเสมหะ(คล้ายๆเดิมแต่อาการไม่เต็มเท่าตอนแรก) ก็คิดแล้...
ท้องเสีย 在 JANE SORAYA Instagram 的最佳解答
2021-09-10 19:04:58
ลูกคนที่ 2 คลอดแล้วนะค่า 🍏 เวลาเจนทำแต่ละ product ออกมา คือตั้งใจเหมือนทำให้คนที่บ้านกิน ให้พ่อแม่พี่น้อง ไม่ดีก็ไม่กล้าให้พ่อแม่กินปะ? สาเหตุที่ทำ Pr...
-
ท้องเสีย 在 TheBabyboom Youtube 的最讚貼文
2021-06-18 21:00:09ก่อนฉีดทำตามคำแนะนำ แพทย์
1 ดื่มน้ำมากๆ (ผมดื่ม 3 ลิตร ในวันแรกก่อนฉีด และจิบน้ำตลอด)
2 นอนให้เพียงพอ
3 จริงๆเค้าไม่ได้ บอกให้งดชากาแฟ แต่ผมงด เพราะเวลาผมทานกาแฟ ความดันจะสูง กลัวเดี๋ยวเค้าจะไม่ให้ฉีด
4 กินพาราไปก่อนฉีด 1 เม็ด
5. กลับมานอน และกินน้ำเยอะๆ
ผลข้างเคียงผมเป็นครบ แต่ไม่แรง
ไข้ต่ำๆ เพลีย ปวดตัว ปวดกระบอกตา ท้องเสีย คลื่นไส้ ตอนนี้หายเป็นปรกติแล้ว -
ท้องเสีย 在 TAM STORY Youtube 的最讚貼文
2021-05-22 09:15:01แม่ค้าขี้โกง! ขายเค้กขึ้นรา แฝด 3 ท้องเสียหนักมาก!!! | ละครบลายธ์ | แม่ปูเป้ เฌอแตม Tam Story
#ละครบลายธ์ #TamStory #แม่ปูเป้
ติดต่องาน
Mobile: 081 868 4411 (พ่อโยเย)
Mail: [email protected]
❤❤ ติดตามแม่ปูเป้ได้ที่ ❤❤
► เพจแม่ปูเป้: https://www.facebook.com/Diybycm
► Instagram: https://www.instagram.com/maepoupe -
ท้องเสีย 在 555INFINITY Youtube 的最佳解答
2021-05-13 19:00:13ช่วงนี้มีข่าวเรื่องเยลลี่ลูกตาออกมารัวๆเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการกินแล้วลำไส้อักเสบบ้าง เอาไปเผาแล้วออกมาเหนียวๆยืดๆเหมือนยางบ้าง วันนี้ผมเลยอยากจะมาลองพิสูจน์เผาเยลลี่ลูกตาให้เพื่อนๆดูกันครับ ว่ามันจะออกมาเป็นเหมือนยางเหนียวๆยืดๆแบบในข่าวจริงหรือเปล่า?
????????????
#เพื่อนซี้ตัวแสบ #เยลลี่ลูกตา #พิสูจน์
#การทดลอง #Trolli #เตือนภัย #ขนม
♡ Facebook ส่วนตัว : https://www.facebook.com/zeejhk
♣ Fanpage 1 : https://www.facebook.com/555infinity/
♣ Fanpage 2 : https://www.facebook.com/ZabbFamily
♤ Instagram : https://www.instagram.com/555_infinity/
♦ สำหรับส่งIntro : [email protected]
♧ Tiktok : ครอบครัวตัวแสบ
***
☞ ติดต่องาน (For Business) : [email protected]
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~⠀
อุปกรณ์ที่ผมใช้สร้าง Content
กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ kit
☞ https://raka.is/r/Y3DJ
ไมค์ RODE VIDEOMIC GO
☞ https://raka.is/r/5p9J
ไฟสตู
☞ https://raka.is/r/qOWz
Notebook : Acer Nitro 5
☞ https://raka.is/r/7GM9
เก้าอี้
☞ https://raka.is/r/APpz
ท้องเสีย 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
วันก่อน ถูกสัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง #โรคไข้หูดับ จากการบริโภคเนื้อหมู ซึ่งมีชาวบ้านที่อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตไปนับสิบราย !
โรคไข้หูดับ ยังเป็นโรคที่พบบ่อยครั้งในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มาจากการบริโภคเนื้อหมูที่ไม่ได้ปรุงสุก ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคนี้ยังมีชีวิต และทำอันตรายกับผู้บริโภคได้ โดยมีอันตรายสูงมาก ถึงแก่ชีวิตครับ
เลยเอาคลิปให้สัมภาษณ์มาแชร์ให้ฟังกันนะ รวมทั้งขอแชร์ข้อความข่าวจากไทยรัฐและไทยพีบีเอส ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคไข้หูดับนี้ เพื่อเตือนให้ระมัดระวังกันด้วยนะครับ
--------
(รายงานข่าว ไทยรัฐ https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2194158)
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า
#นอกจากโควิด19 ยังมีโรคไข้หูดับอีก #ขอให้หยุดกินหมูดิบในเขตอำเภอเสิงสางด่วนที่สุดครับ-วันนี้ได้รับรายงานว่าขณะนี้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอเสิงสางแล้ว 14 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย-ขอให้งดกินหมูดิบและสัมผัสหมูดิบ ซึ่งอาจจะติดเชื้อ โดยเฉพาะเขียงหมูที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ (ลักลอบเชือด) -บ่ายนี้นายอำเภอเสิงสางจะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องด่วนที่สุดครับ เพื่อกำหนดมาตรการบางอย่าง และอาจจะกระทบกับพี่น้องชาวเสิงสาง-จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อความดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง และลงพื้นที่ตรวจสอบถึงกรณีดังกล่าว โดยนายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า
ตนได้รับรายงานว่า ในพื้นที่อำเภอเสิงสางมีประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคหูดับ เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.-9 ก.ย. จำนวนทั้งสิ้น 15 ราย และเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวจำนวน 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายได้เสียชีวิตก่อนที่ผลตรวจจะออกมาว่าเป็นโรคหูดับ ทราบว่า 2 ใน 3 อยู่ในพื้นที่บ้านโคกสูง ม.3 ต.สระตะเคียน และบ้านซับ ม.4 ต.สิงสาง ทั้ง 2 รายได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง กล่าวถึงมาตรการแก้ไขสถานการณ์ว่า จะเร่งให้มีการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ทราบถึงโทษของการรับประทานอาหารที่เป็นหมูดิบ รวมถึงการสัมผัสหมูที่อาจจะติดเชื้อของโรคหูดับ โดยหากบุคลดังกล่าวมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสหมูที่ติดเชื้อเชื้อโรค อาจจะเข้าทางกระแสเลือดได้
พร้อมทั้งจะมีการจัดระบบสำหรับผู้ประกอบการเลี้ยงหมูในพื้นที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายและถูกสุขอนามัย ได้ประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัด จากนี้จะมีหนังสือเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินการในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการในพื้นที่ที่จะสามารถนำหมูเข้าสู่โรงฆ่าสัตว์ได้อย่างถูกต้อง
โดยในพื้นที่อำเภอเสิงสางมีโรงฆ่าสัตว์ขนาดเล็กเพียงแห่งเดียว จึงทำให้มีกลุ่มลักลอบค้าหมูยังไม่ถูกต้อง จึงเกิดปัญหาหมูติดโรคหลุดรอดเข้ามาในพื้นที่ เชื่อว่ากลุ่มที่ค้าหมูที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะได้เข้ามาอยู่ในระบบที่ถูกต้อง จากนั้นได้มอบหมายให้กับ อปท.ในพื้นที่ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอและสาธารณสุขอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจโรงฆ่าสัตว์ หรือโรงชำแหละ เพื่อจัดทำทะเบียนและควบคุมสอบสวนโรค พร้อมทั้งการติดตามได้ง่ายในอนาคตต่อไป
ด้านนายแพทย์มงคล เกิดแปลงทอง นายแพทย์ประจำโรงพยาบาล ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลเสิงสาง ตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสิงสาง ซึ่งเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลโรคหูดับในพื้นที่ เปิดเผยว่า
ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมมีผู้ป่วย 1 รายในพื้นที่ได้เดินทางเข้ามาทำการรักษาภายในโรงพยาบาลเสิงสาง โดยมีอาการของโรคปอดติดเชื้อ ก่อนที่ทีมแพทย์จะตรวจพบเชื้อของโรคหูดับในกระแสเลือด
ต่อมาในต้นเดือนกันยายน พบว่า มีผู้ป่วยจำนวน 4-5 รายเดินทางเข้ามาทำการรักษาด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง จนถึงขั้นมีอาการไตวายและระบบการหายใจล้มเหลว ทีมแพทย์ต้องใส่ท่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ต่อมามีผู้ป่วยเดินทางเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอาการดังกล่าว พร้อมทั้งมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการหูดับตามมาเพิ่ม หลังจากนั้นแพทย์ได้รอผลการเพาะเชื้อในเลือดประมาณ 3-5 วัน ปรากฏพบว่าติดเชื้อ “สเตรปโตคอคคัส ซูอิส” (Streptococcus Suis) โดยเป็นเชื้อที่ต้องเฝ้าระวังเพราะเป็นการติดต่อจากการกินหมูดิบ หรือการสัมผัสเนื้อหมูที่เชื้อโรคสามารถติดต่อได้บาดแผล
ขณะนี้พบผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอเสิงสางเข้าข่ายติดเชื้อทั้งหมด 15 ราย มีการยืนยันว่าติดเชื้อแล้ว 13 ราย และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ตับวาย ไตวาย และระบบการหายใจล้มเหลวจำนวน 3 ราย
สำหรับโรคไข้หูดับสามารถติดเชื้อโดยตรงจากการที่ผู้ป่วยรับประทานหมูดิบและสามารถติดเชื้อจากการสัมผัสหมูโดยตรงหากมีบาดแผลบริเวณร่างกายเข้าสู่กระแสเลือด แม้จะไม่ได้รับประทานหมูก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยบางราย จากการสอบถามไม่มีพฤติกรรมในการรับประทานหมูดิบ แต่ชอบรับประทานหมูกระทะเป็นประจำ จึงตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะย่างหมูไม่สุกดี และใช้ตะเกียบอันเดียวกันที่ใช้คีบหมูดิบ และตะเกียบที่ใช้ย่างหมูรับประทาน ทำให้เชื้อปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้
ส่วนอีกกรณีผู้ที่ทำงานในเขียงหมู อาจจะไม่ได้รับประทานหมูดิบ แต่เป็นผู้ที่สัมผัสหมูโดยตรง หากมีบาดแผลก็สามารถติดเชื้อโรคดังกล่าวผ่านผิวหนังได้
ส่วนอาการของผู้ติดเชื้อโรคหูดับ หลังจากได้รับเชื้อภายใน 3 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 3 วัน จะพบอาการเบื้องต้นมีไข้ ถ่ายเหลว และปวดหัว หากติดเชื้อแล้วไม่ได้ทำการรักษาโดยเร็ว เมื่อเชื้อขึ้นไปถึงสมองอาจจะทำให้เสียชีวิต หรือหูดับได้
สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหูดับมี 3 ส่วนด้วยกัน โดยต้องเริ่มจากผู้เลี้ยงหมูและผู้ขายหมู ต้องดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยให้ดีสำหรับการเลี้ยงหมู และไม่จำหน่ายหมูป่วยให้กับผู้บริโภค
ส่วนที่ 2 คือ ผู้ที่ประกอบอาหารหากมีบาดแผลต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกันเชื้อ ส่วนที่ 3 คือ ผู้บริโภคไม่ควรรับประทานหมูดิบ เช่น เมนูลาบดิบ ก้อยดิบ หากจะรับประทานหมูควรปรุงให้สุก โดยใช้ความร้อนอย่างน้อย 10 นาทีขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อดังกล่าว.
---------
(รายงานข่าว ไทยพีบีเอส https://news.thaipbs.or.th/content/307921)
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
อ.เสิงสาง 2 สัปดาห์พบผู้ป่วย 14 คน เสียชีวิต 3 คน และหูหนวกถาวร 2 คน โดยเกิดจากการรับประทานหมูดิบ ทั้งเมนูลาบดิบ ก้อยดิบ ตับลวก ตับหวาน ส้มหมู แหนมหมู หมูกระทะ และเชื้อจากหมูผ่านผิวหนังที่เป็นแผล
#สำหรับอาการที่พบ
ในระยะเวลาหลังรับประทาน 3 ชั่วโมง ไม่เกิน 3 วันจะมีอาการ 1 ใน 3 อย่าง ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อรักษา ได้แก่ 1.ไข้ 2.อาเจียน,ถ่ายเหลว 3.ปวดศีรษะ หากมาช้าเกิน 3 วันอาจเกิดอาการชัก หูหนวกถาวร และเสียชีวิตได้
#วิธีป้องกัน คนเลี้ยงหมูต้องสะอาดทั้งคอกและเขียง คนปรุงต้องสวมถุงมือก่อนจับหมู และคนบริโภคห้ามรับประทานหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ หมูกระทะต้องแยกตะเกียบย่างกับกะเกียบกิน
ในวันเดียวกัน นายอำเภอเสิงสางพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลเสิงสาง สาธารณสุขอำเภอเสิงสาง ปศุสัตว์อำเภอเสิงสาง ตำรวจ ปลัดฝ่ายมั่งคง กำนัน ได้จัดประชุมปรึกษาหารือแนวทางการป้องกันโรคระบาดสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (โรคไข้หูดับ) เพื่อกำหนดมาตรการงดกินหมูดิบและสัมผัสหมูดิบ
ทั้งนี้ เนื่องจากอาจจะติดเชื้อ โดยเฉพาะเขียงหมูที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ ล่าสุด พบผู้ป่วยไข้หูดับ จำนวน 15 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน
#สถิติคนไทยป่วยโรคไข้หูดับ
ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ของโรคไข้หูดับ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. -11 มิ.ย.2564 พบผู้ป่วยแล้ว 243 คน เสียชีวิต 11 คน
ส่วนภาคที่มีอัตราป่วยที่สุดคือ ภาคเหนือ (พบผู้ป่วย 162 คน คิดเป็นร้อยละ 66 ของผู้ป่วยทั้งหมด) จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ นครราชสีมา และสุโขทัย ตามลำดับ ขณะที่ปี 2563 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 342 คน เสียชีวิต 12 คน
#รู้จักอาการโรคไข้หูดับ
สำหรับโรคไข้หูดับ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่กำลังป่วย สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ
1. เกิดจากการบริโภคเนื้อและเลือดหมู ที่ปรุงแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
2. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค จากทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือสัมผัสเลือดของหมูที่กำลังป่วย
หลังจากได้รับเชื้อ 3-5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการกินหมูดิบและสัมผัสเนื้อหมูให้ทราบเพราะหากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว จะช่วยลดอัตราการเกิดหูหนวกและการเสียชีวิตได้
ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ติดสุราเรื้อรัง ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน ไต มะเร็ง หัวใจ ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น หากติดเชื้อจะมีอาการป่วยรุนแรงเนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ
#2วิธีป้องกันโรคไข้หูดับ
ทั้งนี้ วิธีการป้องกันโรคไข้หูดับ คือ
1.ควรบริโภคอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อน ทำสดใหม่ โดยเฉพาะเนื้อหมู ควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดสดหรือห้างสรรพสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ ขอให้แยกอุปกรณ์ที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุกและดิบออกจากกัน ไม่ใช้เขียงของดิบและของสุกร่วมกัน
2.ไม่สัมผัสเนื้อหมูและเลือดดิบด้วยมือเปล่า โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง
ท้องเสีย 在 อ.นันท์ ผ่ากรรม สื่อวิญญาณ Facebook 的精選貼文
วันนี้ไม่มีไลฟ์นะคะ
ท้องเสีย อยู่เฝ้าห้องน้ำจ้า😭
ท้องเสีย 在 BeamSensei Facebook 的最讚貼文
Beam’s Story เรื่องของบีมและญี่ปุ่น (EP53) 🇯🇵⛩😢
【ประสบการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ตะวันออกเฉียงเหนือญี่ปุ่น 2011】
ย้อนไปวันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วพอดี ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ สึนามิหกเจ็ดเมตรที่ญี่ปุ่น
ตอนนั้นบีมอยู่ญี่ปุ่นด้วยนะ เป็นช่วงปิดเทอมแล้ว กำลังเตรียมเที่ยวลันลา ก่อนกลับเมืองไทย
วันนั้นบีมกำลังนั่งเล่นคอมอยู่บนเตียง จำเหตุการณ์วันนั้นได้ดีมากๆ มันติดอยู่ในความทรงจำ และยากจะลืมจริงๆ สมัยนั้นสมาร์ทโฟนเพิ่งเริ่มเข้ามาไม่นาน ที่ญี่ปุ่นยังใช้มือถือฝาพับกันอยู่ เน็ตมือถือยังระบบไม่ดีเหมือนปัจจุบันนี้เท่าไหร่เลย
บีมมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนระยะสั้น 1 ปี
ปิดเทอมแล้ว ใกล้กลับประเทศแล้ว ขออยู่เที่ยวต่ออีกหน่อยให้สุด
ตอนนั้นยังป.ตรีอยู่ ก็เทียบเท่าปี 4
บีมกำลังจองร้านเมดคาเฟ่พ่อบ้านอยู่เลย
กึงๆๆๆๆ เสียงแผ่นดินไหว
อืม ปกติมั้ง
เพราะเราก็อยู่มาตั้งเกือบปีแล้ว ผ่านเรื่องแผ่นดินไหวมาก็หลายครั้ง
กึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงแผ่นดินเหวี่ยงตัวอย่างแรง
เห้ยไม่ใช่ละเนี่ยยยย แรงมาก
เราเห็นห้องเราโยกไปโยกมา คือเห็นแบบนั้นจริงๆทุกคน
ได้ยินเสียงแผ่นดินกระเทือนดังกึงๆๆๆ ตลอด
ซึ่งมันเป็นเสียงที่เรากลัวมาก
จากนั้นเริ่มมีเสียงโครมครามของหล่น
นาทีนั้นคิดเลย
อีกสองสัปดาห์เอง เราจะกลับไทยแล้วนะ
วันนี้โลกจะแตกเหรอ
เราจะตายมั้ย
ยังไม่ได้กลับบ้านเจอครอบครัวเลย
คิดแบบนั้นจริงๆ
ลุกออกจากเตียง วิ่งไปเปิดประตู
ปะกับคนเกาหลีห้องข้างๆ ที่ตาลีตาเหลือกออกมาเหมือนกัน
มินจี : บีมมมมมม เกิดอะไรขึ้น
บีม : มินจี ทำยังไงดี ลงล่างกันเถอะ
จากนั้นต่างคนต่างรีบเข้าห้องไปหยิบของ
วันนั้นตอนเย็นบีมจะไปดูคอนเสิร์ตค่ะ
กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ด้วย ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย
คว้าอะไรได้คว้าเลย
คว้ามินิสเกิ๊ตในตู้ได้เป็นสิ่งแรก ก็ใส่ก่อนเลย
แล้วตอนนั้นยังอยู่ช่วงปลายหน้าหนาว กระโปรงสั้น+รองเท้าแตะ กับอุณหภูมิ 5 องศา
แล้วก็มือถือ ออกมาตัวเปล่าแค่นั้นจริง
วิ่งออกจากห้องพร้อมมินจีอย่างรวดเร็ว
ลงบันไดจากชั้น 9 บีมอยู่ชั้นบนสุดนะ ดังนั้นแรงเหวี่ยงที่หอบีมตอนนั้น ชั้นที่บีมอยู่จะรู้สึกแรงที่สุด)
นาทีที่วิ่งลงบันได แผ่นดินยังไหวไม่หยุดเลยนะ เป็นการไหวที่ยาวนานมาก
เรารู้สึกว่าเราวิ่งชนซ้าย ชนขวา เหมือนในหนัง ทำไมบันไดมันไม่อยู่นิ่งเลย ตึกจะถล่มไหม นี่วันโลกแตกหรือไง
พอวิ่งลงไปข้างล่างเสร็จ
ไม่ได้มีแค่เราสองคนนะ
ข้างล่างมีนักศึกษาวิ่งลงมาเพียบ ทั้งต่างชาติ ทั้งญี่ปุ่น
การหลบใต้โต๊ะที่เรียนมาไม่ช่วยอะไรแล้วตอนนี้ เพราะทุกคนแพนิค
เพื่อนผู้ชายฝรั่งนี่ยิ่งกว่ากระโปรงสั้นของบีม มาแบบกางกางในกับเสื้อกล้าม
ทุกคนตกใจ
เราถามเพื่อนๆคนญี่ปุ่นที่อยู่หอเดียวกัน
เธอ ญี่ปุ่นแบบนี้ปกติไหม
ญี่ปุ่น : ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย
พอได้ยินแบบนั้นก็ช็อคเลย
รีบโทรหาครอบครัวเลย
แต่โทรไม่ได้นะ เพราะทุกคนอยู่ในภาวะตกใจ และทุกคนใช้โทรศัพท์พร้อมๆกัน มันเลยโทรไม่ติด
กว่าจะโทรได้
โทรไปบอกที่บ้านว่าให้เปิดทีวีดู แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนักมาก ตกใจมาก แต่หนูไม่เป็นไรนะ ปลอดภัยดีไม่ต้องเป็นห่วง
พ่อบอกว่า เนี่ยข่าวออกแล้ว เขาบอกว่าระวังซึนามิ
วันนั้นพ่อที่อยู่ไทย รู้ข่าวซึนามิก่อนพวกเราที่หออีก เพราะโมเมนต์นั้นไม่มีใครได้ดูทีวีเลย
ยืนอยู่ด้านล่างสักพัก ต่างคนก็กลับเข้าห้องไป
แต่หลอนมาก เพราะหลังจากนั้น มันมีอาฟเตอร์ช็อกมาอีกเรื่อยๆ
เบากว่ารอบแรก แต่ก็แรงมาก รู้สึกเหมือนห้องสั่นไหวตลอดเวลา ชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้ คนญี่ปุ่นก็กลัวนะ
แต่เหมือนเขามีประสบการณ์เรื่องแผ่นดินไหวมาเยอะ แล้วก็มั่นใจในโครงสร้างตึกของเขา
(หอบีมเขาบอกว่าต้านทานได้ถึงระดับ 8 ซึ่งวันนั้นระดับ 5+ ใกล้ๆ 6 )
แต่บีมกับมินจีนี่กอดคอกันร้องไห้ จำได้เลย
แล้วก็พากันไปนอนที่ส่วนกลาง ตรงเจ้าหน้าที่ดูแลหอ ที่อยู่ชั้นล่าง
ก็มีทีวีใหญ่ๆ มีคนชาติอื่นๆที่กลัวรวมทั้งคนญี่ปุ่นมาอยู่รวมกันด้วยแหละ ดูข่าวซึนามิด้วยกัน
เครียดมาก เพราะหลังจากแผ่นดินไหว ญี่ปุ่นขึ้นเตือนซึนามิรอบเกาะเป็นตัวแดงเข้ม แสดงถึงซึนามิมาชัวร์และลูกใหญ่มาก
ซึ่งตอนนั้นเราอยู่โตเกียว ได้แต่นั่งดูข่าวเฝ้าระวัง เพราะเราไม่รู้ว่าที่อื่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
สรุปคืนนั้นบีมกับมินจีไม่ได้นอน นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง
สภาพห้องบีมหลังแผ่นดินไหว ไม่มีอะไรเสียหายมาก เพราะบีมกำลังเก็บของลงกล่องเตรียมกลับไทย
แต่ในห้องน้ำของหล่นหมดเลย
น้ำในคอห่านทะลักท่วมออกมา หรือซึมออกมานี่แหละ เยอะมากๆ ไหวแรงขนาดนั้น
ส่วนห้องมินจี เขาเก็บของไว้บนชั้นวางของเยอะ ทุกอย่างลงมาอยู่บนพื้นหมดเลย
ห้องครัวในรูปนั่นคือของหล่นตามพื้น ส่วนทีวีที่เหมือนจะตั้งสวยๆนั่นคือหล่นลงมาจากโต๊ะนะ แตก+พังเลย
หลังจากวันนั้นอาฟเตอร์ช็อคมาตลอด วันละหลายสิบครั้ง
รู้สึกหลอนตลอดเวลา
แล้วบีมก็เครียดมาก พอเครียดแล้วก็กินอะไรไม่ได้ ท้องเสีย น้ำหนักลงอย่างเร็ว
เวลานอนต้องเปิดทีวี เพราะช่วงนั้นเขาจะรายงานข่าวเรื่องนี้ตลอด แล้วมีข่าวเรื่องโรงไฟฟ้าอีก
ประตูห้องบีมก็ไม่ได้ปิดตอนนอน แง้มไว้ เพราะประตูหนักมาก เป็นเหล็ก กลัวถ้าเกิดไหวแรงอีกแล้วเปิดออกจากห้องไม่ได้
เปิดไฟนอนด้วย ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พอมีเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด
โตเกียวก็มีแผนตัดไฟ เพื่อใช้จ่ายให้ทั่ว
วันนี้ตัดเขตนี้ๆๆ เวลากี่โมงกี่นาที พรุ่งนี้ตัดเขตนี้กี่โมงกี่นาที ผลัดเปลี่ยนกันไป
เขาตัดจริงๆนะคะ
วันที่เขาตัดนี่ ไฟดับพร้อมกันทีเดียวทั่วเมือง
ดับแบบมืดสนิทมองอะไรไม่เห็นเลย ประมาณชั่วโมงกว่าๆ
มองออกไปข้างนอกนี่ไม่เห็นอะไรเลย เพราะเขาตัดตอนกลางคืน
ส่วนรถไฟ งดวิ่งเยอะมาก
ที่สถานีรถไฟ ปิดไฟเยอะมาก เป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ร้านสะดวกซื้อ ทุกอย่างหมด
หมด หมด หมด
โดยเฉพาะพวกน้ำ และขนมปัง
ของขาดมาก
แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีอะไรกินนะ สำหรับโตเกียว
แต่ก็หลายๆอย่างขาดจริงๆ หายเรียบไปหมด เพราะซื้อตุนกัน
คอนเสิร์ตที่บีมจะไปดูวันที่แผ่นดินไหวก็ยกเลิก แพลนเที่ยวยกเลิกหมด บีมเลื่อนวันกลับไทยให้เร็วขึ้นอีก 1 อาทิตย์
คนต่างชาติแห่กลับประเทศกันเยอะมาก
ผ่านไปสัปดาห์นึงแล้ว
อาฟเตอร์ช็อควันละหลายสิบร้อยรอบก็ยังไม่หายไป
วันที่บีมกลับไทย
ก่อนขึ้นเครื่องแผ่นดินยังไหวอยู่เลย
ก่อนกลับ บีมก็เอาเงินที่บีมมีอยู่ บริจาคให้ผู้ประสบภัย
พอกลับถึงไทยแล้ว
ยังรู้สึกถึงแผ่นดินไหวตลอดเวลา
รถบรรทุกวิ่งผ่านหน้าบ้านทีไร หัวใจนี่จะหล่น รู้สึกหลอนตลอด
คิดถึงเพื่อนๆ คิดถึงคนญี่ปุ่น
สงสารผู้ประสบภัย
อ่านข้อความคนไทยหลายๆคน
เกี่ยวกับแผ่นดินไหว ไม่ว่าช่วงตอนนั้นหรือตอนนี้
ช่วงตอนนั้นก็แบบ มีคนตั้งสเตว่า
"อยากรุ้สึกถึงแผ่นดินไหวบ้างงง" อะไรงี้
หรือหลังๆเวลามีแผ่นดินไหวที่ไทยก็จะเห็นคนที่โดนแผ่นดินไหวบางคน ตื่นเต้น ดีใจกัน คือก็เข้าใจนะ ว่าอยากจะรู้ว่าแผ่นดินไหวเป็นอย่างไร
แต่คุณรู้ไหม การไม่เจอภัยพิบัติ มันคืออะไรที่ดีที่สุดแล้ว
การที่มีแผ่นดินไหวน้อยๆ มันดีที่สุดแล้ว
แผ่นดินไหว มันไม่ใช่เรื่องสนุก
แล้วถ้าไทยเจอแบบญี่ปุ่นวันนั้น
ตึกน่าจะเรียงตัวถล่มไปเป็นแถบ
มันไม่สนุกเลยนะ กับการที่ต้องมานั่งหลอนกับเรื่องที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และการใช้ชีวิตที่นี่ก็ต้องหวาดกลัวกับสิ่งนี้ตลอดเวลา
และนี่ก็คือเหตุการณ์ในช่วงนั้นของบีมค่ะ
อย่างไรก็ตาม
ปัจจุบันนี้ผ่านไป 10 ปีแล้ว คนญี่ปุ่นได้เรียนรู้การระวังภัยที่มากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียซ้ำอีก
มีการสร้างอนุสรณ์สถานต่างๆ เพื่อรำลึกถึงวันนั้น มีการเตรียมระวังภัยทีมากขึ้น
พื้นที่บางแห่งที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ทุกวันนี้ก็ยังคงถูกทิ้งร้างอยู่เหมือนเดิม
ปล.รูปแรกคือรูปปัจจุบันที่บีมไปสถานที่ประสบภัยนะคะ
BeamSensei
*อยากอ่านตอนเก่าคลิกที่แฮชแทก หรือ search ในเพจเอานะคะจุ๊บๆ
อัพทุกวันศุกร์
#BeamStoryเรื่องของบีมและญี่ปุ่น