วันแรกที่ผมคิดจะลองทำ ไร่ทดลองการเกษตร ทฤษฎีใหม่ @rai_jitpakdee ก็มีคนออกมาโพสต์ด่าว่าผมมากมาย... พอผมเริ่มลงมือทำ ก็มีคนเข้ามาหัวเราะกันว่า จะถมที่นาดีๆไปทำไม?... พอเค้าเริ่มเห็นไร่ เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ก็เริ่มถามว่า “เค้าคิดจะทำอะไรเหรอ?”... พอเห็นไร่เริ่มสร้างผลผลิตออกมาได้ทุกๆวัน... ตอนนี้ทุกคนเริ่มถามกันแล้วว่า “เค้าทำยังไงเหรอ?”... ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า ไร่จิตภักดี นี้ เป็นไร่ที่ผมและเจ้าของไร่ ลงมือกันทำเองทั้งหมด ผมลงทุน เจ้าของไร่ลงแรง... เจตนาของเราคือ การใช้ความ เชี่ยวชาญทางด้านการวางระบบ/ ทำบัณชี/ หาตลาด ของผม มาผสมกับ ความเชี่ยวชาญทางด้านการเกษตร ของเจ้าของไร่... เราพยายามใช้งบให้น้อยที่สุด เพื่อให้ชาวบ้านเข้าถึงได้ หลายๆอย่าง กรรมป่าไม้ กรรมการเกษตร มีแจกให้ฟรี.. การลงทุนที่เหลือ ผมใช้เงินผมเอง 100% แล้วไม่ขออะไรคืนเลยนะครับ ผลผลิตทั้งหมดเป็นของครอบครัวเจ้าของไร่ เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดว่าผมคิดมาเอาผลประโยชน์อะไร.. ผมแค่ต้องการคำตอบว่า มันพอจะมีวิธียกระดับชีวิตของชาวไร่ชาวนาให้ดีขึ้นมั้ย? แล้วผมก็แนะนำผ่านทางรายการของผมแล้วด้วยว่า อย่าเพิ่งไปทำตามครับ ขอเวลาผมลุย ลองผิดลองถูกก่อนสัก ปี 2 ปี.. ได้หรือไม่ได้ ในอนาคตจะหาข้อสรุปมาให้.. จิงๆที่เขียนมานี่ไม่ใช่อะไร แค่อยากจะบอกว่า ทุกอย่างที่ใหม่หรือใหญ่ที่คุณคิดจะทำในชีวิต มักจะมาพร้อมกับคำถาม หรือการต่อต้านอยู่แล้ว.. ทุกคนกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะเราไม่รู้ว่า ผลลัพธ์ของสิ่งที่เราไม่เคยทำมันจะออกมาบวกหรือลบ.. แล้วหลายๆครั้งคนที่จะพยายามเบรคคุณก็คือคนไกล้ตัวเช่นเพื่อนหรือครอบครัว แต่ส่วนตัวพี่ไม่เคยคิดมากเลย เราอยู่ว่าเค้าเป็นห่วง แต่เราก็รู้เช่นกันว่า เราเป็นคนยังไง มี ศักยภาพมากน้อยแค่ไหน.. เพราะฉะนั้น จงมีความเชื่อในตัวเอง สิ่งที่เค้าบอกว่าเราทำไม่ได้.. มันไม่ได้แปลว่าเราทำไม่ได้.. แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าทำเองไม่ได้ ก็ได้.. เราควรรับฟังทุกอย่าง แต่ถ้าเรายังเชื่ออยู่ ก็ไม่ต้องท้อ แค่บอกว่า ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ.. เดี๋ยวผมจะทำให้ดู 🙏🏻💕 #djpoomphilosophy

คนส่วนใหญ่จะกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะมันคือการออกจาก Comfort Zone ของเรา มันคือการลองทำอะไรใหม่ที่เราไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง.. เพราะเหตุผลนี้ การเปลี่ยนแปลงหลายๆครั้ง จะมาควบคู่กับการตั้งคำถามหรือการต่อต้าน.. ก่อนที่ผมจะลงมือทำไร่ @rai_jitpakdee ก็มีคนเขียนด่าเขียนว่าผมใน เฟส มากมาย แชร์กันเป็นพันๆคน.. ทุกวันนี้เวลาไปที่ไร่ก็ยังมีชาวบ้านหลายท่าน เข้ามาถามว่า เค้าทำอะไร? ทำไมเค้าถึงได้กล้าถมที่นาดี?.. วันก่อนไปทานข้าวกับครอบครัวผม ญาติผู้ใหญ่บางท่านก็ยังหัวเราะแล้วบอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย... ผมไม่โกรธหรือรู้สึกแย่กับใครเลยนะครับที่คิดว่าผมทำไม่ได้.. แล้วผมก็ตอบทุกคนกลับไปเหมือนกันหมดว่า ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ ขอเวลาผมแปปนึงนะครับ เดี๋ยวผมจะทำให้ดูเอง... ในจินตนาการของผม ไร่ จิตภักดี จะกลายเป็น ไร่ทดลองการเกษตร ทฤษฎีใหม่ ที่ชาวบ้านมารับความรู้ได้ จะมีร้านอาหารเล็กๆ ขึ้นช่วงหน้าหนาวปีนี้เมื่อผักปลา ทุกอย่างที่เราปลูกและเลี้ยงโตพร้อม จะมี Home stay “บ้านที่ทำจากดิน” เกิดขึ้นต้นปีหน้า ทุกอย่างผมจะทำด้วยเงินทุนของผมเองทั้งหมด ทำแบบประหยัด เข้าถึงได้ ชาวบ้านหลายๆท่านอาจจะหยิบเอาไปปรับใช้กับไร่ท่านได้.. รายได้ทั้งหมด ผมยกให้กับเจ้าของไร่.. ไร่เล็กแปลงนี้ (2ไร่กว่าๆ) นี้อีก 1 ปี จะสร้างรายได้ เดือนละไม่ตำกว่า 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน.. คืนทุนทุกอย่างไม่ถึงหนึ่งปี... มันเป็น บทที่ผมตั้งไว้ให้กับตัวเองว่า จะทำยังไง ให้คุณภาพชีวิตของชาวไร่ชาวนาดีขึ้น... มันอาจเป็นฝันที่ใหญ่ ผมอาจจะทำอะไรผิดพลาดเยอะ แต่ผมรู้จักตัวเองดีว่า เป็นคนยังไง ถ้าสิ่งที่ผมคิดหรือต้องการมันยังไม่เกิดขึ้น ผมจะไม่มีวันหยุด จนกว่ามันจะเป็นไปตามที่ผมคิดไว้จิงๆ... ตอนนี้อย่าเพิ่งทำตามนะครับ ขอเวลาผมลองผิดลองถูกก่อนอีกสักหน่อย เดี๋ยวขอผมได้บทสรุปแล้ว เดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟัง 🙏🏻💕

ทุกคนที่มาที่ @rai_jitpakdee เราอยากจะให้ปลูกต้นกันคนละต้นนะครับ ในอนาคต กลับคุณจะได้รู้ว่าคุณก็คือหนึ่งแรงดันสำคัญที่ทำให้ไร่ ทดลอง การ เกษตร ทฤษฎีใหม่ นี้เกิดขึ้นได้... วันเราลงต้น มะม่วง มะไฟ ทุเรียน ทุกอย่างที่ทุกคนอย่างกิน เราจะปลูกที่นี้ 💕