[爆卦]ตะกอน ภาษาอังกฤษ是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇ตะกอน ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區:在ตะกอน ภาษาอังกฤษ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ตะกอน產品中有3篇Facebook貼文,粉絲數超過35萬的網紅สมองไหล,也在其Facebook貼文中提到, ปีนี้เป็นปีที่ผมเริ่มอ่านหนังสือมาได้ประมาณ 2 ปี และเป็นปีที่การอ่านที่ผมฟูมฟักมาตลอดได้ผลิดอกออกผลมากที่สุด แถมยังเป็นปีที่ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงแบบขึ้นส...

 同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過531萬的網紅Illslick thelegandary,也在其Youtube影片中提到,## เนื้อเพลง ## All My Shit From Cali , Cali , Cali All My Kush From Cali, Cali , Cali Mr. Legenday , Dary .... ชีวิตก็เหมือนละคร และก้อนตะกอนที่ฝั...

ตะกอน 在 Gin Gub ON ?? food lover Instagram 的最佳解答

2020-08-11 13:42:36

ชาเขียวมัทฉะ และโฮจิฉะลาเต้ @tenji_official กลมกล่อมหอมมัทฉะแคลต่ำ ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ชาเขียวนำเจ้าจากญี่ปุ่น . . 🌱ชาเราไม่ใส่สารกันบูด 🌱ไม่ตกแต่ง ...

ตะกอน 在 A-tis T. Asanachinda [Aom|ออม] Instagram 的最佳貼文

2020-06-03 21:16:46

ตก | ตะกอน | เนิร์ด...

  • ตะกอน 在 สมองไหล Facebook 的最佳貼文

    2020-12-31 00:19:37
    有 1,275 人按讚

    ปีนี้เป็นปีที่ผมเริ่มอ่านหนังสือมาได้ประมาณ 2 ปี และเป็นปีที่การอ่านที่ผมฟูมฟักมาตลอดได้ผลิดอกออกผลมากที่สุด แถมยังเป็นปีที่ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงแบบขึ้นสุดลงสุดอีกด้วย แทบไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่า จากคนที่ทำงานประจำ ธุรกิจโรงเรียนสอนเทควันโดที่ทำอยู่ก็ลุ่มๆ ดอนๆ และมีชีวิตที่ไร้จุดหมายเมื่อช่วงต้นปี กลับกลายเป็นคนที่เติบโตแบบก้าวกระโดดจนมีเป้าหมายมากมายให้ท้าทายตัวเองเต็มไปหมดในช่วงท้ายปี
    .
    และนี่คือบทสรุป 14 ข้อที่ ผมได้เรียนรู้ในปี 2020
    .
    1) อ่านหนังสือน้อยกว่าปีที่แล้ว 3 เท่า
    .
    ปีที่แล้วผมอ่านหนังสือไป 42 เล่ม แต่ปีนี้ ผมอ่านไปได้ 19 เล่ม โดยอ่านจบ ไปเพียง 14 เล่มเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า เฉลี่ยผมอ่านได้เพียงเดือนละประมาณ 1 เล่ม นิดๆ เท่านั้น
    .
    ด้วยความที่ปีนี้ผมอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาหนักกว่าปีที่แล้วมากพอสมควร และเน้นไปทางหนังสือธุรกิจค่อนข้างเยอะ นั่นจึงทำให้ผมอ่านได้ช้าลงกว่าเดิม เพราะจากที่เคยอ่านจบแล้วผ่านไป แต่ปีนี้ผมอ่านแล้วขีดไฮไลท์ส่วนสำคัญ แล้วนำมันออกมาวิเคราะห์กับสถานการณ์ที่เจอในชีวิตจริง นำไปถกประเด็นกับคนที่รู้จัก แล้วเขียนมันออกมาลงเพจเพื่อให้คนอื่นได้นำไปใช้ประโยชน์อีกที
    .
    อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือ จากเดิมผมอ่านหนังสือให้จบเป็นเล่มๆ กลายเป็นอ่านพร้อมกัน 3-4 เล่ม เพราะผมต้องทำคอนเทนต์มากกว่าปีก่อน จึงต้องอ่านอะไรที่หลากหลายขึ้น โดยจะวางหนังสือไว้ตามที่ต่างๆ ตามความเหมาะสม เล่มไหนเป็นบทสั้นๆ อ่านจบบทได้เร็วก็จะวางไว้ในห้องน้ำ หรือ ติดตัวไว้อ่านเวลาเดินทาง ส่วนเล่มไหนที่หนักๆ แนวเจาะลึก ต้องใช้เวลาอ่านมากๆ ก็จะวางไว้ที่โต๊ะทำงานและหัวเตียง
    .
    ที่สำคัญเล่มไหนเขียนไม่ค่อยดี น้ำเยอะ วกไปวนมา ผมจะปิดทันที แล้วเปลี่ยนไปอ่านเล่มอื่นเลย จึงมีบางเล่มที่ผมอ่านไม่จบ จากเดิมที่จะฝืนทนอ่านจนจบ เพราะซื้อมาราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ แต่ถ้าอ่านไม่จบจะรู้สึกแปลกๆ แต่ปีนี้ “เวลา” เป็นของที่ราคาเเพงมากสำหรับผม ผมจึงจะไม่เสียเวลากับอะไรที่ไม่สำคัญกับชีวิต
    .
    จะเห็นว่าปริมาณ Input ของผมในปีนี้อาจจะน้อยกว่าปีที่แล้ว 3 เท่าก็จริง แต่ปริมาณในการ Out put ของผมนั้นมากกว่าปีที่แล้วมากกว่า 3 เท่าด้วยซ้ำ
    .
    สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ ไม่อยากให้เราไปยึดติดว่ายิ่งอ่านเยอะ ยิ่งดี เพราะความจริงแล้วผลสัมฤทธิ์ ของการอ่านไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราอ่านไปมากเท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่าเรานำมันออกมาใช้งานจริงได้มากแค่ไหนต่างหาก
    .
    2) เปิดหนังสือ = เปิดโอกาส
    .
    ต้องบอกว่าโอกาสที่ผมได้รับในปีนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ มาจากการอ่านหนังสือทั้งสิ้น นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ได้ไปออกรายการโหนกระแสทางช่อง 3 ก็เกิดจากการอ่านแล้วเขียนบทความลงเพจ จนคุณหนุ่ม กรรชัย เชิญไปออกรายการ
    .
    เมื่อเพจเริ่มโตในระดับหนึ่ง ช่วงกลางปีผมก็เริ่มขายหนังสือออนไลน์ทำให้มีรายได้หลักล้าน จากที่ไม่มีแม้แต่เงินเก็บ จนผมสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวและวางแผนลงทุนในธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นต่อได้ในปีหน้าได้
    .
    พอขายหนังสือไปสักพักก็เริ่มรู้จักคนในวงการหนังสือมากมาย เช่น พี่ปิ๊ก ผู้เขียนหนังสือวิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน, โค้ชแบงค์ เจ้าของเพจรู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ ผู้เขียน หนังสือรู้แค่นี้ขายดีทุกอย่าง ตลอดจนสำนักพิมพ์ต่างๆ จนในที่สุดผมก็ได้รับโอกาสให้ได้เขียนหนังสือเล่มแรกของตัวเองในปีนี้ และได้มีโอกาสอื่นๆ เข้ามากมาย ทั้งงานที่ปรึกษา วิทยากร ไปจนถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย
    .
    นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าการอ่านหนังสือไม่ใช่แค่ได้ความรู้ แต่มันคือการเปิดโอกาสดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต ลองคิดดูว่าถ้าคนไทยอ่านหนังสือมากขึ้นเหมือนประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทยของเราจะพัฒนาไปได้มากขนาดไหน และนี่แหละคือ เหตุผลที่ผมทำเพจนี้ขึ้นมา
    .
    3) แรงบันดาลใจทำให้คุณเริ่มต้น แต่ความสม่ำเสมอทำให้คุณสำเร็จ
    .
    ตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผมทำเพจมา ปีนี้เป็นปีที่เพจสมองไหลเติบโตแบบก้าวกระโดดมากๆ จากผู้ติดตาม 1,000 คน เมื่อช่วงต้นปี ก็ทะยานขึ้นเป็น 250,000 คน
    .
    หลายคนเข้ามาถามผมว่าจะหาแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆ จากหนังสือเล่มไหนได้บ้าง อยากจะทำเพจให้ประสบความสำเร็จบ้าง มีเคล็ดลับยังไง มีไอเดียธุรกิจมากมายเต็มไปหมด แต่ยังไม่ได้เริ่มทำสักที พอจะมีหนังสือเล่มไหนทำให้ตัวเองลงมือทำได้บ้าง
    .
    สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ 100 ความฝัน ก็ไม่มีค่าเท่า 1 การลงมือทำ ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากแรงบันดาลใจ เพราะแรงบันดาลใจทำให้เราเริ่มต้นเท่านั้น มันเหมือนลม แค่พัดมาแล้วก็ผ่านไป แต่สิ่งที่จะวัดว่าเราจะสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน คือ ความสม่ำเสมอ ต่างหาก
    .
    กว่าเพจผมจะโตแบบก้าวกระโดดได้ ผมต้องเขียนบทความทุกวันรวมกันมากกว่า 300 บทความ โดยมีคนกดไลค์ไม่ถึง 50 แชร์ไม่ถึง 10 ตลอดเกือบ 1 ปี ผ่านการเรียนรู้ ทดลอง ปรับใหม่ กว่าจะมีบทความนึงที่อยู่ๆ มันก็เป็นไวรัลและทำให้ฐานผู้ติดตามเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจาก 3,000 คน เป็น 20,000 คน
    .
    ฉะนั้น ไม่ใช่ว่าคุณทำออกมายังไม่ถึง 5 คอนเทนต์ แล้วมาบอกว่าทำไมมันไม่มีคนดูไม่ได้คนสนใจ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำออกมาอย่างสม่ำเสมอและพิสูจน์ให้คนดูเห็นเลยว่าคุณคือของจริง แล้วก็มาตามหาเคล็ดลับทางลัดสู่ความสำเร็จ
    .
    มันไม่มีหรอกครับ เพราะถ้าคุณศึกษาคนที่สำเร็จจริงๆ แทบไม่มีเลยที่เขาทำอะไรสำเร็จภายในวันสองวัน แม้แต่ผลวิจัยในหนังสือ ORIGINASL ก็ยังบอกว่าคนที่สำเร็จไม่ได้เก่งไปกว่าคนทั่วไปเลย เพียงแต่เขาผลิตผลงานออกมาในปริมาณมากกว่าคนอื่นต่างหาก
    .
    มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยสอนผมว่า เวลาจะลงทุนกับใคร อย่าลงทุนคนที่มีแพชชั่นมาก แต่ให้ลงทุนกับคนที่ยังลงมือทำสิ่งนั้นอยู่แม้ว่าแพชชั่นจะหมดไปแล้วก็ตาม
    .
    4) จงเชื่อใน “กระบวนการ” ไม่ใช่ “ผลลัพธ์”
    .
    ปีนี้เรียกได้ว่าคนไทยเจอเรื่องหนักๆ มาเยอะ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ โรคระบาด สิ่งที่ขายดิบขายดีในปีนี้จึงเป็นพวกของขลัง ของให้โชค หรือ กฎจักรวาล เราจะเห็นข่าวคนโดนหลอกจากของพวกนี้ค่อนข้างเยอะ
    .
    นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่หวังจะรวยด้วยการข้ามขั้นไปหา “ผลลัพธ์” โดยไม่ได้สนใจเรื่อง “กระบวนการ” เลย
    .
    มีลูกเพจหลายคนทักเข้ามาหาผมว่าทำยังไงถึงจะรวยขึ้น ก็ทำตามกฎแรงดึงดูดและกฎจักรวาลทุกอย่าง ก็พูดกับตัวเองทุกวันนะว่า ฉันรักเงิน เงินรักฉัน แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง
    .
    ผมจึงถามกลับไปว่า เวลาคุณแอบชอบใครสักคน คุณบอกกับตัวเองว่า ฉันรักเขา เขารักฉัน แต่ไม่ได้ทำตัวให้คู่ควรกับเขา เขาจะหันมารักคุณไหม
    .
    นั่นก็เพราะไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ผ่าน “กระบวนการ”
    .
    กว่าใครสักคนจะหันมาชอบเรา เราอาจจะต้องแกล้งเดินผ่านไปให้เขาเห็นหน้าบ่อยๆ คิดมุขเด็ดๆ ไปหยอดใส่เขา ค่อยๆ หาช่องทางติดต่อ จนได้คุยกันทุกวัน กว่าใครสักคนจะใจอ่อนมาสนใจเรา
    .
    เช่นกัน การทำเงินมันก็ต้องมีกระบวนการของมัน คุณต้องหาความรู้ วางแผนการเงิน ทดลองลงมือทำ ทำการตลาด จนกว่าจะได้สิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า และได้เงินตอบแทนกลับมาเป็นผลพลอยได้
    .
    เมื่อคุณทำตัวให้คู่ควรกับเงิน เงินถึงจะเข้ามาหาคุณ ไม่ต้องไปขอจักรวาล ขอแค่ใส่ใจ “กระบวนการ” แล้วมันจะตามมาเอง
    .
    5) ความโชคดีเกิดจาก “กระบวนการ”
    .
    ผมเป็นคนชอบดูฟุตบอล และสิ่งที่คนมักพูดกันในวงการคือ การจะเป็นแชมป์ได้นั้น เก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีโชคด้วย
    .
    อย่างไรก็ตาม โชคจะเข้าข้างคนที่พยายามเท่านั้น
    .
    กล่าวคือ นักฟุตบอลจะต้องพยายามเอาลูกฟุตบอลเข้าไปใกล้ประตูของคู่แข่งให้มากที่สุด พยายามยิงประตูให้มากที่สุดก่อน พอถึงตรงมันอาจจะมีโชคเข้ามา เช่น คู่แข่งส่งบอลพลาด เตะไปเตะมาไปโดนคู่แข่งเข้าประตูตัวเอง หรือ ไม่ก็เตะบอลโด่งๆ ไปเข้าหัวใครสักคนโหม่งเข้าประตูได้ .
    .
    ทุกอย่างมันเกิดจาก “กระบวนการ”
    .
    ถ้านักฟุตบอลลงไปเตะบอลในสนามแล้วไม่ยอมเตะบอลเลย คุณจะชนะได้ไหม คำตอบคือ “ไม่”
    .
    เช่นกัน ถ้าคุณอยู่เฉยๆ รอโชค มันก็ไม่ต่างกับนักฟุตบอลที่ลงไปยืนในสนามเฉยๆ แล้วหวังว่าลูกฟุตบอลมันจะลอยเข้าประตูฝั่งตรงข้ามเอง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
    .
    ผมอาจจะโชคดีที่ทำเพจอยู่ดีๆ คุณหนุ่ม กรรชัยก็เชิญไปออกรายการ ผมอาจจะโชคดีที่เขียนบทความไปอยู่ๆ มันก็เป็นไวรัล ผมอาจจะโชคดีที่เพจดันมาโตเอาช่วงโควิด-19 ทำให้เกิดรายได้มากมาย ผมอาจจะโชคดีที่ได้เจอคนในวงการหนังสือทำให้มีคอนเนกชั่นในการทำธุรกิจและเขียนหนังสือ
    .
    แต่คำถาม คือ ถ้าผมไม่พยายามเขียนบทความทุกวัน คุณหนุ่ม กรรชัย จะผ่านมาเห็นไหม แล้วคนจะแชร์เป็นไวรัลไหม มันจะเกิดรายได้ไหม แล้วถ้าผมไม่ทดลองขายหนังสือจะได้เจอนักเขียน จนได้ออกหนังสือของตัวเองไหม
    .
    จริงอยู่ ที่ความสำเร็จมันต้องอาศัย “โชค” ช่วยด้วย แต่โชคมัน คือ ตะกอน ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการ เท่านั้น ไม่มีทางที่มันจะเกิดขึ้นได้จากการนั่งรอมันเฉยๆ
    .
    6) ความเปลี่ยนเเปลง ทำให้เจอหนทางใหม่
    .
    ปีนี้เป็นปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก และมันคือ สิ่งที่ทำให้ผมพบเจอหนทางใหม่ หลักๆ เลยคือ โควิด-19 ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิต อะไรที่เคยคิดว่ามันคงไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ก็เกิดขึ้น
    .
    อย่างการ Work from home ซึ่งทำให้ผมได้หัดไปซื้อของสดมาทำกับข้าวกินเอง แรกๆ ก็กินไม่ค่อยได้ แต่ทำไปสักพักฝีมือก็ดีขึ้น แต่ที่รู้ๆ คือ เงินในกระเป๋าเหลือเกือบครึ่งนึงเลย
    .
    และ Work from home ก็ทำให้ผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ประกอบกับข้อคิดใน “หนังสือใครเอาเนยแข็งของฉันไป” ที่บอกว่า เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลง คุณมีทางเลือก 2 ทาง คือ โทษสิ่งที่เกิดขึ้นกับว่ามันไม่ยุติธรรม กับ ถามตัวเองว่ามีทางไหนที่ทำให้เราดีขึ้นกว่านี้
    .
    ผมจึงฉุกคิดได้ว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน งานประจำที่ว่าแน่นอนก็ไม่แน่นอน เพราะเห็นคนมากมายที่ตกงาน และเราก็ไม่รู้เลยว่ามันจะมาถึงเราเมื่อไหร่
    .
    โควิด-19 ได้เข้ามาเขย่าผมอย่างแรง ให้ผมต้องคิดทำอะไรสักอย่าง จนทดลองทำงานเสริม จนวันนี้รายได้มันแซงงานประจำ 5 เท่า และกลายเป็นรายได้หลักไปแล้ว
    .
    7) จงเปลี่ยน ก่อนที่ถูกเปลี่ยน
    .
    บทเรียนจากโควิด-19 ทำให้ผมตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร จากที่เคยเฉื่อยชากับความเป็นไป กลายเป็นสังเกตสถานการณ์และเปลี่ยนแปลงตัวเองมาโดยตลอด
    .
    จากเดิมที่ผมโดนเขย่าให้ทำอะไรสักอย่าง จนเกิดเป็นธุรกิจใหม่ที่ทำเงินได้มากกว่าเดิม 5 เท่าแล้ว คราวนี้ผมไม่รอให้สถานการณ์มันเขย่าผมก่อนอีกแล้ว เมื่อผมสร้างความสำเร็จอะไรอยู่ตัวระดับหนึ่งแล้ว ผมจะหาทำอย่างอื่น เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก
    .
    พอธุรกิจขายหนังสือเริ่มอยู่ตัว ผมก็เริ่มมองหาทำอย่างอื่น ก็คือ การเขียนหนังสือเป็นของตัวเอง เริ่มศึกษาเรื่องการสร้าง Personal Branding พาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นในการทำสื่อ เริ่มวางโครงสร้างคอร์สเรียนตามคำเรียกร้องของลูกเพจ มองหาธุรกิจที่จะลงทุนต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็มีแผนจะกระโดดไปทำธุรกิจกาแฟในปีหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย
    .
    เพราะผมมองว่าเราควรเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่จะโดนบีบให้เปลี่ยนแปลง เพราะการทำอะไรในสถานการณ์ที่กินอิ่มนอนหลับ มันเหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ แถมผลลัพธ์ที่ได้จากความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองก็มักจะออกมาดีกว่าอีกด้วย
    .
    เหมือนอย่างที่หนังสือ “หนังสือใครเอาเนยแข็งของฉันไป” บอกไว้ว่า จงสังเกตเนยแข็งของตัวเองอยู่เสมอว่ามันลดน้อยลงหรือเปล่า หรือ มันเริ่มขึ้นราหรือยัง และจงสำรวจเพื่อมองหาเนยแข็งใหม่ๆ อยู่เสมอ ก่อนที่จะมีใครมาเอาเนยแข็งของฉันไป
    .
    8.) ไม่ว่าจะทำงานประจำ หรือ ธุรกิจ ก็รอวันหยุดเหมือนกัน แต่รอในมุมมองที่ต่างกัน
    .
    ช่วงที่ทำงานประจำผมเองก็เหมือนคนทั่วไป ที่ไม่ชอบวันจันทร์ และ โหยหาวันหยุด ยิ่งพอช่วงใกล้วันหยุดทีไร ใจนี่ลอยไปไหนต่อไหนแล้ว
    .
    แต่หลังจากที่ผมลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจ ผมค้นพบว่า ผมก็ยังรอวันหยุดเหมือนกัน แต่เปลี่ยนจากรอเพื่อหยุดงาน เป็นรอทำงาน เพราะวันหยุดคือวันที่ลูกค้ามีเวลาให้เรามากที่สุด และเป็นวันที่ยอดขายจะมากกว่าวันธรรมดา ผมจึงชอบวันหยุดในเวอร์ชั่นนี้มากๆ เลย
    .
    พอได้ออกมาทำธุรกิจเต็มตัว จะพบเลยว่าเราแทบไม่มีวันหยุด เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่ากำลังพัฒนาตัวเองอยู่มากกว่า
    .
    แต่ก็ใช่ว่าเราจะหักโหมตัวเองอะไรขนาดนั้น เราอาจจะไม่หยุดงานก็จริง แต่เรายืดหยุ่นงานได้เอง คือ ถ้าช่วงไหนงานเยอะ ก็ไปปรับเวลาในอีกช่วงให้ทำงานน้อยลง เวลาจะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็เลือกวันที่คนทั่วไปเขาไม่ไปเที่ยวกัน จึงทำให้ถนนก็โล่ง เดินทางสะดวกขึ้น ประหยัดเวลาไปได้ก็เยอะเลย
    .
    คือ พอมาทำธุรกิจ ไม่ใช่เวลามีเวลาว่างกว่าเดิมหรอก จริงๆ งานยุ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ บางทีลาหยุดไปแบบตัดขาดจากงานแทบไม่ได้เลย เพราะช่วงเริ่มต้นตัวเราจะเหมือนฟันเฟืองที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าไม่มีเราธุรกิจก็ไม่เดิน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ มันสามารถยืดหยุ่นเวลาเองได้เท่านั้นเอง
    .
    9) ออนไลน์ คือ เลนด่วน แห่งการสร้างตัว
    .
    วันก่อนผมนั่งคุยกับรุ่นพี่คณะเดียวกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยผมเป็นรุ่นน้องเขา 2 รุ่น ระหว่างที่นั่งคุยกันรุ่นพี่คนนี้ก็เอ้ยปากขึ้นมาว่า “เอ็งนี่วิ่งไวเหมือนกันนะ เรียนจบมาแค่ 1 ปีเอง อย่าว่าแต่กับรุ่นเดียวกันเลย เอ็งวิ่งแซงรุ่นพี่หลายคนไปไกลมาก”
    .
    ทันทีที่ผมได้ยินคำนี้จากรุ่นพี่ ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองวิ่งไวกว่าคนทั่วไป มันจึงทำให้ผมนึกถึงคอนเซ็ปของหนังสือ The millionaire fastlane ที่เขียนโดย MJ DeMarco ว่าด้วยการเดินทางสู่ความมั่งคั่งขึ้นอยู่กับ ถนนหรือเส้นทางที่เราเลือกใช้ ว่ามันเป็น เลนช้า หรือ เลนด่วน
    .
    ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสามารถวิ่งได้เร็วกว่าคนอื่นแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ทำให้ผมไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าใครคือการวิ่งอยู่บนถนน “ทางด่วน” ซึ่งทางด่วนที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ในยุคนี้ ก็คือ “ออนไลน์”
    .
    ออนไลน์ คือ เครื่องมือที่ทำให้ผมสามารถทำเงินได้เทียบเท่ากับการทำงานประจำ 1 ปี ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และทำให้ผมมีเงินเก็บเทียบเท่าการออมตลอด 10 ปี ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์แค่ช่วงเริ่มต้นเพียง 1 ปี เท่านั้น ยังไม่นับรวมอัตราเร่งจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
    .
    พูดง่ายๆ คือ ผมตื่นนอนมายังไม่ทันไปล้างหน้า ตอบแชทลูกค้านิดหน่อยระหว่างกำลังนั่งบนชักโครก อยู่ๆ เงินก็เข้าบัญชีแล้ว
    .
    ออนไลน์ ทำให้ผมเรียนรู้ว่า เงินไม่ได้หายาก เพราะเงินมันลอยอยู่ในอากาศ อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นมัน
    .
    10) อย่าโฟกัสที่ “เงิน”
    .
    คุณไม่มีทางได้รับอะไรจากผู้คน ถ้าคุณยังไม่รู้จักเป็นผู้ให้มากพอ หลายคนเข้ามาปรึกษาผมว่าอยากทำเพจอยากสร้างตัวตนให้ดังทำยังไง ผมจึงถามกลับไปว่า อยากดังเพื่ออะไร คำตอบที่มักได้กลับมาคือ สร้างรายได้ เพราะเห็นว่าออนไลน์ได้เงินง่าย
    .
    ผมก็จะตอบกลับไปว่า คุณไม่มีทางทำสำเร็จ ถ้าเอาแต่โฟกัสว่าจะเอาอะไรจากคนอื่น โดยไม่คิดจะให้หรือแก้ปัญหาให้ใคร
    .
    ลองคิดดูว่าเวลามีคนมาขายของ แล้วพยายามจะขายให้ได้เพื่อบีบให้เราจ่ายเงิน เราจะอยากให้เงินเขาไหม คำตอบคือ ไม่ แถมยังอึดอัดอีกต่างหาก
    .
    เหมือนเวลาคุณไปหาหมอ เมื่อหมอรักษาคุณได้ คุณก็ยินดีจ่ายเงินให้หมอ แถมยังกล่าวขอบคุณหมออีกต่างหาก
    .
    ทุกวันนี้เป้าหมายธุรกิจของผมไม่ใช่ยอดขาย แต่คือ ยอดการแก้ปัญหา เวลามีคนเข้ามาปรึกษา ผมก็จะพยายามแก้ปัญหา แนะแนวทาง และช่วยหาทางออกให้เขาก่อน แล้วค่อยบอกว่าหนังสือเล่มไหนที่จะช่วยเขาได้
    .
    คือ ผมขายวิธีแก้ปัญหาโดยมีหนังสือเป็นเครื่องมือ เหมือนคลินิกที่จ่ายยาเป็นหนังสือ คือ โฟกัสที่ปัญหาแล้วหาหนังสือที่แก้ได้มาให้เขา บางปัญหาหนังสือแก้ไม่ได้ผมก็แนะนำให้ใช้อย่างอื่นแทน ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อจากผมอย่างเดียว
    .
    สิ่งที่ได้กลับมา คือ ลูกค้ายินดีจ่ายเงินให้ แถมเต็มใจที่จะซื้อราคาเต็ม โดยที่ผมไม่ต้องลดราคาเลย บางคนถึงขนาดโอนเงินเกินมาด้วยซ้ำ แถมยังขอบคุณผมอีกต่างหาก
    .
    ฉะนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร อย่าโฟกัสว่าจะเอาเงินจากใคร แต่โฟกัสที่การแก้ปัญหาให้ผู้คน ส่วนเงินให้คิดเสียว่ามันคือผลพลอยได้ที่จะตามมาเอง
    .
    11) เป็นปีที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากเท่าที่ควร
    .
    ด้วยความที่ปีนี้ผมโฟกัสเรื่องงาน และ การสร้างเนื้อสร้างตัวมากๆ จึงทำให้ผมมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยมาก กลับไปบ้านเยี่ยมบ้านเกิดน้อยลง คุยกับพ่อแม่พี่น้องและคนรักน้อยลง ส่วนตัวก็รู้ตัวเอง แต่มันก็ยากมากที่จะปลีกตัว แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าปีหน้าจะทำให้ดีกว่านี้
    .
    12) ยิ่งให้ ยิ่งได้
    .
    นี่คือสิ่งที่ผมเชื่อมาตลอดสมัยผมสอนเทควันโด ตอนยังเรียนปี 1 ผมเคยให้เด็กคนหนึ่งเรียนเทควันโดฟรี เพราะพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเรียนได้ ผมจึงให้เขาเรียนฟรีจนกว่าพ่อจะหาย
    .
    หลังจากนั้นไม่เกิน 1 เดือน ก็มีคนมาสมัครเรียนกับผมมากมาย จากมีนักเรียนแค่ 5 คน ตลอด 1 ปี หลายเป็น 30 คน อย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน
    .
    ปีนี้ก็เช่นกัน เมื่อผมทำเงินได้มากขึ้น สิ่งที่ผมทำคือ การบริจาคหนังสือให้กับโรงเรียน สถานพินิจ และ คนด้อยโอกาส เพราะผมมองว่าถ้าบริจาคเงิน มันคือสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป แต่การให้ความรู้คือสิ่งที่เขาจะนำไปใช้สร้างเงินได้
    .
    รวมถึงผู้คนรอบข้างผมก็จะให้ก่อนเสมอ และให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ผมได้กลับมามันมากมายมหาศาลกว่าที่ให้ไปหลายเท่า โดยที่ผมไม่ต้องร้องขอเลย
    .
    13) การวางแผนเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องพร้อมยืดหยุ่นเสมอ
    .
    ปีนี้ทำให้ผมเรียนรู้ว่าต่อให้เราวางแผนไว้ดีแค่ไหน พอถึงเวลาจริงๆ มันไม่ค่อยได้ทำตามแผนหรอก เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนไปตลอด
    .
    การการวางแผนเป็นสิ่งที่ดี แต่เราก็ต้องพร้อมยืดหยุ่นเสมอ
    .
    ผมจึงหันมาให้ความสำคัญกับแผนระยะสั้นมากกว่าระยะยาว แต่ถ้าถามว่าแผนระยะยาวไหม คำตอบคือ “มี” แต่ผมจะโฟกัสแผนระยะสั้นมากกว่า แล้วค่อยเอาผลลัพธ์ที่ได้ไปปรับใช้ในระยะยาวอีกที
    .
    เอาแค่ในปีนี้ แผนที่ผมวางไว้ตอนต้นปี ผมก็ไม่ได้ทำสักอย่าง และสิ่งที่หลายคนเห็นว่าผมทำสำเร็จตอนสิ้นปี ผมก็ไม่ได้วางไว้ช่วงต้นปีด้วยซ้ำ
    .
    ตอนแรกผมตั้งเป้าหมายว่า จะทำงานประจำที่ปัจจุบันจนถึงสิ้นปี 2020 แล้วจะย้ายงานเพื่อไปหาประสบการณ์เพิ่ม เก็บเงินออมโดยการหัก 10 เปอร์เซ็นต์จากเงินเดือน จากนั้นทำงานประจำต่อไปอีกสัก 3 ปี แล้วค่อยออกมาทำธุรกิจ
    .
    แต่ไปๆ มาๆ ช่วงโควิต-19 งานอดิเรกของผมซึ่งเป็นการเขียนบทความในเพจกลับมียอดผู้ติดตามจากหลักพันขึ้นมาเป็นหลักแสนสะอย่างนั้น
    .
    ผมจึงคิดโมเดลธุรกิจคือการขายหนังสือผ่านเพจ เพื่อเป็นรายได้เสริม ตั้งเป้าหมายว่าแค่มีรายได้เสรืมเป็นเงินเก็บสักเดือนละ 3,000 บาท ก็พอแล้ว
    .
    แต่ทำไปทำมารายได้มันกลับแซงงานประจำเฉยเลย จนผมตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอีก 3 ปี จะเริ่มเขียนหนังสือของตัวเอง
    .
    แต่ทำไปทำมาพอรายได้มันดันแซงงานประจำไปจนถึง 6 เท่า แถมผมเริ่มจะมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามามากมาย จากที่คิดว่าอีก 3 ปีจะเขียนหนังสือของตัวเอง กลายเป็นเริ่มเขียนตั้งแต่ 3 เดือนหลังจากนั้นเลย สุดท้ายตอนแรกที่ว่าจะย้ายงานใหม่เพื่อเก็บประสบการณ์ กลับกลายเป็นลาออกมาทำธุรกิจและเขียนหนังสือสะอย่างนั้น
    .
    เชื่อไหมว่า เป้าหมายทางธุรกิจ การทำงาน การเงิน ยอดผู้ติดตาม ที่สำเร็จในปี 2020 ผมเพิ่งจะตั้งเป้ามันเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2020 เท่านั้นเอง
    .
    จะว่าไปชีวิตคนเราก็พลิกผันมากๆ เราไม่รู้เลยว่าเดือนหน้าหรือปีหน้า เราจะเจอกับโอกาส หรือ วิกฤตอะไรบ้าง ผมจึงค่อนข้างจะยืดหยุ่นกับการตั้งเป้าหมายมากๆ เพราะคิดเสมอว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนได้ตลอด ผมจึงเน้นการปรับตัวเร็วมากกว่า
    .
    คือ ไม่ได้ยึดติดว่า อายุ 45, 50, 60 ปี จะต้องเป็นอะไร
    .
    เพราะผมมองว่าการตั้งเป้าหมายใหญ่มันจะไปถึงได้ยาก ที่สำคัญคือ เราจะมองไม่ค่อยเห็นเส้นทางด้วย เหมือนเป็นการโยนหินถามทางเสียมากกว่า แต่ถ้าเราโฟกัสกับการทำเป้าหมายเล็กๆ ให้สำเร็จก่อน มันจะทำให้เราเริ่มมีวิสัยทัศน์และมองเห็นเส้นทางยาวไกลมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อทำป้าหมายเล็กสำเร็จ มันจะก่อร่างสร้างฐานเป็นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์เป้าหมายใหญ่เอง
    .
    14) ความสำเร็จ กับ เป้าหมาย เป็นคนละเรื่องกัน
    .
    ปี 2020 เป็นปีที่ผมทำเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จมากมาย ทั้งเป้าหมายทางการเงิน ธุรกิจ ยอดขาย ผลกำไร และ ยอดผู้ติดตาม
    .
    แต่น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด ผมเริ่มรู้สึกเคว้งคว้างเหมือนช่วงที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจออีกครั้ง ผมเกิดความสงสัยในตัวเองและมีคำถามมากมายในหัวก่อนนอนทุกคืน
    .
    ว่าสรุปแล้ว “ความสำเร็จ” ของผมคืออะไรกันแน่ แล้วผมจะมีเงินล้านไปทำไม ทำไมผมถึงไม่รู้สึกประสบความสำเร็จ ทั้งที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ทั้งหมดได้แล้ว
    .
    จนผมได้มาเจอข้อความหนึ่งที่ Simon Sinek เขียนเอาไว้ในหนังสือ Start with why ว่า “ความสำเร็จ” กับ “การบรรลุเป้าหมาย” เป็นคนละเรื่องกัน แต่บ่อยครั้งคนเรามักคิดว่ามันเหมือนกัน เป้าหมายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ มีความหมายชัดเจน และตรวจวัดได้ ในขณะที่ความสำเร็จเป็นเรื่อง “ความรู้สึก” หรือ “ภาวะ” บางอย่าง
    .
    การบรรลุเป้าหมาย คือ การทำสิ่งที่ต้องการเสร็จลุล่วง ส่วนความรู้สึกว่า “ประสบความสำเร็จ” นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเข้าใจว่าทำไมคุณถึงต้องการสิ่งนั้น
    .
    ตอนแรกที่อ่านบทนี้ผมยอมรับว่าไม่เข้าใจ แต่ก็พยายามอ่านซ้ำวนหลายรอบ ไปพร้อมๆ กับการนึกภาพย้อนกลับไปในอดีตของตัวเอง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นและความรู้สึกตอนผมเริ่มลงมือทำทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเขียนสิ่งที่คิดทั้งหมดลงในกระดาษว่า ทำไมผมถึงต้องการสิ่งนั้น ทำไมผมถึงต้องการเงินล้าน ทำไมผมถึงต้องการเป้าหมายที่ตั้งไว้ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผมเริ่มต้นทำสิ่งเหล่านี้ ผมเขียนลงไปหลายอย่างมาก จนสุดท้ายผมก็ค้นพบว่า
    .
    ความจริงแล้ว ผมอยากมีเงินล้านก็เพราะตอนนั้นผมขัดสนและไส้แห้ง ผมรู้สึกเครียดเมื่อเงินในบัญชีใกล้จะหมดตอนสิ้นเดือน ผมจึงอยากมีเงินเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่รู้สึกกังวลเรื่องพวกนี้อีก
    .
    ผมอยากมีอิสรภาพทางการเงิน เพื่อที่ผมจะได้สามารถกินข้าวกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่บนโต๊ะอาหารในห้องครัว
    .
    ความสำเร็จจึงไม่ได้วัดจากจำนวนเงินที่ทำให้เราสามารถกินข้าวกับไข่ปลาคาเวียร์มื้อละหมื่นบนโต๊ะอาหารสุดหรู แต่การได้กินข้าวต้มกับปลาเค็มบนโต๊ะอาหารกับครอบครัวโดยที่ตัวผมไม่ต้องดิ้นรนทำงานหาเงินอยู่ในกรุงเทพฯ ต่างหาก คือ ความสำเร็จ
    .
    นี่คงเป็นเหตุผลที่ตอนเด็กเราถึงไม่ได้อยากประสบความสำเร็จ เพราะจริงๆ เราประสบความสำเร็จตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว ที่เราดิ้นรนอยากมีเงินล้านทุกวันนี้ก็เพื่อกลับไปสัมผัสความรู้สึกแบบตอนที่เรายังเด็กเท่านั้นเอง สิ่งนี้ต่างหากคือสิ่งที่ผมโหยหาอย่างแท้จริง ซึ่งมันไม่ใช่เงินล้านแต่อย่างใด
    .
    จำนวนยอดขาย ผลกำไร และผู้ติดตามจากเพจสมองไหล ทำให้ผมบรรลุเป้าหมาย แต่ข้อความจากผู้คนที่ส่งเข้ามาว่า “พวกเขาเติบโตในปีนี้ได้ก็เพราะติดตามเพจสมองไหล” ต่างหาก ที่ทำให้ผมรู้สึกประสบความสำเร็จ เพราะนี่คือเหตุผลตั้งแต่วันแรกที่ผมเริ่มต้นทำเพจ
    .
    ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า “เงินไม่สำคัญ” นะครับ เพียงแต่อยากให้เข้าใจว่า เงิน คือ “เป้าหมาย” แต่เหตุผลที่เราอยากหาเงินต่างหากคือ “ความสำเร็จ” และ เราจะสัมผัสมันได้ก็ต่อเมื่อเรารู้เหตุผลที่ทำสิ่งนั้น
    .
    สองสิ่งนี้ต้องไปคู่กัน แต่มันเป็นคนละเรื่องกัน ผมหลงคิดว่า การบรรลุเป้าหมาย คือ ความสำเร็จ มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จเสียที
    .
    เพราะต่อให้ผมบรรลุเป้าหมายจนทำเงินล้านได้ แต่ไม่ได้กลับไปกินข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัว หรือ ต่อให้ผู้ติดตามเพจสมองไหลทะลุ 1 ล้านคน แต่ไม่มีใครเติบโตได้จากสิ่งที่ผมทำ มันก็ไม่สามารถทำให้ผมรู้สึกว่าผมประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าเป้าหมายทุกอย่างจะเสร็จลุล่วงก็ตาม
    .
    นี่คงเป็นเหตุผลที่คนประสบความสำเร็จทางการเงินจนมีทุกอย่างแล้ว มักจะบอกเสมอว่า เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่เห็นลูกหลานอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาก็พอ เพราะเหตุผลที่เขาทำทุกอย่างมาทั้งชีวิตก็เพื่อสิ่งนี้แหละ
    .
    .
    มาถึงตรงนี้ ต้องขอนับถือคนที่อ่านจนจบมากๆ นะครับ ยอมรับว่าบทนี้คือ บทที่ผมเขียนยาวที่สุดตั้งแต่ทำเพจมา และมันก็มากกว่าบทความสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ของปี 2019 ถึง 10 เท่า เพราะมันถูกเขียนยาวถึง 10 หน้า ของกระดาษ ขนาด A4
    .
    อาจเป็นเพราะปีนี้ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เยอะมากด้วย ไม่ได้หวังจะให้ทุกคนที่เห็นอ่านจบ แต่ผมเขียนเอาไว้สะท้อนตัวเอง ว่าปีนี้เราผ่านอะไรมาบ้าง และถ้าจะมีใครสักคนอ่านจนจบผมก็ต้องขอขอบคุณมากๆ และหวังว่าสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในปีนี้ จะทำให้คุณก้าวต่อไปเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในปีหน้า ที่คงหนักหนากว่าปีนี้หลายเท่า...
    .
    สมัยเรียนเราจะเรียนรู้ก่อน แล้วไปลงมือทำ แต่พอชีวิตจริง เราต้องลงมือทำก่อนถึงจะได้รับบทเรียน ซึ่งตลอด 1 ปี มันก็กลั่นออกมาเป็นบทความนี้ และจะทำให้เราเติบโตขึ้นอีกในปีหน้า
    .
    2021 นี้ เราจะเติบโตไปด้วยกัน “สวัสดี ปีใหม่” ครับ

  • ตะกอน 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文

    2020-01-03 16:47:47
    有 2,700 人按讚


    มีคนสอบถามมาว่า ตอนนี้มีปัญหาน้ำทะเลหนุนจนน้ำประปาแถวบ้านมีเกลือแร่เยอะขึ้น ที่บ้านมีคนเป็นโรคความดัน จะใช้เครื่องกรองน้ำ กรองดื่มตามปรกติได้มั้ย

    ต้องดูกลไกเครื่องกรองน้ำทั่วไปก่อน คือเครื่องกรองน้ำที่ใช้ตามบ้านทั่วไป ส่วนมากจะเป็นแบบใช้ไส้กรอง ไอ้แบบมี 3-5 กระบอกนั่นน่ะ โดยจะเป็นไส้กรองที่ดักพวก เศษฝุ่น ตะกอน สารแขวนลอย หินปูน คลอรีน ความกระด้าง บลาๆๆ
    โดยจะใช้พวก ไส้กรอง PP ไส้กรองคาร์บอน ไส้กรองเรซิ่น

    ปัญหาคือ พวกนี้ใช้กับกรณีน้ำประปาตามปรกติได้ แต่ถ้าจะใช้กับน้ำประปาที่ต้นทางมีปัญหาน้ำทะเลหนุน จนเกลือแร่ในน้ำสูงขึ้น น่าจะเอาไม่อยู่ แบบนี้ต้องใช้เครื่องกรองแบบ RO ที่ใช้การทำงานแบบ Reverse osmosis ซึ่งจะให้น้ำผ่านเยื่อกรองที่มีรูพรุนขนาดเล็กแค่ 0.0001 ไมครอน กรองได้ทุกสิ่งทุกอย่างจนถึงไอออนและโมเลกุลของสารละลายในน้ำ

    ปัญหาคือ เครื่องกรองแบบ RO มันราคาสูงฉิบหาย สูงกว่าเครื่องกรองน้ำแบบที่เราใช้กันตามบ้านทั่วไปหลายเท่า ก็เอาเป็นว่าอยู่ที่พ่อแม่พี่น้องตัดสินใจกันตามสถานภาพทางการเงิน ใครพอมีเงินอยู่บ้าง จะลงทุนซื้อเครื่องกรองแบบ RO มาใช้ที่บ้านก็ตามสะดวก แต่ถ้าบ้านไหนเบี้ยน้อยหอยน้อย ช่วงนี้ซื้อน้ำขวดที่กรองผ่านระบบ RO มาบริโภคกันพลางๆ

    (อันนี้สำหรับบ้านที่มีคนเป็นโรคประจำตัว เช่น ไต ความดัน โรคหัวใจ บลาๆ ถ้าไม่มีก็ใช้กันตามปรกติ )

  • ตะกอน 在 Aa_Perawatch Facebook 的最佳貼文

    2019-07-01 07:25:40
    有 406 人按讚


    พ่อ น้องปันปัน กินไก่ปั่นครั้งแรกในชีวิต
    พ่อคับพ่อไม่ เขย่า ขวดก่อนแดกละคับคุณพ่อ ทีไฮโล นี้พ่อเขย่าเก่งเลยน่ะคับ

    ✅ไปแดกสะจะได้หุ่นดีและผอมกันกูไม่อยากพูดอะไรมากเจ็บคอไปลองกันเอง โปรตีนจะทำให้มึงไม่เสียกล้ามเนื้อไปไม่เสียเตาเผาไขมันไปและทำให้สมองสดใสเวลาตื่นด้วยแต่ ปริมาณ โปรตีนต้องพอนะต่อวันไม่พอก็ไม่ได้ผลนะ เราต้องกิน โปรตีน คูณ 1.6 ของนำ้หนักตัวจำไว้ ไปหาไก่ปั่นมากินทำเองก็ได้ไม่จำเป็นต้องซื้อที่ไหนก็ได้ กินซะจะได้หุ่นดี แต่ถ้ามึงทำไม่อร่อย หรือไม่รู้จะซื้อที่ไหน มาแดกไอ้ chicandshake อร่อยดี

    📌สั่งสินค้าได้ที่ line @chicandshake
    หรือ กดข้อความ อัตโนมัติ https://line.me/R/ti/p/%40chicandshake

    iG @chicandshake_official
    FB chic and shake

    https://www.facebook.com/363195664276319/posts/414996432429575?sfns=mo

    คุณ พ่อ น้อง ปันๆ คุณพ่อค่ะนั่นไม่ใช่ ตะกอน ค่ะมันคือเนื้อไก่ค่ะ ต้อง เขย่าก่อนกิน ทุกครั้งนะค่ะ เพื่อให้ เนื้อไก่เข้ากับน้ำ นี้คือคำยืนยันจากอีกท่านว่าเรา ชิคแอนเช็ค อร่อยไม่คาว ค่ะ

    💥
    ผอมสุขภาพดี

    แค่เปิดใจลองดูค่ะ เราผลิตใหม่สดทุกวัน
    เราคืออาหารจริงๆ ที่จะทำให้คุณผอมจริงๆผอมถาวรเราไม่ใช้อาหารเสริม

    📣โปรโมชั่นไก่ปั่นสุดคุ้ม เฉพาะวันนี้ถึงสิ้น พฤศจิกายนเท่านั้น

    💥โปรโมชั่น เมื่อซื้อ 12 ขวดขึ้นไป ส่งฟรี❗️❗️
    👉🏻ส่งฟรี กทม ชั้นใน (ส่งผ่าน Grab)
    👉🏻นอกพื้นที่ ลดค่าส่ง 150 บาท (ส่งผ่าน Grab)
    💥ส่งต่างจังหวัด ได้ส่วนลดค่าส่ง 200 บาท (ส่ง inter express ส่งแบบคุมความเย็น)

    💥โปรโมชั่นเมื่อซื้อ 6 ขวดขึ้นไป
    👉🏼สั่ง 6 ขวดขึ้นไป กทม ชั้นในส่ง ฟรี
    👉🏼สั่ง6ขวดขึ้นไปกทมชั้นนอกและต่างจังหวัดลดค่าส่ง 50 บาททั่วประเทศ

    👉🏼สั่ง 30 ขวดขึ้นไป ส่งฟรีทั้วประเทศ
    👉🏼สั่ง50 ลด 5 % ส่งฟรี
    👉🏼สั่ง100 ลด 10% ส่งฟรี
    👉🏼สั้ง200 ลดให้ 15% ส่งฟรี

    -\-\-\-\

    ✔️ราคาแค่ขวดละ 69 บาท

    .
    📌สั่งสอบถามได้ทาง inbox เพจนี้
    📌สั่งสินค้าได้ที่ line @chicandshake
    หรือ กดข้อความ อัตโนมัติ https://line.me/R/ti/p/%40chicandshake

    💥ไก่ปั่นทางเลือกใหม่ โปรตีนจากธรรมชาติ แท้ๆ กินง่าย อร่อย รับรองหุ่นสวยกันทันสิ้นปีแน่นอน

    ✅สินค้าเราไม่คาว ถ้าคาวเรายินดีคืนเงิน

    ✅เราทำสดใหม่ทุกวัน ไม่ทำสต๊อกค้างไว้แน่นอน

    ✅เก็บได้ขั้นต่ำ 5 ถึง7วันในตู้เย็น

    ✅ไก่ปั่นเราคุณภาพดี อร่อยเราใช้ไก่ไร้ฮอร์โมนของบีทาโกและน้ำแร่ในการทำสะอาดปลอดภัย

    ✅ในกรณีเจ็บกล้ามเนื้อ หรือตื่นนอนมาไม่สดชื่นถ้าได้โปรตีนถึงทุกอย่างยิ่งหายไวหมด ร่ายกายเราต้องการโปรตีนที่ดีจากธรรมชาติจริงๆ

    📌วิธีดื่มให้ไดัผล เห็นผลภายใน 1 เดือน

    ✔️มื้อเช้าทานไก่ปั่น 1 ขวดแทนอาหารเช้า
    ✔️มื้อกลางวันทานไก่ปั่น 1 ขวดก่อนอาหาร และทานอาหารให้อิ่มทานอะไรก็ได้ให้เต็มที่ไม่ต้องกลัวอ้วน
    ✔️มื้อเย็นทานแต่ไก่ปั่นอย่างเดียว 1 ขวด ถ้ากลางดึกหิวอีก ไก่ปั่นตามเลยอีก 1 ขวด

    ❌ถ้าอยากเห็นผลไว ควรงดของหวานของมันของทอด และออกกำลังกายร่วมครับ แบบนี้หุ่นดีทันสิ้นปีนี้แน่นนอน ปีหมูเราจะไม่เป็นหมูกัน

    📌สั่งสินค้าได้ที่ line @chicandshake
    หรือ กดข้อความ อัตโนมัติ https://line.me/R/ti/p/%40chicandshake

  • ตะกอน 在 Illslick thelegandary Youtube 的精選貼文

    2014-08-27 00:32:11

    ## เนื้อเพลง ##
    All My Shit From Cali , Cali , Cali
    All My Kush From Cali, Cali , Cali
    Mr. Legenday , Dary ....

    ชีวิตก็เหมือนละคร และก้อนตะกอนที่ฝังในความจำ
    เป็นดั่งภาพสะท้อนซะยิ่งกว่ากลอนที่เค้านิ­ยามกัน
    ข่มตานอน ใครๆก็สอนให้ฉันพยามทำ
    ตามหลอกหลอน ถึงแม้จะเมาไปจนข้ามวัน

    แผลเป็นที่อยุ่ตรงนั้น ...ถึงแม้จะเจ็บซ้ำๆ
    แต่เมื่อเวลามันเลยผ่าน มันก็ด้านชาไปเอง
    แต่หัวใจไม่เป็นอย่างนั้น ถึงแม่้จะเจ็บกี่ครั้ง
    และต่อให้นานเท่าไหร่ มันก็ยังเจ็บเหมือนเดิม

    Girl , I Don't Wanna Talk About All The Shit That I Been Through ....
    Smoking On That Loud And Sippin' Lean Too
    ตื่นนอนมาทุกเช้า Tell Me What Chu Gon' Do
    We Still Tippin' ...24/7 Tha Grinder , I'm Just Livin' .......Legend

    ชีวิตก็เหมือนละคร และก้อนตะกอนที่ฝังในความจำ
    เป็นดั่งภาพสะท้อนซะยิ่งกว่ากลอนที่เค้านิ­ยามกัน
    ข่มตานอน ใครๆก็สอนให้ฉันพยามทำ
    ตามหลอกหลอน ถึงแม้จะเมาไปจนข้ามวัน

    ยังจำได้ดีทุกวินาที เคยให้เธอหมดเลยเท่าที่มี
    ถึงแม้ต้องกลายเป็นเถ้าธุลี Just Let Me Be Your Memory...Girl (X2)

    ไม่ว่าที่มือหรือว่าที่แขน เวลามันเกิดเป็นแผล
    ไม่เคยจะสนเพราะรู้ดีเดี๋ยวมันก็เจือจางลง
    แต่หัวใจตัวเองแท้ๆ ถ้าลองได้เคยเป็นแผล
    ไม่ว่ากี่ครั้งก็แล้วแต่ มันก็ยังคงเรื้อรัง ...

    Yeahhh , All My Shit From Cali
    And My Medical From Cali
    Mr. Legendary , Yellin' Fuck You Pay Me
    Baby Do You Remember Me ...
    Screamin' To The Haters , I Ain't Scared Of Shit

    ชีวิตก็เหมือนละคร และก้อนตะกอนที่ฝังในความจำ
    เป็นดั่งภาพสะท้อนซะยิ่งกว่ากลอนที่เค้านิ­ยามกัน
    ข่มตานอนใครๆก็สอน ให้ฉันพยามทำ
    ตามหลอกหลอน ถึงแม้จะเมาไปจนข้ามวัน

    ยังจำได้ดีทุกวินาที เคยให้เธอหมดเลยเท่าที่มี
    ถึงแม้ต้องกลายเป็นเถ้าธุลี Just Let Me Be Your Memory...Girl (X2)

    I Was Born To Do This Shit , Yeah I'm Illslick
    Your Boy Friend Can't Be Me , Fosho ...
    I'm Just Tryin' To Stay Rich
    Sippin' Lean And Smoking Weed
    ได้โปรดเถอะอย่าอิจฉาผมเพียงแค่ใช้ชีวิต

    Sippin' On That Ciroc ไม่ได้นอน ไม่ได้นอน
    ตื่นขึ้นมาก็ถอน แล้วก็ถอน แล้วก็ถอน
    I Don't Know What's Going On , Going On , Going On

    ชีวิตก็เหมือนละคร และก้อนตะกอนที่ฝังในความจำ
    เป็นดั่งภาพสะท้อนซะยิ่งกว่ากลอนที่เค้านิ­ยามกัน
    ข่มตานอน ใครๆก็สอนให้ฉันพยามทำ
    ตามหลอกหลอน ถึงแม้จะเมาไปจนข้ามวัน

    ยังจำได้ดีทุกวินาที เคยให้เธอหมดเลยเท่าที่มี
    ถึงแม้ต้องกลายเป็นเถ้าธุลี Just Let Me Be Your Memory...Girl (X2)

    Stay High ...

  • ตะกอน 在 ท่องเที่ยว ผจญภัย Youtube 的最讚貼文

    2011-02-23 19:06:12

    สระมรกต UnseenThailand กระบี่ by : http://www.oceansmile.com/ สระน้ำที่มีสีเขียวมรกตสมชื่อนี้ เหตุก็เป็นเพราะแบคทีเรีย และสาหร่ายในน้ำซึ่งจะทำให้น้ำมีสีต่างๆแตกต่างกัน อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียส และนอกจากนั้นสายน้ำแร่ใต้ดินที่มีอยู่บริเวณนี้ยังทำให้สารแขวนลอยในน้ำตก ตะกอน จึงทำให้น้ำมีความใสมากอีกด้วย ถ้าเราเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นต้นน้ำที่ไหลเป็นสายลงมารวมกันจนกลายเป็น สระมรกตแห่งนี้

你可能也想看看

搜尋相關網站