[爆卦]ดีเบต แปลว่า是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇ดีเบต แปลว่า鄉民發文沒有被收入到精華區:在ดีเบต แปลว่า這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ดีเบต產品中有81篇Facebook貼文,粉絲數超過6,462的網紅Joe Chonlawit : Eat • Talk • Travel,也在其Facebook貼文中提到, #InHerEyes | ดีเบต มวยปล้ำ มหรสพ ฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรม กรรมการผู้ไม่รู้ทัน ความมันส์ของคนดู ที่มาของ... #เอาอีแม่ไปตายบ้าน!! 🤣😂😅 ดูย้อนหลังด่วน! >> htt...

 同時也有19部Youtube影片,追蹤數超過69萬的網紅Wongnai,也在其Youtube影片中提到,เมนูเนื้อย่าง 100 บาท ปะทะ เมนูเนื้อย่าง 10,000 บาท | Game of Pan : Ep. 01 รายการประลองการทำอาหารที่ไกลเกินกว่าจินตนาการของมนุษย์ พร้อมด้วยการปรากฏตั...

ดีเบต 在 Worajan Sangngern Instagram 的最佳貼文

2020-05-02 11:36:10

เพิ่งออกอากาศไปเมื่อกี้เลยย มีใครได้ดูมั่ง เราไปออกรายการ "นโยบาย by ประชาชน" ทางช่อง Thai PBS มาล่ะ เสนอไอเดียเกี่ยวกับ "นโยบายจิตสำนึกสาธารณะ" ดูย้อ...

  • ดีเบต 在 Joe Chonlawit : Eat • Talk • Travel Facebook 的精選貼文

    2020-11-05 21:58:18
    有 64 人按讚

    #InHerEyes | ดีเบต มวยปล้ำ มหรสพ ฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรม กรรมการผู้ไม่รู้ทัน ความมันส์ของคนดู ที่มาของ... #เอาอีแม่ไปตายบ้าน!! 🤣😂😅

    ดูย้อนหลังด่วน! >> https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/videos/400377274449666/

  • ดีเบต 在 Roundfinger Facebook 的最佳解答

    2020-01-02 10:52:21
    有 6,014 人按讚


    รีวิวชีวิตในชาตินี้
    -\-\-
    มา! จัดก็จัด

    (เขียนไว้ในหน้าส่วนตัว
    ลองเอามาแบ่งกันอ่านเล่นๆ
    เผื่อจะรู้จักกันมากขึ้นครับ 😊)

    ชีวิตเป็นเกมต่อจุด จุดหนึ่งลากไปอีกจุดหนึ่งโดยแท้ ตอนเราเขยิบไปที่จุด A เรามองไม่ออกเลยว่ามันจะพาไป B แต่แล้วมันก็ลากเราไปต่อจนได้

    1
    มัธยมกำลังเคว้ง กระทั่งเจออาจารย์ฝึกสอนวิชาศิลปะที่มาจากคณะถาปัด ทำให้รู้ว่าอยากเรียนถาปัด

    2
    เข้าถาปัด จุฬาฯ เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ของชีวิต เป็นแหล่งกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฟอร์มความคิดแบบวิทย์+ศิลป์ และแวดล้อมไปด้วยเพื่อนๆ ที่บ้าบอพอกันทำให้เรากล้าบ้า

    3
    เรียนออกแบบสารพัดสิ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าชอบอะไร มาปิ๊งวิชาโฆษณาของอาจารย์ประเทือง ตัวเดียวอยู่ จากนั้นก็มุ่งไปทางโฆษณา

    4
    ได้ฝึกงานที่ลีโอ เบอร์เนทท์ จึงรู้ว่า "เฮ้ย โลกการทำงานมันสนุกขนาดนี้เลยเหรอวะ" กูจะทำงานที่นี่แหละ

    5
    เบอร์เนทท์เป็นอีกจุดเปลี่ยนชีวิต พี่ก๊อปกับพี่เหมียวแนะนำให้ไปลงเวิร์กช็อปโฆษณาต่างๆ เพื่อทำพอร์ตและเรียนเพิ่มด้วยการส่งงานประกวด

    ...

    6
    ได้เรียน SC Matchbox กับกบ เจอเพื่อนใหม่ในวงการโฆษณาหลายคน จากนั้นก็ติด BAD workshop สองอย่างนี้เปลี่ยนชีวิต ทำให้คิดงานเป็น และได้ทำงานโฆษณา

    7
    เข้าทำงานเบอร์เนทท์สมใจ ไม่ใช่เพราะฝีมือ แต่เพราะลูกตื้อและความตั้งใจจริงจนพี่บอย CD ใจอ่อน รับเงินเดือนน้อยกว่าอีกสองที่ที่ไปสมัครแล้วเขารับแล้ว แต่อยากทำที่นี่

    8
    3 ปีที่เบอร์เนทท์ฟูมฟักความรู้ทั้งเรื่องแบรนด์และครีเอทีฟเอามาใช้ได้ทั้งชีวิต นี่ไม่ใช่ออฟฟิศแต่คือโรงเรียนและครอบครัว ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนจนวันนี้ (พี่ปาน พี่บอย พี่หนึ่ง พี่ยุทธ พี่ก๊อป พี่เหมียว พี่ต้น พี่เชียง พี่หน่อย พี่ณี อ้อ ลืมพี่บาไปไม่ได้)

    9
    เข้า JWT อีกสามปี บรรยากาศต่างจากเบอร์เนทท์มาก ผ่อนคลาย สบาย กลับเร็ว ทำให้มีเวลาเขียนหนังสือตอนกลางคืน ต้องขอบคุณพี่โหน่ง พี่ปิงปอง พี่โจ้ที่ให้พื้นที่เขียนใน a day รวมทั้งให้เริ่มต้นพ็อกเก็ตบุ๊กกับ a book

    10
    พี่เหมียวชวนไปเที่ยวอินเดีย เป็นการเปิดโลกครั้งแรก เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบ จากน้ันก็ตั้งใจเลยว่า-\-\กูจะท่องโลก ไปดูว่าโลกนี้มันมีอะไรอีก

    ...

    11
    จังหวะย้ายงาน ไปโตเกียวกับน้ำ แล้วก็พบว่าการเดินทางมันคือโลกอีกใบ ชีวิตอีกชีวิตนอกไปจากชีวิตที่เราพบเห็นและใช้อยู่ทั่วไป ไปนอนข้างถนน 5-6 วัน อันนี้ก็เปลี่ยนชีวิต เพิ่มความกล้าเผชิญโลกอีกหลายดีกรี

    12
    เขียนหนังสือ 4-5 เล่มที่ JWT ตั้งแต่โตเกียวไม่มีขา กัมพูชาพริบตาเดียว เนปาลประมาณสะดือ อิฐ สมองไหวในฮ่องกง เป็นช่วงทำงานที่ดีที่สุดในชีวิต กับทีมที่เข้าขาน่ารัก หัวหน้าที่น่ารัก ไม่เครียด แต่รางวัลเพียบนะค้าบบบ

    13
    เอลวิสย้ายไป TBWA\\Shanghai แล้วโทรมาชวนให้ไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน ตอนนั้นนึกถึงตอนไปนอนข้างถนน "กลัวไรวะ" ก็ตัดสินใจไปอยู่เมืองนอกครั้งแรกในชีวิต 1 ปี 2 เดือนกับการทำแคมเปญยักษ์ระดับโลก Adidas เป็นสปอนเซอร์โอลิมปิกที่ปักกิ่ง อันนี้ก็เปลี่ยนชีวิต งบหนังโฆษณาหนึ่งเรื่องที่นั่นทำหนังไทยได้ร้อยเรื่อง คิดว่าเป็นจุดสูงสุดของการเป็นครีเอทีฟแล้ว เลิกได้ 555

    14
    สิ่งที่ตอกย้ำว่าเลิกได้จริงๆ คืองานที่ทำให้ Gold Cannes Lion บรรลุความฝันของอาชีพโฆษณา

    15
    ประสบการณ์ปากกัดตีนถีบอันโดดเดี่ยวที่เซี่ยงไฮ้ก็เปลี่ยนชีวิต จากนั้นไม่ค่อยกลัวในการทดลองใดๆ อยากก็ลอง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ช่างมัน เริ่มใหม่กับสิ่งใหม่

    ...

    16
    ก่อนกลับมาเริ่มงานที่ไทยก็ไปลอนดอน 7 เดือน อยากรู้ว่าถ้าอยู่เมืองนอกยาวๆ ในประเทศที่เราอยากอยู่จะเป็นไง สรุปว่าจน ต้องทำงานสารพัด และหน้าหนาวลอนดอนหดหู่มาก อยากกลับบ้าน (สุดท้ายเขียนลอนดอนไดอารี่ออกมาหนึ่งเล่ม แพลนไว้หกเล่ม 555)

    17
    เริ่มงานเป็นผู้กำกับโฆษณา ทั้งที่ถ้าไปเป็นครีเอทีฟคงรุ่งเรืองและเงินเดือนอู้ฟู่ แต่อยากลองกำกับ และพี่ยุทธบอกว่าต้องเริ่มให้เร็วเพราะมันใช้เวลานาน (ตอนนั้นอายุ 30) ปรากฏว่านั่งตบยุงอยู่สองเดือน จากนั้นก็เริ่มมีงาน พี่ยุทธ พี่พจน์ พี่โบช่วยกันหางานมาให้ทำ กำกับหนังโฆษณาตั้งแต่ไทย กัมพูชา ฮ่องกง บินเป็นว่าเล่น คอนคอลภาษาอังกฤษสารพัดสำเนียง สำเนียงชัดๆ ก็ฟังแทบไม่ออกแล้วเวลาไม่เห็นหน้า เป็นความหฤหรรษ์อีกช่วงหนึ่งของชีวิต ชอบนะ ชอบงานกำกับ ชอบบรรยากาศกองถ่าย มีความสุขเสมอที่ได้ทำ

    18
    ระหว่างกำกับโฆษณา มีโทรศัพท์มาจากทีมพื้นที่ชีวิตชวนไปเป็นพิธีกรตอนพิเศษ ลองสิครับ รออะไร ยากชิบเป๋ง โคตรเขินกล้อง เดินตัวแข็งเหมือนหุ่น ข้อดีคือรายการมันช่างเหมือนการเขียนหนังสือ คือเดินทาง บันทึก แล้วเล่าสรุป ชอบกระบวนการแต่ไม่ถนัดการอยู่หน้ากล้อง ปรากฏว่าพี่ๆ โปรดิวเซอร์เขาคิดว่าพอไหว (อาจเพราะหาใครไม่ได้แล้ว) เลยชวนร่วมหอลงโรงกันยาวๆ ตอนนั้นถามคำถามเดียวว่า "ได้ไปต่างประเทศไหมครับ" พอพี่แป๊ะพี่นางพยักหน้า เราก็พยักหน้าตามทันที ค่าตัวไม่เกี่ยงเลย

    19
    ทำพื้นที่ฯ ไปได้สักพักเริ่มออกเดินทางเยอะ ตารางกำกับรวน บวกกับเริ่มอื่มตัวกับงานโฆษณา ทำมา 9 ปีแล้ว ออกท่องโลกเก็บประสบการณ์ดีกว่า วัตถุดิบในงานเขียนก็ค่อยๆ ร่อยหรอลงทุกที ถ้าไม่มีวัตถุดิบใหม่งานก็จะจืดๆ จางๆ ลงไปทุกวัน

    20
    หยุดงานกำกับมาเป็นพิธีกรเต็มตัว แต่ก็เขียนหนังสือมากมายทั้งคอลัมน์และเล่ม ช่วงฟูมฟายน่าจะเขียนเกือบยี่สิบชิ้นต่อเดือน ก่อนจะตระหนักว่ามีแต่ปริมาณ ไม่ค่อยมีคุณภาพ แล้วก็ค่อยๆ ขออนุญาตหยุดเขียนทีละฉบับ กระทั่งไม่เหลืองานคอลัมน์ และตั้งใจจะเขียนหนังสือเล่มให้ดีๆ

    ...

    21
    งานโฆษณารายได้แน่นอนและมากกว่างานพิธีกรเยอะ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำนู่นนี่สารพัดในตอนต้น เพราะเสียดายรายได้ที่ทิ้งมา แต่งานพิธีกรก็พาไปสู่อีกโลก พี่เอ๋ยพี่นกพี่นูญชวนทำ 'เป็น อยู่ คือ' ได้คุยกับคนเก่งๆ และไปดูบ้านเขาเยอะมาก เป็นช่วงเวลาได้ช้อปปิ้งไอเดียมาทำบ้านตัวเอง

    22
    ระหว่างทำ 'เป็น อยู่ คือ' ก็ค่อยๆ ทำบ้านไปด้วย ได้ไอเดียสารพัดมาจากแขกรับเชิญ ช่วงนั้นอาจารย์ปกป้องก็ชวนไปทำรายการ 'สยามวาระ' ที่มีพิธีกรคือพี่โญ อาจารย์ปกป้อง ปาล์ม และเรา นี่ก็อีกจุดเปลี่ยน ได้สัมภาษณ์นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านในหัวข้อที่ยากขึ้น สิ่งที่เคยได้อ่านตุนไว้ก็ถูกควักออกมาใช้เท่าที่มี ที่ยังไม่มีก็หมั่นเติมเข้าไป

    23
    จาก 'สยามวาระ' ก็เข้าสู่ยุค 'วัฒนธรรมชุบแป้งทอด' ทั้งหมดนี้คือไอเดียของ ปป ที่อยากทำรายการสารคดีดีๆ ทำให้ได้ร่วมทีมกับพี่หนุ่ม-โตมร แชมป์-ทีปกร จุง ฝ้าย นับเป็นอีกดรีมทีม ก่อนขยับขยายมาเป็น 101 เป็นอีกช่วงเวลาที่ทำงานสนุกมาก ทุกคนเก่งและถ่อมตัว ไปทำงานเหมือนได้ไปเรียน บ่มเพาะความคิดความรู้ไม่น้อยเลยที่สำนัก 101 ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามความปรารถนาของแต่ละคนตามวัยและเวลา

    24
    ยังคงเดินทางกับพื้นที่ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทีมเองก็สูงวัยขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่สนใจก็ลงลึกไปเรื่อยๆ การทำรายการพื้นที่ชีวิตคือการเดินทางทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ได้พบคุรุและผู้นำทางจิตวิญญาณมากมายจากการงานนี้ องค์ทะไลลามะ หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ท่านโกเอ็นก้า อาจารย์ประมวล หลวงพี่ไพศาล ฯลฯ การได้สัมผัสบุคคลเหล่านี้ตัวเป็นๆ สร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจสะสมไว้ในตัวอย่างยากอธิบาย

    25
    เข้าสู่วิกฤตวัยกลางคนตอนบ้านเสร็จ ผสมวิกฤตการเมือง และดราม่าการเมืองที่ถล่มจากข้อเขียนบางชิ้น ทำให้รู้สึกเฉื่อยชาไม่อยากทำอะไร หมดแรงบันดาลใจในชีวิต ตอนนี้เองที่เพื่อนชวนไปปั่นจักรยาน 200 กิโล และเริ่มสวมรองเท้าออกวิ่ง

    ...

    26
    เดินเขา EBC กลับมาพร้อมหัวใจดวงใหม่ เบาสบาย ปล่อยวาง เปี่ยมพลังชีวิต เหมือนทิ้งหลายสิ่งที่ทุกข์ใจไว้บนยอดเขา 5,000 กว่าเมตร เขียน "หิมาลัยไม่มีจริง" หนังสือที่ได้ทบทวนสิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้มาตลอดเส้นทาง เริ่มต้นเฟสใหม่ของชีวิต

    27
    พี่เอมมี่และพี่ณุชวนไปทำ "ดีเบต" ที่ช่องสาม ตกปากรับคำเพราะคิดว่าเป็นภูเขาใหญ่ที่ท้าทาย งานไม่ถนัด เวทีใหญ่ อิมแพคเยอะ สรุปว่าไม่รอด ทำได้ไม่ดี ไม่ใช่ธรรมชาติของเรา พี่ๆ ให้โอกาส และเชื่อว่าถ้าพยายามน่าจะทำได้ แต่คำตอบในใจตอนนั้นคือไม่อยากพยายาม เพราะคิดว่าไม่เหมาะกับเราจริงๆ สุดท้ายคุยกันว่าขอเลิก เข้าใจกันดีทุกฝ่าย เกรงใจพี่ๆ ไม่น้อย

    28
    การเลิกทำดีเบตเป็นมิติใหม่ของชีวิต คือไม่ต้องแบกตัวตนเอาไว้ ไม่ต้องพยายามในสิ่งที่ไม่อยากพยายาม แพ้บ้างก็ดี ตัวเบาเป็นดับเบิ้ลเข้าไปอีกหลังลงจาก EBC ก็คือการลงจากตัวตนของตัวเองที่ชอบคิดว่าทำได้ทุกอย่าง พอก้าวลงมา จากนี้มีแต่ความเบาสบาย ภาวะวิกฤตวัยกลางคน ซึมๆ เศร้าๆ จางหายไปสิ้น

    29
    คราวนี้จะทำแต่สิ่งที่สนใจและมีความสุข เริ่มวิ่งได้หนึ่งปีก็ไปจบมาราธอนที่โอซาก้าเกือบหกชั่วโมง จากนั้นสามเดือนมาจบ ATM 4:17 ชม. มีความสุขกับวินัยและการขยับกาย เขียน Homo Finishers หนังสือที่หลายคนบอกว่าอ่านแล้วได้พลังเหมือนโตเกียวไม่มีขา ส่วนตัวก็รู้สึกแบบนั้น เล่มนี้เหมือนการเกิดใหม่อีกหน

    30
    จัดสมดุลการใช้สมองกับร่างกายและหัวใจใหม่ ขยับร่างกายมากขึ้น ไม่เอาแต่นั่งคิดเหมือนเดิมแล้ว และพยายามละเอียดอ่อนกับความรู้สึกมากขึ้น ทุกอย่างเชื่อมถึงกัน ถ้าเอาแต่คิดจะป่วย

    ...

    31
    นั่งลงเรียนรู้จากผู้อาวุโส เข้าสู่วัยที่อยากฟังมากขึ้น เขียน "สิ่งสำคัญของชีวิต" และ "สิ่งสำคัญของหัวใจ" เป็นสองเล่มที่ทำแล้วได้หลักในการดำเนินชีวิตของตัวเอง เห็น "ทาง" ที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าชัดเจน แค่ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ

    32
    รวมตัวกับแท็บและต้องเปิดร้านหนังสือออนไลน์เล็กๆ ที่อยากสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ชื่อ THE CURATOR ซึ่งยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ น่าติดตามว่า THE CURATOR จะต่อจุดไปที่ใดอีก

    33
    มองย้อนกลับไปก็เห็น "จุด" มากมายเต็มไปหมด ถ้าไม่มีจุดหนึ่งก็จะไม่มีจุดถัดไป ถ้าไม่เจอวิชาโฆษณาจะไม่ได้ไปเบอร์เนทท์ ถ้าไม่ไปเบอร์เนทท์จะไม่เจอพี่เหมียว ถ้าไม่เจอพี่เหมียวจะไม่ได้ไปอินเดีย ถ้าไม่ได้ไปอินเดียจะไม่ได้ไปนอนข้างถนนที่โตเกียว ถ้าไม่ได้ไปนอนข้างถนนที่โตเกียวจะไม่ได้เขียนหนังสือและอาจไม่กล้าไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

    34
    จุดเล็กๆ น้อยๆ พาเรามาถึงวันนี้ และก็คงต่อจุดต่อไปเรื่อยๆ ภาพตัวเองที่เคยคิดว่าเป็นแบบนั้น สุดท้ายมันก็ถูกลากต่อไปจนกลายไปเป็นอีกภาพที่ไม่เคยจินตนาการไว้เลย ชีวิตเป็นเรื่องสนุกโดยแท้

    35
    ภาพซ้ายคือไอ้เอ๋หัวฟูตอนอยู่ถาปัด ภาพขวาคือพิธีกรช่องสามที่ทำรายการให้คนมาเถียงกันแต่ดันพยายามทำให้เขาคืนดีกัน 555 ไอ้เอ๋มันก็เดินทางมาไกล ถูกทางบ้าง หลงทางบ้าง ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง

    ...
    36
    แต่เมื่อมองชีวิตตัวเองยาวนานพอ เราจะพบว่าทุกจุดมันเชื่อมโยงถึงกันหมด และสุดท้ายนอกจากมันลากจุดเพื่อวาดภาพตัวเราขึ้นมา มันยังลากจุดเพื่อมอบคำตอบบางอย่างให้เราด้วย คำตอบที่เปลี่ยนไปตามประสบการณ์และวันเวลา

    37
    เราเลือกจุดได้ แต่บางช่วงเราก็ทำได้แค่ไหลไปตามจุด พอมีเวลามานั่งมองย้อนกลับไปก็อยากขอบคุณทุกจุดในชีวิต และขอบคุณทุกคนที่อยู่ร่วมกัน ณ จุดเหล่านั้น

    38
    การงานก็แค่มิติหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ยังมีเส้นที่ลากขนานและพัวพันไปกับเส้นการงานอีกหลายเส้นที่ขยุกขยุยจนกลายมาเป็นตัวเราในวันนี้

    39
    ชีวิตไม่ได้อธิบายได้ด้วยเส้นเวลาเพียงเส้นเดียว

    40
    มาถึงตรงนี้ก็คิดถึงคำของโซเรน เคียเคอการ์ดอีกครั้ง "Life can only be understood backwards; but it must be lived forwards." / "ชีวิตสามารถเข้าใจได้จากการมองย้อนกลับไปเท่านั้น; แต่เราต้องใช้ชีวิตไปข้างหน้า"

    ความเข้าใจทั้งหมดที่ผ่านมาอาจไม่ได้ทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังต้องเผชิญ

    ก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

    ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันก็เป็น "จุด" ที่รอการลากต่อไปเป็นภาพใหญ่ที่เราจะเข้าใจมากขึ้นในวันหนึ่ง

    #รีวิวชีวิตครึ่งชาติ

  • ดีเบต 在 Roundfinger Facebook 的最佳解答

    2020-01-02 10:52:21
    有 6,003 人按讚

    รีวิวชีวิตในชาตินี้
    ---
    มา! จัดก็จัด

    (เขียนไว้ในหน้าส่วนตัว
    ลองเอามาแบ่งกันอ่านเล่นๆ
    เผื่อจะรู้จักกันมากขึ้นครับ 😊)

    ชีวิตเป็นเกมต่อจุด จุดหนึ่งลากไปอีกจุดหนึ่งโดยแท้ ตอนเราเขยิบไปที่จุด A เรามองไม่ออกเลยว่ามันจะพาไป B แต่แล้วมันก็ลากเราไปต่อจนได้

    1
    มัธยมกำลังเคว้ง กระทั่งเจออาจารย์ฝึกสอนวิชาศิลปะที่มาจากคณะถาปัด ทำให้รู้ว่าอยากเรียนถาปัด

    2
    เข้าถาปัด จุฬาฯ เป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ของชีวิต เป็นแหล่งกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฟอร์มความคิดแบบวิทย์+ศิลป์ และแวดล้อมไปด้วยเพื่อนๆ ที่บ้าบอพอกันทำให้เรากล้าบ้า

    3
    เรียนออกแบบสารพัดสิ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าชอบอะไร มาปิ๊งวิชาโฆษณาของอาจารย์ประเทือง ตัวเดียวอยู่ จากนั้นก็มุ่งไปทางโฆษณา

    4
    ได้ฝึกงานที่ลีโอ เบอร์เนทท์ จึงรู้ว่า "เฮ้ย โลกการทำงานมันสนุกขนาดนี้เลยเหรอวะ" กูจะทำงานที่นี่แหละ

    5
    เบอร์เนทท์เป็นอีกจุดเปลี่ยนชีวิต พี่ก๊อปกับพี่เหมียวแนะนำให้ไปลงเวิร์กช็อปโฆษณาต่างๆ เพื่อทำพอร์ตและเรียนเพิ่มด้วยการส่งงานประกวด

    ...

    6
    ได้เรียน SC Matchbox กับกบ เจอเพื่อนใหม่ในวงการโฆษณาหลายคน จากนั้นก็ติด BAD workshop สองอย่างนี้เปลี่ยนชีวิต ทำให้คิดงานเป็น และได้ทำงานโฆษณา

    7
    เข้าทำงานเบอร์เนทท์สมใจ ไม่ใช่เพราะฝีมือ แต่เพราะลูกตื้อและความตั้งใจจริงจนพี่บอย CD ใจอ่อน รับเงินเดือนน้อยกว่าอีกสองที่ที่ไปสมัครแล้วเขารับแล้ว แต่อยากทำที่นี่

    8
    3 ปีที่เบอร์เนทท์ฟูมฟักความรู้ทั้งเรื่องแบรนด์และครีเอทีฟเอามาใช้ได้ทั้งชีวิต นี่ไม่ใช่ออฟฟิศแต่คือโรงเรียนและครอบครัว ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนจนวันนี้ (พี่ปาน พี่บอย พี่หนึ่ง พี่ยุทธ พี่ก๊อป พี่เหมียว พี่ต้น พี่เชียง พี่หน่อย พี่ณี อ้อ ลืมพี่บาไปไม่ได้)

    9
    เข้า JWT อีกสามปี บรรยากาศต่างจากเบอร์เนทท์มาก ผ่อนคลาย สบาย กลับเร็ว ทำให้มีเวลาเขียนหนังสือตอนกลางคืน ต้องขอบคุณพี่โหน่ง พี่ปิงปอง พี่โจ้ที่ให้พื้นที่เขียนใน a day รวมทั้งให้เริ่มต้นพ็อกเก็ตบุ๊กกับ a book

    10
    พี่เหมียวชวนไปเที่ยวอินเดีย เป็นการเปิดโลกครั้งแรก เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบ จากน้ันก็ตั้งใจเลยว่า--กูจะท่องโลก ไปดูว่าโลกนี้มันมีอะไรอีก

    ...

    11
    จังหวะย้ายงาน ไปโตเกียวกับน้ำ แล้วก็พบว่าการเดินทางมันคือโลกอีกใบ ชีวิตอีกชีวิตนอกไปจากชีวิตที่เราพบเห็นและใช้อยู่ทั่วไป ไปนอนข้างถนน 5-6 วัน อันนี้ก็เปลี่ยนชีวิต เพิ่มความกล้าเผชิญโลกอีกหลายดีกรี

    12
    เขียนหนังสือ 4-5 เล่มที่ JWT ตั้งแต่โตเกียวไม่มีขา กัมพูชาพริบตาเดียว เนปาลประมาณสะดือ อิฐ สมองไหวในฮ่องกง เป็นช่วงทำงานที่ดีที่สุดในชีวิต กับทีมที่เข้าขาน่ารัก หัวหน้าที่น่ารัก ไม่เครียด แต่รางวัลเพียบนะค้าบบบ

    13
    เอลวิสย้ายไป TBWA\Shanghai แล้วโทรมาชวนให้ไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน ตอนนั้นนึกถึงตอนไปนอนข้างถนน "กลัวไรวะ" ก็ตัดสินใจไปอยู่เมืองนอกครั้งแรกในชีวิต 1 ปี 2 เดือนกับการทำแคมเปญยักษ์ระดับโลก Adidas เป็นสปอนเซอร์โอลิมปิกที่ปักกิ่ง อันนี้ก็เปลี่ยนชีวิต งบหนังโฆษณาหนึ่งเรื่องที่นั่นทำหนังไทยได้ร้อยเรื่อง คิดว่าเป็นจุดสูงสุดของการเป็นครีเอทีฟแล้ว เลิกได้ 555

    14
    สิ่งที่ตอกย้ำว่าเลิกได้จริงๆ คืองานที่ทำให้ Gold Cannes Lion บรรลุความฝันของอาชีพโฆษณา

    15
    ประสบการณ์ปากกัดตีนถีบอันโดดเดี่ยวที่เซี่ยงไฮ้ก็เปลี่ยนชีวิต จากนั้นไม่ค่อยกลัวในการทดลองใดๆ อยากก็ลอง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ช่างมัน เริ่มใหม่กับสิ่งใหม่

    ...

    16
    ก่อนกลับมาเริ่มงานที่ไทยก็ไปลอนดอน 7 เดือน อยากรู้ว่าถ้าอยู่เมืองนอกยาวๆ ในประเทศที่เราอยากอยู่จะเป็นไง สรุปว่าจน ต้องทำงานสารพัด และหน้าหนาวลอนดอนหดหู่มาก อยากกลับบ้าน (สุดท้ายเขียนลอนดอนไดอารี่ออกมาหนึ่งเล่ม แพลนไว้หกเล่ม 555)

    17
    เริ่มงานเป็นผู้กำกับโฆษณา ทั้งที่ถ้าไปเป็นครีเอทีฟคงรุ่งเรืองและเงินเดือนอู้ฟู่ แต่อยากลองกำกับ และพี่ยุทธบอกว่าต้องเริ่มให้เร็วเพราะมันใช้เวลานาน (ตอนนั้นอายุ 30) ปรากฏว่านั่งตบยุงอยู่สองเดือน จากนั้นก็เริ่มมีงาน พี่ยุทธ พี่พจน์ พี่โบช่วยกันหางานมาให้ทำ กำกับหนังโฆษณาตั้งแต่ไทย กัมพูชา ฮ่องกง บินเป็นว่าเล่น คอนคอลภาษาอังกฤษสารพัดสำเนียง สำเนียงชัดๆ ก็ฟังแทบไม่ออกแล้วเวลาไม่เห็นหน้า เป็นความหฤหรรษ์อีกช่วงหนึ่งของชีวิต ชอบนะ ชอบงานกำกับ ชอบบรรยากาศกองถ่าย มีความสุขเสมอที่ได้ทำ

    18
    ระหว่างกำกับโฆษณา มีโทรศัพท์มาจากทีมพื้นที่ชีวิตชวนไปเป็นพิธีกรตอนพิเศษ ลองสิครับ รออะไร ยากชิบเป๋ง โคตรเขินกล้อง เดินตัวแข็งเหมือนหุ่น ข้อดีคือรายการมันช่างเหมือนการเขียนหนังสือ คือเดินทาง บันทึก แล้วเล่าสรุป ชอบกระบวนการแต่ไม่ถนัดการอยู่หน้ากล้อง ปรากฏว่าพี่ๆ โปรดิวเซอร์เขาคิดว่าพอไหว (อาจเพราะหาใครไม่ได้แล้ว) เลยชวนร่วมหอลงโรงกันยาวๆ ตอนนั้นถามคำถามเดียวว่า "ได้ไปต่างประเทศไหมครับ" พอพี่แป๊ะพี่นางพยักหน้า เราก็พยักหน้าตามทันที ค่าตัวไม่เกี่ยงเลย

    19
    ทำพื้นที่ฯ ไปได้สักพักเริ่มออกเดินทางเยอะ ตารางกำกับรวน บวกกับเริ่มอื่มตัวกับงานโฆษณา ทำมา 9 ปีแล้ว ออกท่องโลกเก็บประสบการณ์ดีกว่า วัตถุดิบในงานเขียนก็ค่อยๆ ร่อยหรอลงทุกที ถ้าไม่มีวัตถุดิบใหม่งานก็จะจืดๆ จางๆ ลงไปทุกวัน

    20
    หยุดงานกำกับมาเป็นพิธีกรเต็มตัว แต่ก็เขียนหนังสือมากมายทั้งคอลัมน์และเล่ม ช่วงฟูมฟายน่าจะเขียนเกือบยี่สิบชิ้นต่อเดือน ก่อนจะตระหนักว่ามีแต่ปริมาณ ไม่ค่อยมีคุณภาพ แล้วก็ค่อยๆ ขออนุญาตหยุดเขียนทีละฉบับ กระทั่งไม่เหลืองานคอลัมน์ และตั้งใจจะเขียนหนังสือเล่มให้ดีๆ

    ...

    21
    งานโฆษณารายได้แน่นอนและมากกว่างานพิธีกรเยอะ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำนู่นนี่สารพัดในตอนต้น เพราะเสียดายรายได้ที่ทิ้งมา แต่งานพิธีกรก็พาไปสู่อีกโลก พี่เอ๋ยพี่นกพี่นูญชวนทำ 'เป็น อยู่ คือ' ได้คุยกับคนเก่งๆ และไปดูบ้านเขาเยอะมาก เป็นช่วงเวลาได้ช้อปปิ้งไอเดียมาทำบ้านตัวเอง

    22
    ระหว่างทำ 'เป็น อยู่ คือ' ก็ค่อยๆ ทำบ้านไปด้วย ได้ไอเดียสารพัดมาจากแขกรับเชิญ ช่วงนั้นอาจารย์ปกป้องก็ชวนไปทำรายการ 'สยามวาระ' ที่มีพิธีกรคือพี่โญ อาจารย์ปกป้อง ปาล์ม และเรา นี่ก็อีกจุดเปลี่ยน ได้สัมภาษณ์นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านในหัวข้อที่ยากขึ้น สิ่งที่เคยได้อ่านตุนไว้ก็ถูกควักออกมาใช้เท่าที่มี ที่ยังไม่มีก็หมั่นเติมเข้าไป

    23
    จาก 'สยามวาระ' ก็เข้าสู่ยุค 'วัฒนธรรมชุบแป้งทอด' ทั้งหมดนี้คือไอเดียของ ปป ที่อยากทำรายการสารคดีดีๆ ทำให้ได้ร่วมทีมกับพี่หนุ่ม-โตมร แชมป์-ทีปกร จุง ฝ้าย นับเป็นอีกดรีมทีม ก่อนขยับขยายมาเป็น 101 เป็นอีกช่วงเวลาที่ทำงานสนุกมาก ทุกคนเก่งและถ่อมตัว ไปทำงานเหมือนได้ไปเรียน บ่มเพาะความคิดความรู้ไม่น้อยเลยที่สำนัก 101 ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามความปรารถนาของแต่ละคนตามวัยและเวลา

    24
    ยังคงเดินทางกับพื้นที่ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทีมเองก็สูงวัยขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่สนใจก็ลงลึกไปเรื่อยๆ การทำรายการพื้นที่ชีวิตคือการเดินทางทางจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ได้พบคุรุและผู้นำทางจิตวิญญาณมากมายจากการงานนี้ องค์ทะไลลามะ หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ท่านโกเอ็นก้า อาจารย์ประมวล หลวงพี่ไพศาล ฯลฯ การได้สัมผัสบุคคลเหล่านี้ตัวเป็นๆ สร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจสะสมไว้ในตัวอย่างยากอธิบาย

    25
    เข้าสู่วิกฤตวัยกลางคนตอนบ้านเสร็จ ผสมวิกฤตการเมือง และดราม่าการเมืองที่ถล่มจากข้อเขียนบางชิ้น ทำให้รู้สึกเฉื่อยชาไม่อยากทำอะไร หมดแรงบันดาลใจในชีวิต ตอนนี้เองที่เพื่อนชวนไปปั่นจักรยาน 200 กิโล และเริ่มสวมรองเท้าออกวิ่ง

    ...

    26
    เดินเขา EBC กลับมาพร้อมหัวใจดวงใหม่ เบาสบาย ปล่อยวาง เปี่ยมพลังชีวิต เหมือนทิ้งหลายสิ่งที่ทุกข์ใจไว้บนยอดเขา 5,000 กว่าเมตร เขียน "หิมาลัยไม่มีจริง" หนังสือที่ได้ทบทวนสิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้มาตลอดเส้นทาง เริ่มต้นเฟสใหม่ของชีวิต

    27
    พี่เอมมี่และพี่ณุชวนไปทำ "ดีเบต" ที่ช่องสาม ตกปากรับคำเพราะคิดว่าเป็นภูเขาใหญ่ที่ท้าทาย งานไม่ถนัด เวทีใหญ่ อิมแพคเยอะ สรุปว่าไม่รอด ทำได้ไม่ดี ไม่ใช่ธรรมชาติของเรา พี่ๆ ให้โอกาส และเชื่อว่าถ้าพยายามน่าจะทำได้ แต่คำตอบในใจตอนนั้นคือไม่อยากพยายาม เพราะคิดว่าไม่เหมาะกับเราจริงๆ สุดท้ายคุยกันว่าขอเลิก เข้าใจกันดีทุกฝ่าย เกรงใจพี่ๆ ไม่น้อย

    28
    การเลิกทำดีเบตเป็นมิติใหม่ของชีวิต คือไม่ต้องแบกตัวตนเอาไว้ ไม่ต้องพยายามในสิ่งที่ไม่อยากพยายาม แพ้บ้างก็ดี ตัวเบาเป็นดับเบิ้ลเข้าไปอีกหลังลงจาก EBC ก็คือการลงจากตัวตนของตัวเองที่ชอบคิดว่าทำได้ทุกอย่าง พอก้าวลงมา จากนี้มีแต่ความเบาสบาย ภาวะวิกฤตวัยกลางคน ซึมๆ เศร้าๆ จางหายไปสิ้น

    29
    คราวนี้จะทำแต่สิ่งที่สนใจและมีความสุข เริ่มวิ่งได้หนึ่งปีก็ไปจบมาราธอนที่โอซาก้าเกือบหกชั่วโมง จากนั้นสามเดือนมาจบ ATM 4:17 ชม. มีความสุขกับวินัยและการขยับกาย เขียน Homo Finishers หนังสือที่หลายคนบอกว่าอ่านแล้วได้พลังเหมือนโตเกียวไม่มีขา ส่วนตัวก็รู้สึกแบบนั้น เล่มนี้เหมือนการเกิดใหม่อีกหน

    30
    จัดสมดุลการใช้สมองกับร่างกายและหัวใจใหม่ ขยับร่างกายมากขึ้น ไม่เอาแต่นั่งคิดเหมือนเดิมแล้ว และพยายามละเอียดอ่อนกับความรู้สึกมากขึ้น ทุกอย่างเชื่อมถึงกัน ถ้าเอาแต่คิดจะป่วย

    ...

    31
    นั่งลงเรียนรู้จากผู้อาวุโส เข้าสู่วัยที่อยากฟังมากขึ้น เขียน "สิ่งสำคัญของชีวิต" และ "สิ่งสำคัญของหัวใจ" เป็นสองเล่มที่ทำแล้วได้หลักในการดำเนินชีวิตของตัวเอง เห็น "ทาง" ที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าชัดเจน แค่ต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ

    32
    รวมตัวกับแท็บและต้องเปิดร้านหนังสือออนไลน์เล็กๆ ที่อยากสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ชื่อ THE CURATOR ซึ่งยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ น่าติดตามว่า THE CURATOR จะต่อจุดไปที่ใดอีก

    33
    มองย้อนกลับไปก็เห็น "จุด" มากมายเต็มไปหมด ถ้าไม่มีจุดหนึ่งก็จะไม่มีจุดถัดไป ถ้าไม่เจอวิชาโฆษณาจะไม่ได้ไปเบอร์เนทท์ ถ้าไม่ไปเบอร์เนทท์จะไม่เจอพี่เหมียว ถ้าไม่เจอพี่เหมียวจะไม่ได้ไปอินเดีย ถ้าไม่ได้ไปอินเดียจะไม่ได้ไปนอนข้างถนนที่โตเกียว ถ้าไม่ได้ไปนอนข้างถนนที่โตเกียวจะไม่ได้เขียนหนังสือและอาจไม่กล้าไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

    34
    จุดเล็กๆ น้อยๆ พาเรามาถึงวันนี้ และก็คงต่อจุดต่อไปเรื่อยๆ ภาพตัวเองที่เคยคิดว่าเป็นแบบนั้น สุดท้ายมันก็ถูกลากต่อไปจนกลายไปเป็นอีกภาพที่ไม่เคยจินตนาการไว้เลย ชีวิตเป็นเรื่องสนุกโดยแท้

    35
    ภาพซ้ายคือไอ้เอ๋หัวฟูตอนอยู่ถาปัด ภาพขวาคือพิธีกรช่องสามที่ทำรายการให้คนมาเถียงกันแต่ดันพยายามทำให้เขาคืนดีกัน 555 ไอ้เอ๋มันก็เดินทางมาไกล ถูกทางบ้าง หลงทางบ้าง ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง

    ...
    36
    แต่เมื่อมองชีวิตตัวเองยาวนานพอ เราจะพบว่าทุกจุดมันเชื่อมโยงถึงกันหมด และสุดท้ายนอกจากมันลากจุดเพื่อวาดภาพตัวเราขึ้นมา มันยังลากจุดเพื่อมอบคำตอบบางอย่างให้เราด้วย คำตอบที่เปลี่ยนไปตามประสบการณ์และวันเวลา

    37
    เราเลือกจุดได้ แต่บางช่วงเราก็ทำได้แค่ไหลไปตามจุด พอมีเวลามานั่งมองย้อนกลับไปก็อยากขอบคุณทุกจุดในชีวิต และขอบคุณทุกคนที่อยู่ร่วมกัน ณ จุดเหล่านั้น

    38
    การงานก็แค่มิติหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ยังมีเส้นที่ลากขนานและพัวพันไปกับเส้นการงานอีกหลายเส้นที่ขยุกขยุยจนกลายมาเป็นตัวเราในวันนี้

    39
    ชีวิตไม่ได้อธิบายได้ด้วยเส้นเวลาเพียงเส้นเดียว

    40
    มาถึงตรงนี้ก็คิดถึงคำของโซเรน เคียเคอการ์ดอีกครั้ง "Life can only be understood backwards; but it must be lived forwards." / "ชีวิตสามารถเข้าใจได้จากการมองย้อนกลับไปเท่านั้น; แต่เราต้องใช้ชีวิตไปข้างหน้า"

    ความเข้าใจทั้งหมดที่ผ่านมาอาจไม่ได้ทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังต้องเผชิญ

    ก็ใช้ชีวิตกันต่อไป

    ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันก็เป็น "จุด" ที่รอการลากต่อไปเป็นภาพใหญ่ที่เราจะเข้าใจมากขึ้นในวันหนึ่ง

    #รีวิวชีวิตครึ่งชาติ

  • ดีเบต 在 Wongnai Youtube 的最佳解答

    2019-03-23 20:07:38

    เมนูเนื้อย่าง 100 บาท ปะทะ เมนูเนื้อย่าง 10,000 บาท | Game of Pan : Ep. 01

    รายการประลองการทำอาหารที่ไกลเกินกว่าจินตนาการของมนุษย์ พร้อมด้วยการปรากฏตัวของกรรมการหน้าใหม่ที่อาจเป็นเทปสุดท้ายของเขา...
    พบสุดยอดนักปรุงอาหารเชฟแอ๊ด และเชฟผู้ท้าชิงชายโฉดมาเปิดโหมดทวงศักดิ์ศรีกู้สีหน้าให้กับน้องสาว ผู้ซึ่งพ่ายแพ้ไปในตอนที่ผ่านมากับเมนูส้มตำทะเล และสำหรับศึกครั้งนี้ก็ท้าทายไม่ใช่เล่น เพราะเดิมพันด้วยเมนูเนื้อย่าง 100 บาท VS เนื้อย่าง 10,000 บาท ใครกันที่จะเชือดหรือชวดเงินรางวัล ตามมาดูกันเลยใน “Game of Pan”

  • ดีเบต 在 SpaceX Youtube 的最佳解答

    2019-03-21 19:00:03

    สวัสดีค่ะทุกท่าน
    พบกับรายการ New You Talk
    รายการแลกเปลี่ยนความคิด มุมมองชีวิต
    ที่จะสร้างทัศนคติที่ดี และ Lifestyle การใช้ชีวิตให้กับคุณ

    หลังจาก EP.1 ได้ฟังบทสัมภาษณ์สุด Exclusive
    ของคุณเดียร์ เกศปรียา แก้วแสนเมือง
    ที่จะทำให้คุณรู้ลึกรู้จริงในมุมมองของ
    "ดอกไม้เหล็กในสนามการเมือง เลือกตั้ง 2562"
    กันไปแล้วเมื่อวาน

    สำหรับ EP.2 เราจะมาคุยกับ
    คุณวัน ภาดาท์ วรกานนท์
    ในมุมมอง Working Woman
    ที่มี Passion ด้านสิ่งแวดล้อม
    ที่พร้อมจะมาแลกเปลี่ยนทัศนคติที่ดี
    และแนวความคิดในการดำเนินชีวิต
    รวมถึงการจัดการ Work Life Balance
    ที่สาวๆชาว Working Woman ด้วยกันไม่ควรพลาด
    ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวต่างๆจะเป็นอย่างไร
    ไปชมกันเลยค่ะ...
    .
    .
    #รักจากใจ
    อ.เอ๋ อภัยลักษณ์
    .
    FB : YouTube : IG : ApailuckTan
    LINE : @apailucktan

    #ApailuckTan
    #ศีลเสมอแล้วเจอกัน
    #NewYouTalk

  • ดีเบต 在 ผ่าม CHANEL Youtube 的最讚貼文

    2019-03-21 16:46:59

    24 มี.ค.เลือกคนดีเข้าสภากันนะครับ

你可能也想看看

搜尋相關網站