雖然這篇ดินเหนียว ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區:在ดินเหนียว ภาษาอังกฤษ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章
在 ดินเหนียว產品中有9篇Facebook貼文,粉絲數超過2,703的網紅Samapol Piyapongsiri,也在其Facebook貼文中提到, ดินเหนียว แฮร่ ดินสอพอง แฮร่ ดินร่วน แฮร่ ดินเนอร์ แฮร่ ถูกแล้ว ทานข้าวกันครับ ให้ทายว่ามื้อนี้จะกินอะไรกัน ตอบด่วน ตอบถูกมีหัวใจให้ ❤️❤️❤️❤️❤️ #เกา...
同時也有25部Youtube影片,追蹤數超過299萬的網紅ใยไหมชวนเล่น [Zanee Tube],也在其Youtube影片中提到,#ใยไหม #ใยไหมชวนเล่น 【Contact สนใจติดต่อโฆษณา รีวิวสินค้าหรือสปอนเซอร์】 ►E-Mail : [email protected] Mr. BAT ...
「ดินเหนียว」的推薦目錄
- 關於ดินเหนียว 在 Toni Rakkaen Instagram 的精選貼文
- 關於ดินเหนียว 在 Toni Rakkaen Instagram 的最讚貼文
- 關於ดินเหนียว 在 kaisamapol Instagram 的最佳貼文
- 關於ดินเหนียว 在 Samapol Piyapongsiri Facebook 的最讚貼文
- 關於ดินเหนียว 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於ดินเหนียว 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於ดินเหนียว 在 ใยไหมชวนเล่น [Zanee Tube] Youtube 的最佳解答
- 關於ดินเหนียว 在 Pai91.5 Resort Youtube 的最佳貼文
- 關於ดินเหนียว 在 Atompakon Youtube 的最佳解答
ดินเหนียว 在 Toni Rakkaen Instagram 的精選貼文
2021-07-09 17:55:51
เก็บเกี่ยวครั้งแรก 💚 #รากแก้ว • ผักจำพวกผักสลัดหลากหลายสายพันธุ์ ใช้เวลาในการเติบโตไม่เกิน 45 วัน ก็ทานได้แล้ว เราเลยทดลองปลูกผักพวกนี้ก่อน • ปลูกผ...
ดินเหนียว 在 kaisamapol Instagram 的最佳貼文
2021-04-23 15:03:05
ดินเหนียว แฮร่ ดินสอพอง แฮร่ ดินร่วน แฮร่ ดินเนอร์ แฮร่ ถูกแล้ว ทานข้าวกันครับ ให้ทายว่ามื้อนี้จะกินอะไรกัน ตอบด่วน ตอบถูกมีหัวใจให้ ❤️❤️❤️❤️❤️ #เกาะ...
-
ดินเหนียว 在 ใยไหมชวนเล่น [Zanee Tube] Youtube 的最佳解答
2021-01-31 17:30:02#ใยไหม #ใยไหมชวนเล่น
【Contact สนใจติดต่อโฆษณา รีวิวสินค้าหรือสปอนเซอร์】
►E-Mail : [email protected]
Mr. BAT Fun Family (คุณแบท) -
ดินเหนียว 在 Atompakon Youtube 的最佳解答
2020-11-19 17:13:28คลิปนี้พาไปลองปั้นแจกันเซรามิกกันดู จากแจกันออกมาเหมือนไหปลาร้าเลยเว้ย!
ขอบคุณ Poteri Clay workshop ที่ให้เราไปถ่ายทำนะครับ
ติดต่องาน
Contact@AtomnThings.com
ติดตามเราได้ทางนี้นะ
สินค้าของจุ๊กจิ๊ก - http://atomthings.co
Facebook - https://goo.gl/skK0O5
Twitter - https://goo.gl/wSMc3X
IG - Atompakon - https://goo.gl/cq6zvp
#หวัดดีCraft
ดินเหนียว 在 Samapol Piyapongsiri Facebook 的最讚貼文
ดินเหนียว แฮร่ ดินสอพอง แฮร่ ดินร่วน แฮร่ ดินเนอร์ แฮร่ ถูกแล้ว ทานข้าวกันครับ ให้ทายว่ามื้อนี้จะกินอะไรกัน ตอบด่วน ตอบถูกมีหัวใจให้ ❤️❤️❤️❤️❤️ #เกาะพะงัน @teesutee81 @tontommy @hellopk
ดินเหนียว 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
1
จิตวิทยาแบบมาสโลว์เชื่อว่า พ้นไปจากความต้องการพื้นฐานแล้ว จุดมุ่งหมายสูงสุดของคนเราคือการบรรลุศักยภาพสูงสุดของตัวเอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็จะมีความหมายและคุณค่าต่อผู้อื่นอยู่ในสิ่งนั้นอยู่ด้วย
2
การงานจึงเป็นหนทางไปสู่การค้นพบ 'ศักยภาพสูงสุด' ที่ว่า คำถามคือ--เราต้องทำงานแบบไหน อย่างไร คำว่า 'แบบไหน' ไม่ได้หมายถึงงานประเภทไหน หากหมายถึงเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรขณะทำงานจึงได้บรรลุสิ่งสำคัญในชีวิต
3
มาสโลว์เตือนว่า การเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตนเองนั้นเป็นงานหนัก องค์ประกอบที่ทำให้เกิดขึ้นได้ไม่เพียงมาจากแรงปรารถนาภายใน หากยังต้องอาศัยองค์ประกอบจากภายนอก (สภาพแวดล้อม) ด้วย ที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน ผู้คนใกล้ชิดล้วนมีส่วนสำคัญ
4
ทุกคนล้วนทำงานของตนเอง แต่ทำไมบางคนเท่านั้นที่รู้สึกดีกับตนเองและงานที่ทำ นั่นคืองานของ 'วีรบุรุษหรือวีรสตรี' (หากใช้สำนวน Hero's Journey ของโจเซฟ แคมพ์เบลล์) เคล็ดลับก็คือ เขาไม่ได้ทำงานเพียงเพื่อ 'อยู่รอด' หากมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่องานที่เขาเห็นว่าสำคัญ มีคุณค่า และคู่ควรต่อการลงแรงถวายหัว การงานจึงเป็นการเดินอยู่บนเส้นทางของวีรบุรุษ ผู้ก้าวไปข้างหน้าหา 'ขุมทรัพย์' ของชีวิต แม้เจออุปสรรคหรือความลำบากก็ตอบตัวเองได้ว่ากำลังทำในสิ่งที่คุ้มเหนื่อยคุ้มเสี่ยง
คำถามคือ งานของเราทำให้รู้สึกเช่นนั้นหรือไม่
5
"คนที่มีความสุขคือคนที่กำลังทำงานได้ดีกับบางสิ่งที่เขาพิจารณาว่ามีความสำคัญ" นี่คือข้อสังเกตของมาสโลว์ สมการง่ายๆ แต่ใช้เวลายาวนานก็คือ ปักหมุดกับสิ่งที่เราเห็นคุณค่า และทุ่มเทสรรพกำลังลงไปในงานนั้น
6
"ทางเดียวที่จะได้เป็นศิลปินก็คือทำงาน" จิตรกรคนหนึ่งตอบกับมาสโลว์ "สร้างงานกองโตๆ ทำบางอย่างกับไม้หรือหิน หรือไม่ก็ดินเหนียวของคุณ และถ้ามันไม่เอาไหนก็โยนมันทิ้งไป ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย" ผมฟังคำแนะนำนี้แล้วย้อนมองตัวเองว่า 'ไม้ หิน ดินเหนียว' ของตัวเองคือสิ่งใด เราหยิบมันมา 'ทำอะไรสักอย่าง' มากน้อยแค่ไหน
7
เราเกิดมาต่างกัน แวดล้อมด้วย 'วัตถุดิบ' ที่แตกต่างกัน เราจึงมีศักยภาพภายในตัวเองที่แตกต่างกัน วิธีการคือจะหยิบฉวยวัตถุดิบรอบตัวมาผสมเข้าไปในตัวเองแล้วกลั่นออกมาเป็นการงานได้ดีเพียงใด ที่ว่าดีนั้นไม่ได้เปรียบเทียบกับใคร หากคือการลงมือทำแล้วเติบโตขึ้นภายในตนเอง
8
คัมภีร์เต๋าเล่มหนึ่งกล่าวว่า 'เมื่อค้นพบตนเอง โลกจะค้นพบเธอ' เมื่อใช้เวลาทำงานกับวัตถุดิบของเราผ่านเวลาช่วงหนึ่ง ตัวตนและผลงานของเราจะค่อยๆ ชัดเจนและเปล่งประกาย ถึงเวลานั้นการงานที่ทำจะเริ่มเป็นประโยชน์กับผู้คน เราจะรู้สึกดีที่ตัวเองก็เป็นประโยชน์ การงานที่ทำเป็นที่ต้องการ สิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับความเคารพนับถือตัวเอง--ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกว่างเปล่า ล่องลอย ไร้ความหมาย
9
การทำงานแบบขอไปที ทำให้จบๆ ไปย่อมแตกต่างจากสิ่งที่กล่าวมา ความโดดเดี่ยว ว่างเปล่า บางคราวรู้สึกไร้ค่าอาจเป็นเพราะเรามิได้ใช้ศักยภาพของตนทุ่มเทเพื่อ 'สิ่งสำคัญ' ที่เราให้คุณค่า งานง่ายที่เราชำนาญอาจไม่ตอบโจทย์ด้านจิตใจในส่วนลึก ขณะที่งานยากและเหนื่อยหนักกลับเป็นความท้าทายที่สร้างพลังในหัวใจ การทบทวนว่างานที่ทำอยู่มีส่วนในการเดินทางไปสู่การบรรลุศักยภาพสูงสุดหรือไม่จึงเป็นสิ่งที่มิควรละเลย
ซึ่งเป็นไปได้ว่า คำตอบอาจไม่ใช่เปลี่ยนงาน หากคือเปลี่ยนวิธีคิดและความทุ่มเทที่มอบให้การงานเดิมที่ทำเพื่อเติบโตและภาคภูมิใจกับตนเอง มิใช่แค่ทำไปวันๆ ซึ่งกร่อนความภูมิใจในระยะยาว
10
เช่นนี้แล้วการงานจึงเป็นการบำบัดจิตสำหรับตัวเองและผู้อื่นไปพร้อมกัน เพราะงานได้หลอมรวมกับตัวตนเป็นเนื้อเดียว มิได้รู้สึกแปลกแยกและตั้งคำถามกับงานตลอดเวลาว่า "ฉันทำอะไรอยู่" หรือ "ฉันจะทำสิ่งนี้ไปทำไม"
คำถามใหญ่ในเรื่องนี้คือ "สิ่งที่ทำอยู่มีคุณค่าต่อตัวเองหรือผู้อื่นอย่างไรบ้าง" และ "เราทุ่มเทเต็มศักยภาพแล้วใช่ไหม" คำถามแรกทำให้ตอบตัวเองได้ในวันเหนื่อยล้า คำถามถัดมามีเหตุผลคือ มีเพียงความทุ่มเทสูงสุดเท่านั้นที่จะทำให้เราได้บรรลุศักยภาพสูงสุดของตัวเอง
11
ตามปิรามิดของมาสโลว์, มากไปกว่าความอยู่รอดทางกายคือความมั่นคงปลอดภัย สูงไปกว่านั้นคือการยอมรับจากสังคม สูงขึ้นไปอีกคือการนับถือตัวเอง และสูงที่สุดคือบรรลุศักยภาพสูงสุดของตน ซึ่งคือการหลอมรวมประโยชน์ตน+ประโยชน์ท่าน และทำงานเหมือนต้นไม้ที่การดำรงอยู่ หายใจ ปรุงอาหาร และมอบอากาศบริสุทธิ์ให้ชีวิตอื่นกลายเป็นสิ่งเดียวกัน
คือคำตอบที่ตอบตัวเองได้ว่า ฉันเกิดมาเพื่อทำหน้าที่นี้
12
เหมือนเสือที่ได้รู้แล้วว่า ที่แท้ฉันเกิดมาเป็นเสือ หากให้ไปปีนต้นไม้เป็นลิง ว่ายน้ำเป็นปลาก็คงทรมาน และไม่ได้ใช้ศักยภาพที่ติดตัวมาอย่างเต็มที่ ชวนให้หงุดหงิด ใจฝ่อ นั่งรอเวลาให้จบวัน สำคัญคือขาดความนับถือตัวเองซึ่งโยงไปสู่ความรู้สึกแย่และแผลภายในใจ
แต่เสือจะค้นพบว่าตนเป็นเสือได้ก็ต้องเรียนรู้ผ่านการเวลา ฝึกฝนกับฝูง ออกล่า พลาดพลั้ง ถูกกระทิงขวิด ยีราฟเตะ ทนหิวในวันที่ล่าไม่ได้ และเติบโตผ่านทั้งหมดนั้น กระทั่งบ่มเพาะจนเข้มข้นอยู่ในตนเองว่า ที่แท้ธรรมชาติของฉันคือสิ่งนี้ จากนั้นก็ทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด
ความสามารถเป็นเนื้อเดียวกับความปรารถนา
13
เมื่อรู้แล้ว ตื่นเช้ามาก็เพียงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ การทำงานจึงไม่ต่างจากการหายใจ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไม่ต่างจากการกินข้าวที่ทำให้เติบโตภายนอก แต่การงานทำให้เติบโตภายใน สำคัญไม่แพ้กัน
เมื่อบรรลุศักยภาพของตนเอง เราแทบไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบด้วยซ้ำว่า เราเป็นเสือที่ล่าได้ดีกว่าเสือตัวอื่นหรือเปล่า เพียงทำในสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด นั่นก็เพียงพอแล้ว เพราะรู้ดีว่ากำลังทำอะไร พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น
เช่นนี้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องวิ่งไล่ล่าผลลัพธ์เกินจำเป็นเพียงเพื่อพิสูจน์ตนเองว่าเก่ง หรือเฝ้ารอเสียงปรบมือแล้วจึงภาคภูมิใจ เพราะเพียงได้ลงมือทำงานเราก็รู้สึกนับถือตนเองได้แล้ว - มิต้องรอการคอนเฟิร์มจากคนอื่น
14
ทั้งหมดที่ว่ามาเป็นสิ่งที่พูดง่าย เข้าใจง่าย แต่ปฏิบัติไม่ง่าย เราอาจต้องใช้เวลาเกินครึ่งในชีวิตในการไต่ปิรามิดขึ้นไปทีละขั้น แต่หากเป็นการเดินทางสู่ยอดปิรามิดที่ไม่ผิดยอด ไม่ถูกหลอกด้วยมายาอื่น ความยากในการเดินขึ้นไปก็คือความหมายในการมีชีวิตอยู่ไปพร้อมๆ กัน
15
การงานที่จะทำให้เราเดินอยู่บนเส้นทางนี้ย่อมมีคุณลักษณะของงานที่เราเห็นว่ามีคุณค่าและความหมายคุ้มต่อการใช้เวลามากมายในชีวิตไปกับมัน เมื่อตระหนักถึงคุณค่านั้นเราจะยินดีเหนื่อย และเมื่อยินดีเหนื่อยเราจะทำได้ดี
มาสโลว์ยืนยันชัดเจนว่า "สิ่งที่ไม่มีค่าควรกับการทำ ก็ไม่มีค่าคู่ควรที่จะทำได้ดี"
เป็นไปได้ไหมว่า ที่เรายังติดๆ ขัดๆ อยู่บนเส้นทางและรู้สึกเฉื่อยเนือยอาจเป็นเพราะกำลังทำในสิ่งที่ไม่เห็นคุณค่าหรือยังไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ เมื่อสิ่งนั้นไม่มีค่าควรแก่การทุ่มแรงทำ มันจึงไม่ค่าคู่ควรที่เราจะทำได้ดี
"สิ่งที่ทำอยู่มีคุณค่าต่อตัวเองหรือผู้อื่นอย่างไรบ้าง"
"เราทุ่มเทเต็มศักยภาพแล้วใช่ไหม"
นี่คือสองคำถามสำคัญ ระหว่างเดินไต่ปิรามิดเพื่อบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง
#นิ้วกลม
#Roundfinger
---
ติดตามนิ้วกลมทางยูทูบได้ที่ (สับตะไคร้ไว้นะคร้าบ)
https://www.youtube.com/channel/UCGfGBwS9FVPxksUMMKomzlg
สนใจหนังสือนิ้วกลม เลือกชมที่เพจ KOOB ได้เลยครับ 🙂
ดินเหนียว 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
"ไม่ควรใช้น้ำมะนาว แก้พิษผึ้งต่อยครับ"
มีการแชร์ข้อความกัน ทำนองว่า "ไม่ต้องกลัวผึ้งแมลงสัตว์กัดต่อยอีกแล้ว เวลาโดนแมลงที่มีพิษต่อย ให้ใช้มะนาวสดๆ บีบใส่ตรงแผลที่ถูกแมลงต่อย จะหายปวดใน 10 นาที พิษแมลงจะโดนน้ำมะนาว เปลี่ยนจากกรด กลายเป็นด่างในทันที ช่วยบอกต่อเพื่อนเป็นวิทยาทาน" !?
เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงนะครับ !! ความเชื่อเรื่องใช้น้ำมะนาวในการรักษาอาการปวดเมื่อถูกผึ้งต่อย มีการแชร์กันอยู่เรื่อยๆ จากทั้งเว็บไทยและเว็บประเทศ แต่จริงๆ แล้ว พิษของผึ้ง ซึ่งมีฤทธิ์เป็น "กรด” จากโปรตีนเปปไทด์ที่ชื่อว่า เมลิตติน (melittin) นั้น ถ้าเอาน้ำมะนาวมาใส่ลงไป น้ำมะนาวเองก็มีค่าพีเอชที่เป็นกรด ไม่ใช่ด่าง จึงไม่สามารถจะไปสะเทิ้นพิษของผึ้งให้กลายเป็นกลาง อย่างที่อ้างกันมั่วๆ ได้
นอกจากความเชื่อเรื่อง "บีบน้ำมะนาวฆ่าพิษผึ้ง" แล้ว ยังมีความเชื่อแบบวิธีรักษาพื้นบ้านอีกหลายอย่าง ดังเช่น ก้อนยาสูบ เกลือแกง เบกกิ้งโซดา ยางมะละกอ ยาสีฟัน ดินเหนียว กระเทียม หัวหอม แอมโมเนีย น้ำยาเช็ดกระจก ครีมแอสไพริน หรือแม้แต่ฉี่ !! ซึ่งอ้างว่าล้างผิวเอาพิษออกไปได้ ลดความเจ็บปวดได้ ... แต่จริงๆ แล้ววิธีการพวกนี้ไม่น่าที่จะได้ผล เพราะพิษผึ้งที่มากับเหล็กไน จะฝังลึกไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง สารละลายพวกนี้ แม้ว่าบางตัวจะมีฤทธิ์เป็นด่าง ก็ไม่อาจจะลงไปถึงพิษผึ้งได้ ไม่เคยมีผลการศึกษายืนยันว่าได้ผลจริง
หากถูกผึ้งต่อย ควรทำการปฐมพยาบาลดังนี้
1. ถ้าพบว่ามีเหล็กในฝังอยู่ ให้รีบเอาเหล็กในออกทันที โดยใช้สันมีด หรือขอบบัตรพลาสติก (เช่น บัตรเติมเงินโทรศัพท์) ขูดออก หรือใช้เทปเหนียวอย่างใส (สกอตเทป) ปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อย แล้วดึงออก หลังจากนั้นทำความสะอาดบาดแผลด้วย น้ำกับสบู่
2. ใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นประคบบริเวณที่ถูกต่อย นาน 20 นาที จะช่วยลดอาการปวดและบวมได้ ควรทำซ้ำทุกชั่วโมงจนกว่าจะทุเลา
3. ถ้าปวดมาก ให้กินยาพาราเซตามอลตามอาการ
4. ถ้ามีอาการคัน ให้กินยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน ครั้งละครึ่งถึง 1 เม็ด ทุก 6-8 ชั่วโมง และ ทาครีม สเตอรอยด์
5. ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- อาการปวด บวม แดง คัน ไม่ยุบภายใน 6 ชั่วโมง
- แผลบวมขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการปวดมาก
- เป็นลมพิษทั่วตัว หรือริมฝีปากบวม หนังตาบวม
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน หรือเจ็บแน่นหน้าอก
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี้ด หรือมีอาการเป็นลม
- ถูกต่อยที่ลิ้น หรือภายในช่องปาก หรือที่ตา
- ถูกผึ้งหรือต่อรุมต่อยจำนวนมาก
- เคยมีประวัติถูกผึ้งหรือต่อต่อยมาก่อน เคยมีอาการแพ้แมลงพวกนี้มาก่อน หรือเป็นคนที่แพ้อะไรง่าย
- มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังถูกต่อย เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดข้อ ตามัว ซีด จ้ำเขียวตามตัว เป็นต้น
ภาพ และข้อมูลการปฐมพยาบาลพิษผึ้ง จาก http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=6&cat=56&content_id=1424