Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญด้านการแพทย์เลยครับ .. ตอบโจทย์แพทย์อย่างมากในการรักษาคนไข้และได้ประโยชน์กับประชาชนโดยตรง ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลประวัติสุขภาพคนไข้ เช่น ประวัติการแพ้ยา จ่ายยา ข้อมูลการวินิจฉัยโรค อื่น ๆ ให้แพทย์ต่างโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการสามารถเปิด Health Link เพื่อดูข้อมูลคนไข้เพื่อใช้ประกอบการรักษาได้เลย ทำให้รวดเร็วทันท่วงที "ข้อมูลคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ หากแพทย์ได้รับข้อมูลรวดเร็ว การรักษาก็จะเร็วตาม" สามารถลงทะเบียนได้แล้วผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" วันนี้ Health Link เตรียม (LIVE) เวลา 10.00น. เปิดตัวโครงการ ไปติดตามกันเยอะ ๆ นะครับ 📌ที่เพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/healthlink.go.th นะครับ . ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.healthlink.go.th/ . #HealthLinkเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ

-Fluoxetine- ในบรรดาคนไข้ของหมอเรานั้นมีหลายแบบ ทั้งซึมเศร้า ก้าวร้าว ไบโพลาร์ หวาดระแวง สคิซโซฯ แต่มีแบบหนึ่งที่หมอว่ามีเยอะขึ้นทุกวันจนน่าเป็นห่วง ก็คือคนที่มาพบแพทย์เพราะติดยา/รับผลกระทบจากการติดยาลดความอ้วน การเป็นซึมเศร้านั้นมีอาการต่างๆอย่างที่หลายคนคงจะทราบแล้วในความไม่มากไป ก็น้อยไป เช่น นอนมาก/น้อยเกินไป กินมาก/น้อยเกินไป รวมไปถึงวัตรปฏิบัติต่างๆ ความต้องการทางเพศ ความอ่อนไหวทางอารมณ์อื่นๆ ซึ่งหมอก็จะดูอาการ พูดคุย จ่ายยา เช็คไซด์เอฟเฟคท์ของยา ถ้าดีก็กินกันต่อไป ไม่ดีก็เปลี่ยน/ลดโดส ทีนี้มันมียาหลายอย่างที่มีไซด์เอฟเฟคท์เกี่ยวกับเรื่องกิน จริงๆคือมันมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ ซึ่งจะมาเปลี่ยนนิสัยในการกินอีกที ทำให้บางอาการกินผิดปกติ(เช่นเราที่กินมากกกกกกกกกกเกินไปตอนป่วย) กลับเข้าสู่หนทางเช่นปุถุชน เช่นFluoxetineที่เรากินประจำนี่แหละ หมอบอกว่าฟูลอกซ์(เรียกสั้นๆแบบนี้ละกันนะ) และยาทางจิตเวชอีกหลายตัว ถูกใช้ผสมในยาลดความอ้วน ซึ่งคนทั่วๆไปที่สุขภาพจิตปกติดี ถ้ากินเข้าไปก็จะได้รับผลข้างเคียงแบบเต็มๆ(คือเราป่วย เรากินแล้วปกติ, แต่คุณปกติ กินเข้าไปมันจะแรงกว่าเดิม) มีหลายกลุ่มอาการ ตั้งแต่เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าอย่างอ่อนๆ ไปจนถึงหูแว่ว หวาดระแวง เห็นภาพหลอน และพยายามฆ่าตัวตาย ที่น่าเศร้าก็คือ หลายคนถูกพามาพบหมอ แล้วปรับการกิน ปรับยา พอเริ่มปกติก็มีเนื้อมีหนังขึ้น ก็แอบกลับไปกินยาลดความอ้วนใหม่อีกรอบ จนป่วยหนักกว่าเดิม ใช้เวลารักษามากกว่าเดิม และไม่ได้ผอมลงเลยแม้แต่น้อย ฉันเคยได้คุยกับคุณแม่คนไข้รายหนึ่งที่พาลูกสาวมาหาหมอ ก็คุยแลกเปลี่ยนกันว่าเป็นอะไร คุณแม่ก็เล่าว่าคุณแม่พาลูกมารักษาการติดยาลดความอ้วน “น้องกินยาล้างห้องน้ำรอบสองแล้วค่ะคุณ ดีว่าแม่กรอกน้ำเปล่าใส่ไว้ในขวดนั้น เลยไม่เป็นอะไรมาก” คุณแม่เล่าเรียบๆ “มันแอบไปซื้อ พอแม่จับได้ก็ฝากให้เพื่อนซื้อ กินเข้าไปแล้วก็ไม่หลับไม่นอน เห็นนั่นเห็นนี่ แล้วคุณดูตัวมันสิ ผอมเสียที่ไหน ข้อพับแขนขาดำเป็นปื้นหมดแล้ว นี่ต้องไปตรวจเลือดอีกว่ามีค่าอะไรเกินบ้าง” มันแย่นะคุณ ลูกสาวคุณแม่นี่เด็กกว่าฉันอีก ต้องมารักษากินยาต่อเนื่อง ประสิทธิภาพที่ควรจะมีสมวัยทั้งในชีวิตประจำวันและบุคลิกภาพก็หมดไป ต้องกินยาอีกเป็นปี ไม่นับโยโย่เอฟเฟคท์ทางกายที่ต้องมาแก้ไขกันอีก ได้ไม่คุ้มเสีย แล้วจะบอกว่ายาที่ฉันกินนี่ก็ไม่ได้กินแล้วผอมเพรียวเป็นนางแบบ หุ่นฉันก็ปกติ เพื่อนฉันที่ออนยาอยู่ก็มีทุกรูปร่างขนาดตัว เพราะถ้าหายแล้วเราก็เลิกกินโดยให้หมอสั่งนี่แหละ อย่าเอาสมองกับร่างกายไปลองอะไรแบบนี้เลย (ภาพประกอบคือยาเราเองค่ะ)

คุณหมอแสนดี จ่ายยา