[爆卦]คําถาม ภาษาอังกฤษคือ是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇คําถาม ภาษาอังกฤษคือ鄉民發文沒有被收入到精華區:在คําถาม ภาษาอังกฤษคือ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 คําถาม產品中有8篇Facebook貼文,粉絲數超過511萬的網紅I Roam Alone,也在其Facebook貼文中提到, ชีวิตขาขึ้นที่ 'เด่นช้างนอน' ที่น่านขึ้นล้วนๆ 8 ชั่วโมงงงง โอ้ย หลังจากเดินขึ้นๆๆๆล้วนๆไม่มีลงผสมตลอด 8 ชั่วโมงจนหน้าซีด ความดันตก ขาสั่นผับๆ ก็เกิดค...

 同時也有13部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅PRAEW,也在其Youtube影片中提到,ความจริง 50 (+11) ข้อเกี่ยวกับแพรวค่ะ อยากให้รู้จักแพรวกันมากขึ้น เห็นหลายๆคนถามกันมาเยอะเลย แพรวอยู่ที่ไหน อะไรยังไง? วันนี้มาเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือก...

  • คําถาม 在 I Roam Alone Facebook 的精選貼文

    2020-11-07 10:52:17
    有 153,697 人按讚

    ชีวิตขาขึ้นที่ 'เด่นช้างนอน' ที่น่านขึ้นล้วนๆ 8 ชั่วโมงงงง โอ้ย

    หลังจากเดินขึ้นๆๆๆล้วนๆไม่มีลงผสมตลอด 8 ชั่วโมงจนหน้าซีด ความดันตก ขาสั่นผับๆ ก็เกิดคําถามขึ้น 2 คําถาม 1. ช้างมานอนทําไมที่นี่ 2. น้องเมย์ผู้ช่วยที่พามาด้วยจะลาออกไหม แงๆ

    แต่หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยก็ได้คําตอบ น้องออก เอ้ย! ไม่ใช่ วิวและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์คือคำตอบ

    แนวทิวเขาสีเขียวสลับซ้อนเฉดสีกับหมอกขาวๆ แสงอาทิตย์ยามเย็นไล่สีเหลืองจนถึงแดงเข้มที่แทรกตามปุยเมฆ และเมื่อตกกลางคืน ทางช้างเผือกก็ออกมาทักทายฟ้าเดือนมืดที่เงยหน้าดูจนเมื่อยคอ กลิ่นธรรมชาติสะอาดสดชื่นเคล้ากลิ่น Counterpain สูตรร้อนที่ทาช่วยอาการปวดเมื่อยอย่างชะงัด 555 ดีใจที่พกมาด้วย

    และเมื่อยามเช้ามาถึง แสงแดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ กาแฟอุ่นๆก็ยิ่งทําให้ประสบการณ์ครั้งนี้น่าจดจําขึ้นไปอีก ยังไม่ต้องพูดถึงวิวตรงสัน คมมีดเลยด้วยซ้ำ

    แต่ขาขึ้นที่ว่าหนัก ไม่เท่าขาลงที่หนักกว่าอีก ไม่ต้องดูภาพเพราะไม่มีปัญญาถ่ายแล้วค่ะ 555 ไปรอดูในคลิปคืนนี้ตอน 6 โมงเย็นรับน้องขึ้นดอยที่แท้ทรู

    ขอบคุณน้องๆที่มาด้วยกัน น้องอาลีฟที่ช่วยถ่ายรูป Shbabalif น้องบิ๋มและน้องพัช I gonna lala น้องชุก Above the clouds และขอบคุณความอึดของน้องเมย์ที่ตอนนี้ยังป่วยอยู่เลย แงง และคนสําคัญ คือ Counterpain ครีมสูตรร้อนที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จากกิจกรรมเดือดๆของมิ้นท์

    #เด่นช้างนอน
    #น่าน
    #Counterpain
    #เที่ยวไม่เมื่อย
    #ปวดเมื่อย
    #ให้เค้าช่วย

  • คําถาม 在 People Persona Facebook 的最佳貼文

    2020-05-27 00:26:27
    有 745 人按讚

    “ข้อจำกัดของความฝัน”

    .......ผมพยายามคิดอยู่นานว่าหลังจากหยุดไปสองวันเต็มๆเพื่อพักสมองและสองหัวใจ ของชายวัยกลางคน สองคน ที่บากบั่นตั้งหน้าตั้งตาเขียนอะไรต่อมิอะไรมาหนึ่งเดือนเต็มๆ ลงในเพจใหม่ที่เราทั้งคู่กำลังทำการทดลองอะไรบางอย่าง(กว่า 40 คอนเทนต์) แต่แล้วทุกอย่างก็หายวับไปกับตา เพราะสิ่งที่เรียกว่า “การรวมเพจ” (ตอนแรกตั้งใจจะไม่เอาทางเลือกนี้ ซึ่งก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากความโง่เขลาเบาปัญญาน่าเขกกะโหลกของตัวเอง.....ลุงมาก) ผมควรจะลงอะไร เขียนอะไรดี หรือควรจะพอก่อนพักยาวๆ เพราะเหนื่อยละ ขี้เกียจด้วย แถมดวงไม่ดีเลย แต่แล้ว...หลังจากทบทวนอยู่สักพักใหญ่ ก็ได้รับกำลังใจมากมาย ส่งมาบอกว่า รออ่าน รอฟัง อย่าหยุดนะ........ซึ้ง...... ผมจึงตัดสินใจว่า ถ้าอย่างงั้น ขออนุญาตตัวเองเอาสิ่งที่เขียนไว้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจส่งให้คนอื่นเมื่อนานมาแล้ว มาให้กำลังใจ มาส่งพลังให้ตัวเอง เป็นโพสต์แรกดีกว่า และ พรุ่งนี้ เราจะได้ ทำต่อ เขียนต่อ ก้าวเดินต่อไป (อย่างสนุกและมีพลัง)

    ------- นี่เป็นเรื่องราว 1 ใน 12 สี 6 เรื่อง ที่ผมเขียนลงหนังสือ “Twelve Colours” by พิภู พุ่มแก้ว เมื่อ 6 ปีก่อน ปี 2558 ตอนครบรอบ 12 ปีของ อะ บุ๊ค ครับ ไม่ยาวมากลองอ่านดูนะ ---------------

    (โพสต์แรก หลังใช้ Circuit Breaker ตัวเองไป 48 ช.ม. จากหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มแรกและเล่มเดียวที่ผมเคยเขียน ^^)


    "Anything that man can imagine is a possibility in reality."
    “ทุกสิ่งที่มนุษย์สามารถจินตนาการไปถึง มีความ เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง”
    Willie Gallon (Willy Karen) -One Piece-

    ผมได้มีโอกาสทํางานเฉพาะกิจงานหนึ่งให้กับ องค์กรยอดเยี่ยมระดับประเทศองค์กรหนึ่ง มันเป็น งานเกี่ยวกับการวิจัยพฤติกรรมและแนวคิดของมนุษย์ ที่มักชอบจํากัดกรอบให้กับชีวิตตัวเองด้วยข้ออ้าง ที่สร้างขึ้นในจิตใจ
    รูปแบบกิจกรรมเป็น”การทดลอง”ที่ ผมทําหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง ซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างละครึ่ง
    วิธีการดําเนินการทดลองนี้ก็คือ จะมีเก้าอี้วาง เรียงกันอยู่สิบตัว ผู้เข้าร่วมการทดลองจะเข้ามาทีละคน

    แล้วเริ่มนั่งที่เก้าอี้ตัวแรก จากนั้นผมจะมีหน้าที่ถาม ทีละคําถาม ทุกครั้งที่ผู้เข้าร่วมการทดลองตอบได้ เขาจะได้ขยับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวต่อไป จนกว่าจะตอบไม่ได้ ก็จะไม่ได้ไปต่อ ซึ่งแน่นอนว่า”หน้าที่ของผม”ก็คือ ต้องพยายามทําให้พวกเขาไปต่อไม่ได้นั่นเอง เป็นงานที่สนุกแต่ก็ยากมากครับ เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว
    กลับบ้านไข้เกือบขึ้น
    เอาล่ะ ผมขอยกตัวอย่างที่เป็นหนึ่งในบทสนทนา คําถาม (ของผม) และคําตอบ (ของอาสาสมัครการ ทดลอง) ในวันนั้นให้ดูนะครับ

    .......
    ผม : อะไรคือสิ่งที่ในชีวิตนี้คุณอยากทํามากที่สุด แต่ยังไม่ได้ทํา และคิดว่าอาจไม่ได้ทํา
    อาสาสมัคร : เอิ่ม การเที่ยวรอบโลกมั้งคะ (เธอได้ เขยิบไปยังเก้าอี้ตัวที่สอง)

    ผม : ทําไมคุณยังไม่ได้ไปเที่ยวรอบโลก
    อาสาสมัคร : คงเพราะยังมีเงินไม่มากพอ (เธอได้ เขยิบไปยังเก้าอี้ตัวที่สาม)

    ผม : เท่าไหร่ที่คุณคิดว่าจะมากพอ
    อาสาสมัคร : น่าจะสักสิบล้าน (เธอไปยังเก้าอี้ ตัวที่สี)

    ผม : แล้วทําไมคุณถึงยังไม่มีเงินสิบล้าน คุณคิดว่า อีกนานแค่ไหนคุณถึงจะมี
    อาสาสมัคร : อาจจะอีกนาน (เริ่มอึกอัก) แต่ด้วย งานที่ฉันทําอยู่ คงยากแน่ๆ (ผมยังคงให้เธอไปยังเก้าอี้ ตัวถัดไป)

    ผม : แล้วทําไมคุณถึงไม่เปลี่ยนงาน คุณเคย ลองหา ไม่สิ คุณเคยลองไปสมัครงานที่เงินดีกว่านี้ หรือยัง
    อาสาสมัคร : เคยลองหา แต่ไม่เคยไปสมัคร (เธอได้ไปต่อที่ตัวที่หก)

    ผม : ทําไมคุณถึงไม่ไปสมัคร คุณผัดวันประกันพรุ่ง หรือเปล่า คุณขี้เกียจหรือเปล่า
    อาสาสมัคร : เอ่อ (เธอเงียบไปสักพัก) ค่ะ บางที
    ชั้นก็คิดว่า ชั้นอาจขี้เกียจจริงๆ

    เธอยังได้ไปต่อในตัวที่เจ็ด แต่นั่นคือตัวสุดท้าย เพราะเมื่อผมถามเธอต่อว่า ทําไมเธอถึงขี้เกียจ
    เธอตอบไม่ได้

    ผมคงไม่สามารถสรุปผลการทดลองในวันนั้นออกมาเป็นตัวอักษรได้อย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ก็คือ เราทุกคนต่างมีข้อจํากัดที่เรา สร้างขึ้นเอง อาจจะในสมองส่วนลึก หรือแม้แต่ในรูทีนของชีวิตประจําวัน กรอบที่มองไม่เห็น ทั้งหมดคือข้ออ้างที่จะทําให้เรา ไปต่อไม่ได้ไกล

    การทําหน้าที่ในวันนั้น ส่งผลกระทบต่อผม โดยตรงมากกว่าใคร ๆ ในฐานะที่ต้องทําหน้าที่เป็นทั้ง ผู้ทดลอง (Experimenter) และผู้ดําเนินการสัมภาษณ์ (Moderator) อาจเพราะต้องเป็นผู้ตั้งคําถามแบบ กะทันหันพร้อม ๆ กับรับรู้ความรู้สึกที่ส่งผ่านกลับมา จากผู้คนมากมาย

    คืนนั้นเมื่อกลับไปถึงบ้าน ผมคลานไปที่ชั้นวาง หนังสือปลายเตียงแล้วหยิบ The Travel Book: A Journey Through Every Country in the World ของ Lonely Planet หนังสือที่ผมขอให้คุณแม่ซื้อให้ในวันเกิดเมื่อห้าปีก่อน......... ตอนนี้มันเริ่มมีฝุ่นเกาะแล้ว ผมค่อยๆ เปิดดูภาพสีที่มีอยู่พันกว่าหน้าแบบไวๆ จากนั้นผมหันกลับไปที่หัวนอนแล้วพยายามค้นหา อะไรบางอย่างที่ชั้นวางของข้างเตียง.....
    ในที่สุดผมก็เจอ มันเริ่มมีฝุ่นเกาะแล้วเช่นกัน สมุดเล่มเล็ก ๆ ที่ผมเขียนหน้าปกด้วยลายมือของ ตัวเองว่า “สมุดจด 100 ความฝัน”

    อาจจะช้าไปหน่อย แต่ผมก็เริ่มต้นจดบางอย่าง ลงไปอีกครั้งก่อนนอน

    หลับฝันดี ยิ้มๆนะครับ Gutnite ^^

    #Twelvecolours
    #ข้อจำกัดของความฝัน
    #PeoplePersona
    #เขย่งก้าวกระโดด
    #BeginAgain

  • คําถาม 在 บันทึกของตุ๊ด Facebook 的最讚貼文

    2013-02-18 19:34:39
    有 802 人按讚

    คําถาม....อะไรเอ่ยสวยกว่าเธอสามเท่าเสมอ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ตอบ....รูปโพร์ไฟล์ของมึง!!!!

你可能也想看看

搜尋相關網站