[爆卦]ค้นหาข้อมูล ภาษาจีน是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇ค้นหาข้อมูล ภาษาจีน鄉民發文沒有被收入到精華區:在ค้นหาข้อมูล ภาษาจีน這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 ค้นหาข้อมูล產品中有17篇Facebook貼文,粉絲數超過35萬的網紅สมองไหล,也在其Facebook貼文中提到, BMW คือ รถในฝันของผมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และในวันนี้ความฝันของผมก็เป็นจริงแล้วในวัย 24 ปี ถือว่าเร็วเกินฝัน เพราะถ้าย้อนกลับไปสมัยเรียน หรือ ปี...

 同時也有11部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅สอนใช้ ง่ายนิดเดียว,也在其Youtube影片中提到,ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยสงสัยว่า Facebook แอบส่อง แอบดักฟังเราแน่ๆ เลยถึงส่งโฆษณาต่างๆ มาแสดงได้เหมือนกับที่เราคุยกันเมื่อกี้ไปเป๊ะ แต่ก็เอ๊ะ บางทีไม...

ค้นหาข้อมูล 在 Go Went Gone ไปไม่เว้น Instagram 的最讚貼文

2021-07-14 14:09:20

▼9 เหตุผลทำไมต้องไปเกาะนาวโอพี ▼ เค้าบอกว่าเป็นเกาะเปิดใหม่ เห้ย !!!!!!! ในยุคนี้ยังมีเกาะที่ยังเข้าไม่ถึงอีกหรอนี่ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบนเกาะ 1 ปี ...

  • ค้นหาข้อมูล 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文

    2021-08-15 21:38:15
    有 4,141 人按讚

    BMW คือ รถในฝันของผมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และในวันนี้ความฝันของผมก็เป็นจริงแล้วในวัย 24 ปี ถือว่าเร็วเกินฝัน เพราะถ้าย้อนกลับไปสมัยเรียน หรือ ปีที่แล้ว ด้วยราคาของรถ และ ความเป็นไปได้ของรายได้ ณ ตอนนั้น ผมคิดว่าตัวเองจะได้นั่งรถ BMW อย่างเร็วสุดก็คงอายุ 40 ปี ที่สำคัญ คือ ผมถอยมันออกมาในวันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันคนถนัดซ้ายสากลพอดี (เพราะผมถนัดซ้าย)
    .
    อย่างไรก็ตาม หากการซื้อรถ BMW คันนึง เป็นเพียงแค่การได้เป็นเจ้าของรถหรู ก็คงไม่ใช่ สมองไหล เพราะแน่นอนว่าการพิชิตรถในฝันในครั้งนี้ มันได้ให้บทเรียนทั้งในด้าน การเงิน ธุรกิจ การตลาด และ แรงบันดาลใจ กับผมมากมาย ผมจึงกลั่นออกมาเป็น 3 ข้อคิด มาเล่าให้ทุกคนฟังในบทความนี้ครับ
    .
    1. เมื่อไหร่ที่คุณบอกตัวเองว่า “คุณจ่ายไหว” นั่นคือ สัญญาณว่า “คุณจ่ายไม่ไหว” เพราะถ้าคุณจ่ายไหวจริงๆ คุณต้องสามารถซื้อของสิ่งนั้นได้เลยทันทีโดยไม่ต้องถามคำถามนี้กับตัวเอง เพราะมันไม่ได้มีผลอะไรต่ออนาคตของคุณ เหมือนกับที่เวลาที่คุณซื้อหมากฝรั่งนั่นแหละ คุณไม่มานั่งคิดหรอก ว่าคุณจะจ่ายค่าหมากฝรั่งไหวไหม
    .
    นี่คือ คำพูดที่ M.J. DeMarco ได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือ The Millionaire Fastlane ซึ่งผมคิดว่าจริงมากๆ เพราะผมเคยมีประสบการณ์ถามตัวเองว่า “จ่ายไหวไหม คงจ่ายไหวแหละ” เวลาจะซื้อของ โดยเฉพาะการซื้อผ่อน และ สุดท้ายก็ต้องผ่อนแบบทุลักทุเลจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทุกที
    .
    นับตั้งแต่ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ทุกครั้งที่ผมมีคำถามในหัวระหว่าง “จ่ายไหว” กับ “จ่ายไม่ไหว” (ซึ่งก็มักจะลงเอยด้วยการหลอกตัวเองว่า “จ่ายไหว”) ผมจะไม่ซื้อของสิ่งนั้นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอะไรที่ไม่ใช่ทรัพย์สิน หรือ การลงทุน
    .
    ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมจะซื้อของ ไม่ว่าของสิ่งนั้น จะเล็ก จะใหญ่ จะถูก หรือ จะแพง ผมจะต้องมีเงินสดพร้อม และ ไม่มีคำถามว่าจ่ายไหวไหม
    .
    ทุกครั้งที่ผมจะซื้ออะไรก็ตาม ผมจะต้องเลือกระหว่าง “ซื้อสด” หรือ “ซื้อผ่อน” เท่านั้น ไม่ใช่ เลือกได้แค่ “ซื้อผ่อน” แล้วมานั่งคิดว่าผ่อนไหวไหม เพราะจุดจบ คือ การใช้ชีวิตด้วยความกังวลทุกที ฉะนั้น ถ้าเป็นแบบนี้อย่าฝืนครับ ถ้าวิธีทำเงินเดิมมันซื้อไม่ได้ ก็ไปเปลี่ยนวิธีทำเงินก่อน แล้วค่อยมาซื้ออีกที
    .
    การซื้อรถ BMW ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมมีเงินพร้อมสำหรับซื้อสดได้ทันทีโดยไม่เดือดร้อนชีวิตในอนาคต ไม่ว่าจะเจอวิกฤตอะไรก็ตาม ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ซื้อคอมพิวเตอร์ ซื้อกล้อง และ ทุกอย่างในชีวิตแล้ว
    .
    ผมจึงเดินเข้าไปในโชว์รูม แล้วถามเซลล์ว่า “ช่วยอธิบายข้อเสนอ ระหว่าง ซื้อสด กับ ซื้อผ่อน (ผมขอดาวน์ 60%)ให้ผมหน่อย เพราะผมอยากรู้ว่า แบบไหนดีกว่ากัน”
    .
    ปรากฎว่า
    - ข้อเสนอในการซื้อเงินสด คือ ได้ส่วนลด 100,000 บาท
    - ส่วนข้อเสนอในการซื้อผ่อน คือ ได้ส่วนลด 50,000 บาท และ ผ่อน 0%
    .
    ซึ่งปกติ เวลาเราผ่อน เราจะต้องเสียดอกเบี้ยประมาณ 2-3 % ซึ่งผมอยากจะขอผ่อนแค่ 4 ปี นั่นหมายความว่า ผมสามารถประหยัดเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 120,000 บาท และ ได้ส่วนลดอีก 50,000 บาท
    .
    คำถาม คือ ถ้าผ่อนไม่ต้องเสียดอก แถมได้ส่วนลดน้อยกว่าซื้อสดแค่ครึ่งเดียว แล้วจะจ่ายเงินสดไปทำไม ?
    .
    ผมจึงเลือกซื้อผ่อน โดยขอดาวน์ 60% เพราะไม่อยากผ่อนต่อเดือนสูง (ประมาณ 2X,XXX) และ ขอผ่อน 4 ปี 1,000,000 บาท เพราะไม่อยากผ่อนยาว
    .
    และ แน่นอนว่า เมื่อเราซื้อของในจุดที่เราเลือกได้ว่าจะซื้อสด หรือ ซื้อผ่อน และ ไม่มีคำถามในหัวว่า จ่ายไหวไหม เราก็จะได้เป็นเจ้าของมันแบบสบายใจ ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง และ ใช้ชีวิตต่อไปด้วยความมั่นใจ
    .
    2. พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม มันจึงทำให้บทบาทหน้าที่ของธุรกิจ โดยเฉพาะฝ่ายขาย หรือ เซลล์ ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งหากใครดื้อด้าน ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ทำธุรกิจแบบเดิมๆ ทำงานแบบเดิมๆ ก็เตรียมตัวหายไปจากชีวิตของลูกค้าได้เลย
    .
    ยกตัวอย่าง การตัดสินใจซื้อรถ BMW ซึ่งในครั้งนี้ตัวผมได้ใส่หมวกเป็นลูกค้าและสัมผัสมันโดยตรง
    .
    คือ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ถ้าคุณจะซื้อรถสักคันหนึ่ง สิ่งที่คุณทำก็คือ การถามข้อมูลจากเพื่อน ถามพ่อแม่ ถามคนใกล้ตัวที่มีความรู้ จากนั้นก็ตระเวณไปตามโชว์รูมต่างๆ เพื่อตัดสินใจอีกครั้ง
    .
    ซึ่งตัวแปรที่มีผลในการตัดสินใจซื้อรถของลูกค้า ก็คือ เซลล์
    .
    ดังนั้น โชว์รูมไหน มีเซลล์ที่ขายเก่ง พูดเก่ง นำเสนอเก่ง ให้รายละเอียดเก่ง ปกปิดจุดอ่อนเก่ง ก็จะได้เงินของลูกค้าไป ยิ่งถ้าเซลล์สามารถทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ก่อนโดยที่ไม่ยอมให้เขาไปเจอข้อเสนออื่นที่ดีกว่าจากคู่แข่งด้วยยิ่งดี
    .
    แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะก่อนที่ลูกค้าจะซื้ออะไร เขาจะ “ค้นหาข้อมูล” จากออนไลน์ก่อนเสมอ ทั้งรุ่นรถ เปรียบเทียบราคา จุดเด่น จุดด้อย และ ข้อเสนอต่างๆ
    .
    ส่วนตัวก่อนที่ผมจะตัดสินใจซื้อ ผมได้ศึกษาข้อมูล ดูรีวิวมาเป็นเดือน บอกเลยครับว่า ไม่มีข้อมูลจากเว็บไหน หรือ คลิปไหนจากยูทูปที่ผมยังไม่ดู แต่ละคลิปผมดูซ้ำมากกว่า 5 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายละเอียดตัวรถ ความรู้สึกในการขับขี่ ความปลอดภัย ข้อดี ข้อเสีย ราคา และ ข้อเสนอต่างๆ ผมดูมาหมดแล้ว จนมาจบที่รถรุ่น Bmw 220i gran coupe m sport
    .
    เห็นไหมครับว่า ลูกค้าตัดสินใจซื้อตั้งแต่บนออนไลน์แล้ว เขาไม่เดินไปฟังเซลล์แล้วตัดสินใจที่หน้าร้านอีกแล้ว ที่สำคัญคือ เซลล์ที่เราเลือกจะติดต่อไป ก็คือ คนที่เขาทำคอนเทนต์ ให้ข้อมูล รีวิว ให้กับเราได้ดีที่สุด ละเอียดที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด โดยเฉพาะคนที่บอกข้อเสียด้วย ไม่ใช่อวยอย่างเดียว
    .
    นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรอยู่ ถ้าคุณไม่ทำ “ออนไลน์” คุณก็จะไม่สามารถเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาที่ลูกค้ากำลังตัดสินใจได้ และ ถ้าคุณไม่เข้าไปอยู่ในช่วงที่ลูกค้าตัดสินใจ มันก็ไม่มีทางเลยที่ลูกค้าจะเดินไปหาคุณที่หน้าร้าน เพื่อจ่ายเงินให้กับคุณ
    .
    เพราะคนเราจะซื้อของกับคนที่เรา รู้จัก ไว้ใจ และ เห็นว่าเขาโปร่งใส เท่านั้น ซึ่งการทำคอนเทนต์บนออนไลน์ ก็เหมือนการทำความรู้จักลูกค้า ที่สำคัญคือ การทำความรู้จักบนออนไลน์ มันง่ายกว่าต่อหน้า เพราะลูกค้าจะไม่มีกำแพงปิดกั้นคุณ เพราะเขาไม่ต้องกลัวว่าจะโดนคุณขายของ หรือ จะโดนคุณหลอก เขาสามารถเลือกได้ว่าจะดูคุณไหม ถ้าดีก็ดูต่อ ไม่ดีก็แค่เปลี่ยนไปดูคนอื่น มันจึงทำให้ลูกค้าเปิดใจง่ายกว่า
    .
    แต่การทำความรู้จักต่อหน้า ลูกค้าจะตั้งกำแพงขึ้นมาก่อน เขาจะมีอคติกับทุกคำพูดของคุณว่าจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อดี เขาจะมีข้อโต้แย้งในหัวขึ้นมาตลอดเวลา และ ไม่เปิดใจง่ายๆ
    .
    ถ้าลูกค้าเขาเข้ามาดู ฟัง อ่าน คอนเทนต์ของคุณในออนไลน์มากๆ มันก็เหมือนเขารู้จักคุณ คุณเป็นเพื่อนเขา ในระดับนึงแล้ว แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่จ่ายเงินให้กับคุณล่ะ จริงไหม ?
    .
    ต่อมาในหมวกของเซลล์ ต้องบอกว่าเมื่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไป บทบาทหน้าที่ของเซลล์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน คือ เซลล์ไม่ได้มีหน้าที่ขายเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะหน้าที่ขาย หน้าที่นำเสนอ หน้าที่โน้มน้าว ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อมันได้ย้ายไปอยู่ในคอนเทนต์บนออนไลน์แล้ว
    .
    แต่หน้าที่ของเซลล์ คือ
    .
    (1) อำนวยความสะดวก คือ คุณไม่ต้องพูดโน้มน้าวใดๆ เพราะลูกค้าเขาตัดสินใจมาตั้งแต่ที่บ้านแล้ว คุณไม่ต้องนำเสนอข้อมูลใดๆ เพราะเขาดูมาหมดแล้ว คุณไม่ต้องปกปิดข้อเสียใดๆ เพราะมันจะยิ่งทำให้เขาเห็นว่าคุณไม่จริงใจ เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวกับสินค้าของคุณที่ลูกค้าไม่รู้
    .
    คุณมีหน้าที่แค่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซื้อได้ง่ายที่สุด บริการให้ประทับใจที่สุด ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
    .
    อย่างตัวผม เมื่อเดินเข้าไปใน โชว์รูม สิ่งที่ผมถามเซลล์ คือ ได้ส่วนลดเท่าไหร่ ซื้อสดมีข้อเสนออะไรบ้าง หรือ ถ้าซื้อผ่อนมีข้อเสนออะไรบ้าง สามารถเปลี่ยนขุดแต่งให้ผมพร้อมวันออกรถได้ไหม ผมรู้จักกับร้าน ติดฟิล์ม และ เคลือบแก้วดีๆ อยู่แล้ว สามารถให้เขาเอารถไปติดฟิล์ม และ เคลือบแก้วเลยโดยที่ผมไม่ต้องมาโชว์รูมเองหลายรอบได้ไหม ทำให้เสร็จทุกอย่างเลย ผมมาโชว์รูมอีกครั้ง คือ วันขับรถออกเลย สามารถจัดการให้ได้ไหม ?
    .
    หน้าที่ของเซลล์ คือ อำนวยความสะดวกตามที่ผมขอให้ได้ และ บริการให้ผมประทับใจที่สุด
    .
    เห็นไหมครับว่า คำถาม มันไม่ใช่ รถรุ่นไหนดี รุ่นนี้ขับเป็นยังไง ราคาเท่าไหร่ มีข้อดี ข้อเสียตรงไหนบ้าง แบบสมัยก่อนแล้ว
    .
    (2) Upsell ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่ม คือ เวลาลูกค้าดูข้อมูลมา ลูกค้าดูแค่สิ่งที่เขารู้ว่าเขาต้องการเท่านั้น แต่เมื่อลูกค้าเดินมาหน้าร้าน หน้าที่ของเซลล์ คือ ทำให้เขาจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีก ในสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าเขาต้องการ โดยแลกกับความคุ้มค่าที่ลูกค้า (อาจจะ) ไม่รู้มาก่อน
    .
    อย่างตัวผม ตอนแรกราคารถอยู่ที่ 2,169,000 บาท แต่พอมาซื้อจริงๆ เซลล์เสนอว่าจะเพิ่มการรับประกันรถ หรือ BSI จากเดิม 3 ปี 60,000 กิโลเมตร เป็น 5 ปี 100,000 กิโลเมตร โดยเพิ่มเงินอีกแค่ 80,000 บาทไหม เพราะรถยุโรปเวลาเข้าเช็คระยะที่ศูนย์แต่ละครั้ง ต้องเสียเงินหลักหมื่น แต่ถ้ายังอยู่ใน BSI จะเข้าศูนย์ และ ซ่อมกรณีเกิดจากตัวรถฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญรถส่วนใหญ่ 3 ปีแรกไม่ค่อยเข้าศูนย์หรอก มันจะไปหนักช่วงปีที่ 4 เป็นต้นไปมากกว่า
    .
    ซึ่งเมื่อผมคิดคำนวณแล้ว คือ “ตกลง” ผมได้ความคุ้มค่า เซลล์ได้เงินเพิ่ม Win Win และยังไม่รวมพวกชุดแต่ง และ อื่นๆ อีก ที่ผมต้องจ่ายเงินเพิ่มจากเดิมที่ไม่ได้คิดตรงนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการมาก่อน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเซลล์ที่จะต้องยื่นข้อเสนอ เพื่อ Upsell ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มให้ได้ กลายเป็นว่าสุดท้ายผมต้องจ่ายเงินไปรวมๆ ประมาณ 2,2XX,XXX บาท
    .
    สรุปคือ คอนเทนต์ก็เหมือนเซลล์แมนที่ทำหน้าขายแทนคุณ เมื่อเขาปิดการขายลูกค้าคนไหนได้ คอนเทนต์ก็จะส่งลูกค้าที่ ตัดสินใจแล้ว และ พร้อมซื้อ มาให้คุณ ส่วนคุณมีหน้าที่แค่นั่งอยู่เฉยๆ ให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง จากนั้นก็อำนวยความสะดวก บริการ และ Upsell ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มด้วยความพอใจแบบ Win Win ซึ่งผมเรียกหลักการนี้ว่า “Inbound Content Marketing หรือ การตลาดโดยใช้คอนเทนต์แบบแรงดึงดูด”
    .
    ซึ่งผมได้สอนแบบเจาะลึกถึงรายละเอียด และ กระบวนการ เอาไว้ในคลาส Online Signature 2021 ทั้งหมดแล้ว หากคุณอยากจะนั่งเฉยๆ แล้วให้ลูกค้าวิ่งเข้าหาเองได้ ก็สามารถเข้ามาลุยด้วยกันได้ครับ
    .
    3. เหตุผลที่ผมเลือกซื้อ BMW ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นรถยุโรป ขับแล้วเท่ สมรรถนะเยี่ยม ที่อยากมีไว้ในครอบครองเท่านั้น แต่มันมีผลกับการทำงานในเชิงจิตวิทยาของผมด้วย
    .
    หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า BMW ไม่ได้เริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตรถยนต์ แถมยังเคยตกอับถึงขนาดเอาเศษเหล็กมาทำเครื่องครัวขายเพื่อความอยู่รอดมาแล้ว
    .
    ย้อนกลับไปในปี 1916 ก่อนจะมาเป็น BMW บริษัทมีชื่อว่า Rapp Motorenwerke ทำธุรกิจผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน จากนั้นไม่กี่ปีต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น Bayerische Motoren Werke ซึ่งเป็นชื่อเต็มของ BMW โดยโลโก้ที่เราเห็นกันทุกวันนี้จนจำขึ้นใจ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากลักษณะการหมุนของใบพัดเครื่องบิน รวมเข้ากับสีฟ้าและขาว ซึ่งเป็นสีประจำแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ที่ตั้งของบริษัท BMW โดยเครื่องยนต์ของเครื่องบิน BMW IIIA เป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในยุคนั้น ต่อมา เครื่องยนต์ BMW IV ก็สามารถสร้างสถิติโลกเพดาลบินสูงสุดได้
    .
    อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า BMW กำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างก็พังลง เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ผลจากสงครามทำให้การผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายในเยอรมนี จากผลของสนธิสัญญาแวร์ซาย
    .
    BMW ที่เคยผลิตแต่เครื่องยนต์เครื่องบินมาโดยตลอด ต้องหันไปผลิตเครื่องมือทำฟาร์ม และเบรกรถไฟ ซึ่งในระหว่างนั้นเอง Max Friz หัวหน้านักออกแบบของ BMW ก็ได้วางแผนออกแบบ รถมอเตอร์ไซค์ ควบคู่ไปด้วย
    .
    จนในปี 1923 BMW ก็เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์คันแรก ที่มีชื่อรุ่นว่า R32 ซึ่งเปิดตัวในงาน Berlin Motor Show
    .
    หลังจากนั้นในปี 1928 ธุรกิจผลิตรถยนต์ของ BMW ก็เริ่มต้นขึ้น โดย BMW 3/15 PS คือรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ชื่อของ BMW และกลายเป็นที่ฮือฮาทันที เพราะสามารถชนะการแข่งขันรายการ Alpine Rally ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าร่วมแข่งขัน
    .
    หลังจากนั้นในปี 1933 ก็ได้เปิดตัว BMW 303 ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบไตคู่ (Kidney Grille) จนรูปแบบดังกล่าวได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของรถ BMW ทุกรุ่นในปัจจุบัน
    .
    แต่ก็เหมือนเดจาวู เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้สวย BMW ก็ล้มลงอีกครั้ง เมื่อเยอรมมีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้ง ทั้งโรงงานรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ พังเกือบหมด
    .
    BMW ต้องกลับไปผลิตของใช้ในครัวเรือน ก่อนจะกลับมาสร้างมอเตอร์ไซค์ได้อีกครั้งในปี 1948 และรถยนต์ในปี 1951
    .
    หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง BMW กลับมาขายรถที่จัดเต็มเรื่องสมรรถนะ ซึ่งถือว่าเป็นรถที่มีเทคโนโลยีล้ำสุดในช่วงเวลานั้น
    .
    แต่ดูเหมือนว่า จุดสูงสุดของวิศวกรรมจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับจุดต่ำสุดของ BMW
    .
    เนื่องจากช่วงหลังสงคราม คนสนใจแต่ปากท้องของตัวเอง และคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อรถคันใหญ่ที่มีวิศวกรรมล้ำหน้าราคาแพง ทำให้รถของ BMW ขายได้ไม่ค่อยดี ส่วนตลาดมอเตอร์ไซค์ก็เริ่มซบเซา
    .
    สุดท้ายบริษัทมีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จนถึงขั้นที่ว่าบอร์ดของบริษัท ตอบรับข้อเสนอการควบรวมกิจการกับทาง Daimler-Benz อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น เพราะถูกต่อต้านจากทั้งคนงานและผู้ถือหุ้นรายย่อย
    .
    Herbert Quandt หนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท ตัดสินใจหาเงินมาซื้อหุ้นในส่วนที่จะขายให้ทาง Daimler-Benz นั้นเอาไว้เอง ทำให้ BMW ยังคงเป็นบริษัทคู่แข่งกับ Benz ต่อไป ซึ่งผ่านมา 59 ปี ปัจจุบันคนตระกูล Quandt ก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BMW Group อยู่
    .
    ต่อมากิจการของ BMW ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ BMW มีการปรับเปลี่ยนให้รถที่ทำออกมามีขนาดเล็กลง สามารถตอบโจทย์คนทั่วไปมากขึ้น และ เติบโตขึ้นผ่านการซื้อขายบริษัทอื่นๆ ตามมาอีกหลายครั้ง ทั้งแบรนด์ MINI และ Rolls-Royce จนปัจจุบัน BMW มีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท
    .
    หลายคนอาจจะคิดว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เส้นทางของเขาคงจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่เคยล้มเหลว ไม่เคยเจอวิกฤตอะไรมาก่อน
    .
    แต่สำหรับ BMW พวกเขาต้องดิ้นรนถึงขนาดต้องทำหม้อทำกระทะขายเพื่อความอยู่รอดมาแล้ว
    .
    แต่ไม่ว่า BMW จะเจอกับสงครามโลกกี่ครั้ง จะเจอวิกฤตกี่หน แต่เขาก็ “ไม่ยอมแพ้” และ ต่อสู้จนกลับมาเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จได้เสมอ
    .
    ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ผมทั้งเคยทำธุรกิจเจ๊ง ถึงกับต้องขอยืมเงินเพื่อน 100 บาท เพื่อมาซื้อมาม่า กับ ไข่ไก่กินประทังชีวิต 1 สัปดาห์ ดิ้นรนอีกหลายเดือน และ ไปขออาศัยอยู่บ้านเพื่อน เมื่อตอนสมัยเรียน นอกจากนี้ธุรกิจของผมก็เจ๊งเพราะโควิด-19 ไม่ต่างกับใครอีกหลายคน
    .
    เราทุกคนล้วนมีวันที่ดี และ มีวันที่ร้ายสลับกันไป ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมขึ้นไปนั่งบนรถของ BMW หน้ามองตรง มือจับพวงมาลัย แล้วสูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด
    .
    มันเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจผมว่า “ต่อให้จะเจอวิกฤตอะไร เจอวันที่แย่แค่ไหน จงอย่ายอมแพ้ จงสู้ต่อไป ก้าวไปข้างหน้า แล้วเราจะประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับ BMW …”
    .
    และนี่คือ เหตุผลที่ผมเลือก BMW เพราะทุกครั้งที่ผมเหยียบคันเร่งของรถ มันก็เหมือนผมกำลังเหยียบคันเร่งให้ชีวิตของตัวเอง
    .
    ปล. หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยเจอวิกฤต และไม่ยอมแพ้ BMW คือ รถที่เหมาะสมกับคุณที่สุดครับ ถ้าคุณอยากเป็นเจ้าของรถอย่าง BMW ก็ทักไปหาคุณปุ๋ย ที่ดูแลผมอยู่ได้เลย เขาดูแลดีมากๆ ครับ
    .
    โทร 090-6786187 | ID Line : pueybmw | เพจ : ปุ๋ย เซลรถหรู ภาคใต้ | Facebook : ปุ๋ย บี้เอ็ม ภาคใต้
    .
    ปล.2 ส่วนใครอยากนั่งอยู่เฉยๆ แล้วให้คอนเทนต์บนออนไลน์ ดึงดูดลูกค้าวิ่งเข้าหา ก็เข้ามาลุยกับผมและพี่น้องอีกมากกว่า 300 คน ในคลาส Online Signature 2021 ได้ครับ
    .
    ทักไลน์มาได้ที่ @samounglai

  • ค้นหาข้อมูล 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的精選貼文

    2021-08-08 21:16:29
    有 812 人按讚

    พฤติกรรมคนเปลี่ยนแล้วเราเปลี่ยนรึยัง?

    ====วันก่อนผมพูดไปในLive
    และก็ตัดมาเป็นคลิปให้พี่น้อง

    แล้วเป็นประเด็นได้รับความสนใจมาก
    จากพี่น้อง
    มีเขียนมาขอบคุณ

    กระทั่งเมื่อคืนนี้ก่อน
    ผมลุยกับพี่น้อง
    ในคลาส Online Take over อย่างเจาะลึกลงไป

    มีพี่น้องที่ในคลาส
    บอกว่า
    นี่คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่มองข้ามไป

    ========ปัญหาที่เกิดคือ...

    เข้าใจว่าที่ลูกค้าหายไปเพราะเศรษฐกิจไม่ดี
    แต่จริงๆแล้วมันไม่เคยกลับมาดีขึ้นอีกเลย
    ซึ่งในคลิปนี้ได้พูดถึงเรื่องนี้

    และทำให้ได้รู้ว่า
    จริง

    ”เศรษฐกิจไม่ดีมีผล”

    “วิกฤติอะไรที่เข้ามามีผล”

    ข้อนี้แน่นอนมีผลกระทบมากน้อยแล้วแต่ธุรกิจ

    แต่สิ่งที่ต้องถามต่อไปคือ
    แล้วเมื่อวิกฤติจบไปแล้วล่ะ
    ที่ผ่านมา
    มันเป็นยังไ?

    >>>เช่นเคยมีหน้าร้านอยู่
    สมัยก่อนขายดีมาก

    แต่อยู่ดีๆขายไม่ดี
    แล้วก็ไม่ดีมาเรื่อยๆ
    แม้วิกฤติจะผ่านไปแล้ว
    แต่ก็ไม่เคยดีขึ้นแบบเดิมอีกเลยรึเปล่า?

    ถ้าไม่...
    นั้นแสดงว่าอะไร?

    มันอาจจะไม่ใช่เป็นเพราะวิกฤติ
    หรือเศรษฐกิจหรือเปล่า

    มันมีอะไรเปลี่ยนไปไหม?

    ลูกค้ามีพฤติรรมเปลี่ยนแปลงไปรึเปล่า?
    เปลี่ยนไปยังไง?

    ========
    และเราได้สังเกตุ
    และปรับตามทันไหม?

    และในคลิปนั้นพูดถึงคำนึง

    “วิธีการเข้าใจตลาดที่ดีที่สุด
    คือการ....
    ย้อนกลับมาดูที่ตัวเรา”

    >>>>>ปัจจุบันตัวเรา
    เปลี่ยนไปไหม?

    เเวลาเราซื้อของเราทำอะไรบ้าง

    เราเดินดุ่มไปหาไล่ตามร้าน
    พูดคุยทีละล้าน
    เหมือนสมัยเราเด็ก
    ตามผู้ใหญ่ไปเดินหาของเป็นวันๆ

    แต่ยุคนี้เรายังทำแบบนั้นอยู่ไหม?

    หรือ....

    หาข้อมูลก่อน?

    Search ดูก่อน?

    ถ้าเป็นอย่างหลัง
    คือพฤติกรรมเราเปลี่ยนไปแล้ว

    แล้วลูกค้าล่ะ?
    เค้าเปลี่ยนไปไหม??

    ======ในคลิปนั้นที่หน้าเพจผมพูดถึงพฤติกรรมใหม่ของผู้คน

    1. เรา (ลูกค้า) มักไม่ได้ซื้อในทันที ที่เราเพิ่งรู้จัก & อยากได้

    2.เราจะใช้เวลา ค้นหาข้อมูล ก่อนที่จะไปที่ร้าน หรือ ทัก Inbox - เช่นด้วยการ ตามเข้ามาในเพจ หรือ ดูเพจอื่นด้วย,หรือดูweb อื่นเปรียบเทียบ

    3.ของบางอย่าง เราค้นหาข้อมูลแปปเดียว ก็ตัดสินใจได้เลย>แต่บางอย่างต้องใช้เวลา หลายวัน

    4.เรา ( ลูกค้า ) มักใช้เวลาใน Phaseการ ค้นคว้าข้อมูลนานที่สุด จนเจอร้านที่เราเชื่อใจที่สุด

    5.เราทัก inbox หรือ ไปหน้าร้านเพื่อซื้อ(เป็นช่วงเวลาสั้นๆ) >>เพราะ ส่วนมาก เราตัดสินใจมาล่วงหน้าพอสมควรแล้วจากบ้านก่อนจะไปที่ร้าน หรือ ทัก inbox ไป

    ==========จากข้อมูลตรงนี้
    เราก็จะได้รู้ว่า
    อะไรคือปัญหาที่แท้จริง
    ที่ทำให้เรา
    หรือเพื่อนๆเรา

    “ขายไม่ดีเท่าเดิม”

    ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่วิกฤติที่ทำให้เราหรือคนรอบตัวเรามีปัญหา

    แต่มันอาจจะเป็น
    การ Disruption
    พฤติกรรมคนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

    วิกฤติคือเรื่องชั่วคราว
    เมื่อวิกฤติหายไปคนก็กลับมาทำแบบเดิมปกติ
    เช่นน้ำท่วมใหญ่
    พอหลังน้ำลดวิกฤติหายไปคนก็กลับใช้ขีวิตปกติ

    แต่ Disruption
    พฤติกรรมคนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
    เช่นช่วงวิกฤติปีก่อน
    คนไม่อยากออกจากบ้าน
    ซื้อของonline
    วิกฤติมันบังคับให้คนต้องใช้เป็น

    แต่พอหลังวิกฤติซาๆไปเมื่อปลายปี
    กลับมาปกติ
    คนก็ติดซื้อonlineแล้ว
    และไม่กลับไปซื้อแบบเดิมอีก

    (ซึ่งเมื่อวันนั้น
    ผมจี้ประเด็นนี้ลงลึกในOnline Take over บทที่2
    วันที่2 ว่า...
    คนอาจจะเห็นว่าเฮ้ยคนก็ยังซื้ออยู่
    ไปหน้าร้าน )

    (แต่เค้าตัดสินใจจากบ้าน
    หาร้านที่ใช่ได้จากonline ได้ก่อนที่เค้าจะออกนอกบ้านซะอีก)

    จากเมื่อสักครู่
    เมื่อเรารู้พฤติกรรมลูกค้าแล้วว่า...

    “พฤติกรรมลูกค้าได้เปลี่ยนไปอย่างถาวรแล้ว”

    มันไม่ใช่วิกฤติที่เปลี่ยนชั่วคราว
    แต่มันคือDisruption
    คือเปลี่ยนอย่างถาวร

    เค้าไปไม่ได้ไปเดินเป็นวันๆ
    ไปหาแบบสมัยก่อนแล้ว
    ลูกค้าเค้าเลือกที่จะหาทางOnlineก่อน

    เค้าจะหาข้อมูล
    และคัดร้านที่ไม่ใช่ออกไปๆเรื่อยๆ

    และเค้าจะเลือกร้านที่ให้สิ่งนี้กับเค้าได้ดีที่สุด
    ก่อนที่จะทักinbox
    หรือ เดินไปที่ร้านจริง

    =====
    พูดง่ายๆคือเค้าเลือกคุณ
    ก่อนที่จะทักไปหาคุณซะอีก

    เพราะฉะนั้นหน้าที่คือเราต้องเตรียมสิ่งนี้รอ

    เอาไปใช้กันครับ

    อย่าลืมนะครับ

    พฤติกรรมคนเปลี่ยนแล้วเราเปลี่ยนรึยัง

    วิกฤติ
    (น้ำท่วม เศรษฐกิจไม่ดี วิกฤติ)
    คือพฤติกรรมที่เปลี่ยนชั่วคราว

    แต่Disruption
    คือเปลี่ยนอย่างถาวร

    ลุยครับทุกคน

    A10(เอเท็น)
    iClassUniversity
    สังคมแห่งความเป็นไปได้
    1YearCLUB
    Thx Economy
    Big Leap โตปีนี้แบบก้าวกระโดด
    Online Take over 2021 เอาชนะทั้งตลาดด้วยOnline
    ลุย10X

  • ค้นหาข้อมูล 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文

    2021-06-12 21:52:37
    有 5,926 人按讚

    “ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ต นั่นแสดงว่าธุรกิจของคุณกำลังจะเจ๊ง”
    .
    นี่คือสิ่งที่ บิล เกตส์ เคยกล่าวเอาไว้ และ วันนี้คำกล่าวนั้นก็เริ่มเป็นความจริงให้เห็นขึ้นมาทุกที แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในชะตากรรมแบบที่ บิล เกตส์ เคยกล่าวเอาไว้
    .
    เพราะคิดว่าธุรกิจของตัวเองไม่จำเป็นต้องทำออนไลน์ก็ได้ ก็ฉัน ขายรถ เปิดร้านเสริมสวย ร้านสักคิ้ว ร้านทอง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ไม่ได้ขายเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือ เครื่องสำอาง เสียหน่อย ถึงจะต้องทำออนไลน์ เพราะถึงยังไงลูกค้าก็ต้องมาซื้อหน้าร้านอยู่ดี ดังนั้นออนไลน์ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย
    .
    ที่ตอนนี้ยอดขายหายไป ก็เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีไง ไหนจะโควิด-19 อีก ใครๆ เขาก็เป็นกันทั้งนั้นแหละ !!
    .
    ซึ่งก็ไม่ผิดครับ ถ้าจะคิดแบบนั้น แต่ถ้าคุณฟังเรื่องนี้จบ ความคิดของคุณจะเปลี่ยนไปทันที !!
    .
    วันก่อนเพื่อนของผมคนหนึ่ง เธอบ่นว่าอยากต่อขนตา แน่นอนว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงต้องขับรถวนเพื่อหาดูว่าแถวนั้นมีร้านต่อขนตาไหม ถ้าร้านไหนทำเลติดถนน ทำป้ายใหญ่ๆ เด่นๆ ก็จะได้ลูกค้าไป ซึ่งลูกค้าอย่างเราเมื่อเจอร้านไหน ก็ต้องเข้าไปใช้บริการร้านนั้น แล้วค่อยไปเสี่ยงดวงดูอีกทีว่าร้านนี้จะต่อขนตาออกมาได้สวยไหม
    .
    แต่เธอกลับไม่ทำอย่างนั้นครับ เพราะเพื่อนผมคนนี้เธอหยิบมือถือขึ้นมา แล้วค้นหาร้านต่อขนตาที่มีอยู่ในระแวกนั้น อ่านคอนเทนต์ อ่านรีวิว แล้วเปรียบเทียบดูว่าร้านไหนทำออกมาดี ทำออกมาสวย ในราคาที่คุ้มค่า และ ดูน่าเชื่อถือ โดยไม่ยอมเอาเบ้าหน้าของตัวเองไปเสี่ยงดวง ซึ่งเธอก็ค้นหาและพิจารณาร้านต่างๆ อยู่ประมาณ​ 2 ชั่วโมง จนดูเหมือนว่าเธอได้ร้านที่ถูกใจแล้ว
    .
    ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วทำหน้าตาน่าสงสาร แล้วพูดกับผมว่า “แก… ช่วยพาฉันไปต่อขนตาหน่อยนะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปงานลูกรับบัณฑิตน้อยแล้ว นะนะนะ”
    .
    “ไหงเป็นงั้นล่ะ โดนจนได้เรา” แต่ผมก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะตอนนั้นก็ว่างอยู่พอดี แถมอยากไปดูด้วยว่าร้านต่อขนตาที่ว่านี้มันเจ๋งขนาดไหน ถึงทำให้เพื่อนผมตัดสินใจได้
    .
    ผมจึงขับรถตาม GPS เพื่อพาเพื่อนรักคนนี้ไปต่อขนตาครับ สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือ ร้านนี้ไม่ต่างกับอยู่ในรูเลย เพราะมันเข้าซอยไปลึกมากๆ ผมขับรถเข้าซอยนี้ ออกซอยโน้น จนในที่สุดก็มาเจอร้านต่อขนตาที่อยู่ตรงท้ายซอยพอดี
    .
    สิ่งที่ผมเห็น คือ ร้านนี้ไม่ใช่ร้านต่อขนตาทั่วไป เพราะเขาใช้พื้นที่บ้านของตัวเองเปิดให้บริการ ไม่ได้มีป้ายใหญ่ ไม่ได้ลงทุนอะไรมากไปกว่าป้ายธงญี่ปุ่นเล็กๆ ตัวเดียวที่วางอยู่หน้าร้าน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ร้านนี้คิวแน่นมาก ทุกคนที่มาจะต้องจองคิวเอาไว้ก่อน ซึ่งตอนที่ผมมาถึงที่ร้านประมาณ บ่าย 3 ลูกค้าที่เพิ่งจะใช้บริการเสร็จก็ขับรถออกไป ซึ่งเมื่อผมเข้าไปนั่งรอเพื่อนที่โซฟา ก็บังเอิญเห็นสมุดบันทึกการจองของร้านนี้ จึงพบว่ามีการจองคิวยาวไปถึง 3 ทุ่ม
    .
    หลังจากเพื่อนของผมต่อขนตาเสร็จ แล้วจ่ายเงินให้กับเจ้าของร้าน เธอเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ฉีกไปถึงหู บ่งบอกถึงความพึงพอใจที่เธอมีต่อร้านนี้
    .
    ซึ่งแน่นอนว่าตอนที่ผมจะถอยรถออก ก็มีลูกค้าคิวต่อไปเดินทางมาถึงพอดี แล้วเดินเข้าไปใช้บริการ
    .
    คราวนี้คุณเห็นอะไรไหมครับ ทำไมร้านที่อยู่ในซอยลึก ป้ายไม่เด่น ทำเลไม่ดี ถึงมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย
    .
    นั่นก็เพราะว่า พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้วครับ แน่นอนว่าสุดท้ายเขาจะต้องไปใช้บริการที่หน้าร้านก็จริง แต่ก่อนที่ลูกค้าจะไปถึงหน้าร้าน เขาจะ ค้นหาข้อมูล อ่านคอนเทนต์ ดูรีวิว เปรียบเทียบ ก่อน แล้ว “ตัดสินใจตั้งแต่บนออนไลน์” ว่าเขาจะไปใช้บริการที่ร้านไหน แล้วถึงจะเดินทางไปที่หน้าร้าน
    .
    นั่นหมายความว่า ถ้าวันนี้คุณไม่ได้อยู่บนออนไลน์ พอลูกค้าค้นหาข้อมูล เขาก็จะไม่เจอร้านของคุณ ลูกค้าก็จะไม่มีทางเดินไปหน้าร้านคุณได้อย่างแน่นอน
    .
    ที่ผมมั่นใจอย่างนั้นก็เพราะหลังจากที่ผมพาเพื่อนไปต่อขนตาเสร็จ ผมก็ลองขับรถสำรวจดูร้านต่อขนตาในระแวกนั้น สิ่งที่ผมเห็นคือ มีร้านต่อขนตาเยอะมาก ตกแต่งร้านก็สวยมาก แต่แทบไม่มีคนเดินเข้าร้านเลย กลายเป็นว่าเพื่อนผมกลับไปจบที่ร้านที่อยู่ต่างอำเภอแถมยังอยู่ท้ายซอยซะอย่างนั้น
    .
    บทสรุปของเรื่องนี้ คือ การที่ร้านของคนส่วนใหญ๋ไม่มีลูกค้า ยอดขายตก ไม่ได้เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่เป็นเพราะลูกค้าหายไปซื้อร้านอื่นต่างหาก
    .
    เห็นไหมครับว่า การทำออนไลน์ ไม่ได้สำคัญเฉพาะกับสินค้าที่ขายบนออนไลน์เท่านั้น แต่ออฟไลน์ก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะทุกวันนี้คนจะตัดสินใจซื้อผ่านการ พิจารณา ข้อมูลบนออนไลน์ เกือบทั้งหมด ต่อให้ร้านจะเป็นออฟไลน์ก็ตาม แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะดูข้อมูลและตัดสินใจมาตั้งแต่ที่บ้านเรียบร้อยแล้วว่าอยากจะซื้ออะไร ที่ร้านไหน ถึงจะเดินไปซึ้อสินค้าที่หน้าร้าน
    .
    มาถึงตรงนี้คุณคงรู้ตัวแล้วใช่ไหมครับว่า ถ้าคุณไม่ทำออนไลน์ตั้งแต่วันนี้ คุณอาจจะเป็นเหมือนอย่างที่ บิล เกตส์ เคยพูดเอาไว้ เพราะตอนนี้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว ที่สำคัญคือ มันจะเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย และ ไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
    .
    และถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยครับ เพราะคุณกำลังจะเป็นหนึ่งในคนที่รอดพ้นจากสิ่งที่ บิล เกตส์ เคยพูดเอาไว้ เมื่อได้เข้ามาเรียนในคลาส Online Signature เหมือนอย่างพี่ๆ น้องๆ ในคลาส Online Signature อีกกว่า 100 ชีวิต
    .
    เพราะเนื้อหาทุกอย่างในคลาสนี้ได้ผ่านการ “ทดสอบ” มาหมดแล้วไม่มีมโน
    .
    หนึ่งในเคสที่รอดพ้นจากวิกฤตนี้ ด้วยเนื้อหาทั้งหมดจากคลาส Online Signature ที่ผมได้นำไปทดสอบ คือ หัวหน้าทีมของตัวแทนประกันชีวิตค่ายหนึ่ง ซึ่งเดิมทีการขายประกันจะหาลูกค้าจากคนใกล้ตัว การแนะนำ และ การวอคอิน เป็นหลัก แน่นอนว่าสมัยก่อนวิธีนี้สามารถทำได้ดี

    ซึ่งตอนแรกที่ผมเข้าไปปรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ บอกตามตรงครับว่าไม่มีตัวแทนประกันคนไหนเชื่อ ว่าสินค้าอย่างประกันชีวิตจะต้องทำออนไลน์ด้วย เพราะที่ผ่านมาพวกเขาปิดการขายแบบเจอหน้ากันมากกว่า แล้วก็ทำแบบนี้มานานแล้วด้วย ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร นอกจากโดนลูกค้าปิดเครื่องหนีเท่านั้น แต่โชคดีที่มีหัวหน้าทีมของประกันค่ายนี้ที่ “เชื่อ” และ อยากให้ผมเข้ามาปรับทิศทางให้ จึงติดต่อให้ผมเข้าไปช่วย โดยที่ผมเองไม่ได้ขอรับค่าตอบแทนใดๆ
    .
    อย่างที่บอกครับว่าตอนแรกไม่มีใครเชื่อ เพราะคิดว่าการทำออนไลน์มันเสียเวลา สู้เอาเวลาไปโทรหาลูกค้าดีกว่าเพราะมันคือสิ่งเดียวที่สร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้
    .
    แต่พอผมเริ่มอธิบายให้พวกเขาเห็นภาพว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของคนซื้อประกันเปลี่ยนไปแล้ว ที่เขาปิดเครื่องหนี ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยาก “ซื้อประกัน” แต่พวกเขาไม่อยาก “ถูกขายประกัน”
    .
    คือ ธรรมชาติของมนุษย์ไม่ชอบ “ถูกขาย” ครับ แต่พวกเขา “ชอบซื้อ”
    .
    ไม่มีใครชอบให้นักขายประกันโทรมารบกวน โทรมาโน้มน้าว แล้วบีบให้ตัดสินใจซื้อเร็วๆ หรอก เพราะไม่มีใครเชื่อคำพูดของนักขายประกันครับ ลูกค้าชอบที่จะนั่งอ่านรีวิวเองจากคนที่เคยซื้อประกันแล้ว เพราะมันดูน่าเชื่อถือมากกว่านักขายพูดเอง ลูกค้าชอบที่จะศึกษาช้อมูลเปรียบเทียบกรมธรรม์ต่างๆ อ่านข้อมูลศึกษารายละเอียดเยอะๆ แล้วตัดสินใจเอง จากนั้นก็ค่อยติดต่อไปซื้อประกัน ไม่ใช่การถูกนักขายบีบให้ซื้อทางโทรศัพท์ภายในเวลา 5 นาที
    .
    คำถาม คือ แล้วที่ไหน คือ ที่ๆ ลูกค้าจะเข้ามาอ่านรีวิว อ่านข้อมูล อ่านประโยชน์ ของประกันล่ะ ?
    .
    ใช่ครับ !! บนออนไลน์ไง
    .
    แล้วถ้าเขาอ่านบนออนไลน์จนตัดสินใจได้แล้ว คนที่เขาจะโทรหาเพื่อซื้อประกันเป็นคนแรก ก็คือ คนจากแหล่งที่เขาได้อ่านข้อมูลยังไงล่ะ
    .
    ดังนั้น ใครที่ทำธุรกิจประกันแล้วไม่ได้เอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนออนไลน์ คุณก็จะหายไปจากวงโคจรในชีวิตของลูกค้าทันที เพราะเมื่อลูกค้าเสิร์ชหาแล้วไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น สุดท้ายเขาก็ไม่ซื้อกับคุณจริงไหม
    .
    ซึ่งการที่ยอดขายประกันของบางคนหายไป ไม่ใช่เพราะคนซื้อประกันน้อยลงแต่อย่างใด เพียงแต่เขาไปซื้อกับคนอื่นต่างหาก เผลอๆ หลังจากที่ลูกค้าส่วนใหญ่ปิดเครื่องหนีไป เขาก็ไปอ่านข้อมูลบนออนไลน์ต่อนั่นแหละ แล้วสุดท้ายก็โทรไปซื้อจากคนอื่น
    .
    พอผมพูดจบ ตัวแทนประกันทุกคนก็เริ่มเปิดใจ โดยมีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “จริงด้วย !! ที่ผ่านมาลูกค้าที่โทรเข้ามาซื้อเอง จะปิดการขายได้ง่ายกว่าคนที่เราโทรไปขาย เพราะคนเหล่านี้เขาศึกษามาอย่างดี และ ตัดสินใจมาแล้ว”
    .
    หลังจากทุกคนเปิดใจ และ ให้ผมเข้าไปดูแลเรื่องการตลาดออนไลน์ ประมาณ 4 เดือน ทุกอย่างก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    .
    จากที่ตัวแทนประกันต้องนั่งโทรศัพท์ไปขาย 100 คน ปิดการขายได้ 1 คน กลายเป็นนั่งเฉยๆ แล้วรอให้ลูกค้าที่อ่านข้อมูล คอนเทนต์ รีวิว และ อื่นๆ จนตัดสินใจได้แล้วโทรเข้ามาซื้อเอง
    .
    ผลก็คือ การขายประกันของทีมนี้ ใช้เวลาลดลง เหนื่อยน้อยลง ทำงานน้อยลง แต่ได้ยอดขายมากขึ้น
    .
    นี่แหละครับ คือ เหตุผลที่ผมไม่อยากให้คุณพลาดคลาสนี้ เพราะเทรนด์ในตลาด และ ผลการทดสอบของผมก็แสดงให้เห็นแล้วว่า “ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ต นั่นแสดงว่าธุรกิจของคุณกำลังจะเจ๊งจริงๆ”
    .
    และที่สำคัญ คือ ผมเคยเห็นคนพลาดเรื่องนี้มาแล้ว เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนผมเริ่มทำออนไลน์ใหม่ๆ ก็มีเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันหลายคนเคยหาว่าผม “บ้า”
    .
    แต่ผ่านมา 2 ปี คนเหล่านั้นถึงรู้ตัว ว่าคนที่พลาด คือ พวกเขาเอง
    .
    และผมเองก็ไม่อยากให้มีใครพลาดเพราะมองข้ามเรื่องเหล่าอีกแล้ว
    .
    แน่นอนว่า เมื่อคุณตัดสินใจ “ลุย” ไปกับผมแล้ว คุณจะไม่ใช่คนที่พลาดแบบนั้น
    .
    ✅ ถ้าคุณอยากโตไปด้วยกัน ทักมาได้เลยครับที่ Line : @samounglai
    .
    ✅ ผมมีราคาพิเศษให้สำหรับ 20 คนแรก ที่ทักเข้ามา
    .
    ✅ และ ใครมีหนังสืองานประจำสอนทำธุรกิจ เวอร์ชั่นพร้อมลายเซ็น สามารถใช้เป็น “ส่วนลดเพิ่มได้อีก 500 บาท”
    .
    ✅ แล้วพบกันในคลาสครับ ^^

  • ค้นหาข้อมูล 在 สอนใช้ ง่ายนิดเดียว Youtube 的精選貼文

    2020-02-07 12:52:36

    ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยสงสัยว่า Facebook แอบส่อง แอบดักฟังเราแน่ๆ เลยถึงส่งโฆษณาต่างๆ มาแสดงได้เหมือนกับที่เราคุยกันเมื่อกี้ไปเป๊ะ แต่ก็เอ๊ะ บางทีไม่ได้คุย ไม่ได้พูดถึงเลย แค่เปิดเว็บอ่านข้อมุล ค้นหาข้อมูล หรือแอพเล่นเกม ดูสินค้า ดูรีวิวของ หรือแค่เปิดแอพธนาคาร เปิดแอพเทรดหุ้น อยู่ๆ Facebook ก็แสดงโฆษณาสินค้าแบบเดียวกับ หรือที่เกียวข้องกันเฉยเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้น เราโดนแบบส่อง จ้องยิงโฆษณาโดยไม่รู้ตัวได้ยังไง ทั้งๆ ที่ปิดไมโครโฟน ปิดการดักฟังไปแล้ว เราไปดูวิธีป้องกันกันครับ ?

    ?? Facebook ดักฟัง ป้องกันได้ใน 5 วินาที ปิดไมโครโฟนง่ายๆ ใน 5 วินาที | สอนใช้ iPhone ง่ายนิดเดียว https://www.youtube.com/watch?v=4LQAm97l2E4

    เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถแตะลิงค์นี้เพื่อดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้เลยครับ วางจำหน่ายในไทยแล้วครับ
    ?? ChoeTech Wireless Charging Stand : http://bit.ly/2OsWPBx

    ?? CHOETECH อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 72W 4 พอร์ต USB C พร้อมพอร์ต 60W Power Delivery : http://bit.ly/2QY36qh

    ?? CHOETECH Dual ที่ชาร์จแบบไร้สาย 5 ขดลวดฟรี QC3.0 Qi Certified Fast แท่นชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย : http://bit.ly/34uNUVQ

    ? iOS 13.3.1 ตัวเต็มมาแล้ว มีอะไรใหม่ อัพเดตดีไหม?
    https://www.youtube.com/watch?v=iC8o7ruNJ1g&list=PLQBBpHI-CU2SzEnZ1s2wGvXFVpgnA2ubq&index=2&t=10s

    ? iOS 13.3 ตัวเต็ม | 27 การเปลี่ยนแปลงใหม่ ใช้เป็นทันที + แก้ปัญหา Line ไม่แจ้งเตือน
    https://www.youtube.com/watch?v=tqRrqIB-Zws&list=PLQBBpHI-CU2QSxsw-oPTy53u3LqMeo_Jh&index=2&t=0s

    ? รุ่นเก่าเราไม่ทิ้ง Apple ปล่อย iOS 12.4.4 มีอะไรใหม่ ต้องอัพเดตไหม?
    https://www.youtube.com/watch?v=tlBeG9nPhHM&list=PLQBBpHI-CU2RUYUt0GoKHTLkNZoCih0qA&index=2&t=0s

    ? iOS 13 วิธีใช้งาน และเทคนิคที่ไม่ควรพลาด
    https://www.youtube.com/playlist?list=PLQBBpHI-CU2RmsgYMn-PPNkL-rgwhLt1o

    ? 31 ฟีเจอร์ใหม่ ใน iOS 13.1 และ iOS 13 ใช้เป็นทันที!
    https://www.youtube.com/watch?v=dl-K54SexUE&list=PLQBBpHI-CU2S8qDwr1iDnu4Erp1pncHG1&index=138&t=0s

    ? 12 วิธีเพิ่มความเร็ว iPhone ทุกรุ่น บน iOS 13 เห็นผลทันที | สอนใช้ iPhone ง่ายนิดเดียว
    https://www.youtube.com/watch?v=Yq74sgf5pdM&list=PLQBBpHI-CU2QSxsw-oPTy53u3LqMeo_Jh&index=7&t=0s

    ? 35 วิธีประหยัดแบตเตอรี่บน iOS 13, iOS 13.1 และ 13.1.1 ขึ้นไป ได้ผลจริง!
    https://www.youtube.com/watch?v=r0ER3C0Cle0&list=PLQBBpHI-CU2RmsgYMn-PPNkL-rgwhLt1o&index=2&t=0s

    ? ติดต่อเรื่องงาน sawadeetutor@gmail.com
    ▶️ กดติดตามได้ที่นี่ครับ (ฟรี) ? https://goo.gl/LnkBtv
    ? Facebook : fb.me/ipophowto
    ? Twitter : https://twitter.com/pophowto
    ? แท็บชุมชนของสอนใช้ง่ายนิดเดียว : http://bit.ly/communityyoutube

    #สอนใช้ง่ายนิดเดียว
    #ป้องกันFacebookแสดงโฆษณา

    ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
    เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจสำหรับ iPhone, iPad และ iPod touch
    ? iOS 13 เครื่องรุ่นไหน อัพเดตได้ ดูได้ที่นี่...ชัวร์ ประกาศเป็นทางการแล้ว
    https://www.youtube.com/watch?v=oEUTLcfcTfU&list=PLQBBpHI-CU2RScraA1tGju1qTsKGi55nC&index=2&t=0s

    ? iOS 13 Dark Mode สวย น่าใช้มาก แถมประหยัดแบตเตอรี่ ต้องใช้! | สอนใช้ง่ายนิดเดียว
    https://www.youtube.com/watch?v=_DljCvzQ-Xw&list=PLQBBpHI-CU2RmsgYMn-PPNkL-rgwhLt1o&index=18&t=0s

    ? เพิ่ม FaceID ปลดล็อคด้วยใบหน้าบน iPhone 5s, 6, 6 Plus, 7, 7 Plus, 8 และ iPhone 8 Plus ง่าย ดี ฟรี
    https://www.youtube.com/watch?v=hcfq8TXAcmY&list=PLQBBpHI-CU2ReSXZ8Ykb1_x1IKkG1pyqD&index=2&t=0s

    ? ลืมรหัสผ่าน Apple ID ของ iPhone และ iPad รีเซ็ตตั้งใหม่ได้ใน 1 นาที! : https://youtu.be/KKjZ3QQPTbI

    ? [2019] วิธีแก้ล็อค ปลดล็อค iPhone / iPad ติดรหัสผ่าน ง่ายๆ ทำเองได้ ไม่เสียตังค์ : https://youtu.be/5gFO-8Q9k6M

    ? 4 วิธีชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ให้เร็วขึ้น แบตเต็มไว ทำเองได้ง่ายๆ :
    https://www.youtube.com/watch?v=tS2Hh9V6orE&list=PLQBBpHI-CU2QljZApcbKwlWsX89x_9KJ0&index=10&t=0s

  • ค้นหาข้อมูล 在 Chickypie Youtube 的最讚貼文

    2018-10-26 12:53:14

    ติดตาม จับ คนใส่หน้ากาก
    วันนี้พวกเราทั้ง 3 คน ติดตามคนใส่หน้ากาก เพื่อนกับฮาน่ารู้เบาะแสเพิ่ม และดร.เจฟก็ปรากฏตัวกับพวกคนใส่หน้ากาก ดร.เจฟ หรือเปล่าที่เป็นหัวหน้าคนใส่หน้ากาก ติดตามและดูวีดีโอนี้ด้วยกันเลย และทุกคนคิดอย่างไรทิ้งคอมเม้นต์บอกพวกเราด้วยนะคะ

    ??? ติดตามช่องชิคกี้พาย ►https://goo.gl/9H6WMn

    ⭐ คนใส่หน้ากาก ►https://www.youtube.com/watch?v=Y0vJLCrLiso&list=PL7e8vkcldoTUpWrLDU3qMGZRguJxxBmgp


    ? My Other Videos ?
    ⭐ เจอห้องทดลองของคนใส่หน้ากาก l ไม่อยากเชื่อว่าจะเจอสิ่งนี้ ►https://youtu.be/b_GUmrpCApI
    ⭐ ชิคกี้พายถูกล็อคในบ้านคนใส่หน้ากาก I จะโดนจับไหม? ►https://youtu.be/9E4aGe2e4LQ
    ⭐ เจอแล้ว!! บ้านคนใส่หน้ากาก I ชิคกี้พายได้เบาะแสใหม่ ►https://youtu.be/cTv1kZKJPRc
    ⭐ชิคกี้พายเป็นหัวหน้าคนใส่หน้ากาก? (จับผิดชิคกี้พายด้วยเครื่องจับผิด&ได้เบาะแสใหม่) ►https://youtu.be/vevSdvElXLk



    SOCIAL
    ? FACEBOOK → @ChickypieOfficial (https://facebook.com/ChickypieOfficial)
    ? INSTAGRAM → @ChickypieOfficial (https://instagram.com/ChickypieOfficial)
    ? TWITTER → @iChickypie (https://twitter.com/iChickyPie)
    ? WWW → http://www.chickypie.com
    ? Contact → info@chickypie.com


    ?? FAN MAIL INFO ??
    ชิคกี้พา
    ยตู้ไปรษณีย์ เลขที่ 64
    32 หมู่ 1 ตำบล ริมใต้
    อำเภอ แม่ริม จังหวัด เชียงใหม่
    50180


    รักทุกคนนะคะ
    I LOVE YOU!!


    #chickypie #ชิคกี้พาย #โซล่า #เพื่อน #คนใส่หน้ากาก

  • ค้นหาข้อมูล 在 Chickypie Youtube 的最佳貼文

    2018-10-25 12:43:25

    ทุกคนหลังจากที่ชิคกี้พายได้แยกย้ายกับฮาน่า เพื่อน ที่บ้านคนใส่หน้ากาก ขิคกี้พายได้ติดตามคนใส่หน้ากาก และเจอห้องทดลองของพวกเขา สิ่งที่ชิคกี้พายเจอ ไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมต้องเป็นสิ่งของพวกนี้ พวกเขาต้องการอะไรกัน? แล้วดร.เจฟเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ? ดูกันในวีดีโอนี้เลยค่ะ และหากทุกคนสงสัย หรือ มีความคิดเห็นอย่สงไรทิ้งคอมเม้นต์ใต้คลิปวีดีโอนี้นะคะ


    ◉ ติดตามช่องชิคกี้พาย ►https://goo.gl/9H6WMn

    ? คนใส่หน้ากาก ►https://www.youtube.com/watch?v=Y0vJLCrLiso&list=PL7e8vkcldoTUpWrLDU3qMGZRguJxxBmgp


    ??? My Other Videos ???
    ⭐ ชิคกี้พายถูกล็อคในบ้านคนใส่หน้ากาก I จะโดนจับไหม? ►https://youtu.be/9E4aGe2e4LQ
    ⭐ เจอแล้ว!! บ้านคนใส่หน้ากาก I ชิคกี้พายได้เบาะแสใหม่ ►https://youtu.be/cTv1kZKJPRc
    ⭐ชิคกี้พายเป็นหัวหน้าคนใส่หน้ากาก? (จับผิดชิคกี้พายด้วยเครื่องจับผิด&ได้เบาะแสใหม่) ►https://youtu.be/vevSdvElXLk
    ⭐ หรือว่าเพื่อนจะเป็นคนใส่หน้ากาก? (จับผิดเพื่อนด้วยเครื่องจับผิด&ได้เบาะแสใหม่) ►https://youtu.be/bPnp5IljHb0


    SOCIAL
    ? FACEBOOK → @ChickypieOfficial (https://facebook.com/ChickypieOfficial)
    ? INSTAGRAM → @ChickypieOfficial (https://instagram.com/ChickypieOfficial)
    ? TWITTER → @iChickypie (https://twitter.com/iChickyPie)
    ? WWW → http://www.chickypie.com
    ? Contact → info@chickypie.com


    ?? FAN MAIL INFO ??
    ชิคกี้พา
    ยตู้ไปรษณีย์ เลขที่ 64
    32 หมู่ 1 ตำบล ริมใต้
    อำเภอ แม่ริม จังหวัด เชียงใหม่
    50180

    Thank you to The Castle Chiang Mai ►https://goo.gl/8j2saa


    รักทุกคนนะคะ
    I LOVE YOU!!

    #chickypie #ชิคกี้พาย #โซล่า #เพื่อน #คนใส่หน้ากาก

你可能也想看看

搜尋相關網站