หมุ่บ้านแห่งฝัน CESKY KRUMLOV

ตอนเด็กๆเคยฝันถึงเมืองในจินตนาการกันบ้างไหม? เมืองเล็กๆสงบสุขที่แสนสวยงาม มีแม่น้ำล้อมรอบ อากาศดีสีสันเมืองสวยงาม และมีปราสาทสูงตั้งกลางเมืองอย่างเด่นเป็นสง่า ฟังแล้วเหมือนอาจจะเพ้อฝัน แต่เมืองที่มีคุณสมบัติดังกล่าวอย่างครบถ้วยคือ เชสกี้ครุมลอฟ นั่นเอง

เชสกี้ครุมลอฟ เป็นเมืองเล็กๆในภูมิภาคโบฮิเมียที่อยู่ชายแดนเชก-ออสเตรีย ห่างจากปรากลงมาทางใต้ประมาณ 180 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 14000 คน เมืองน่ารักเมืองนี้แม้จะมีขนาดที่เล็กมากแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบยุคกลางดั้งเดิมอย่างครบถ้วน แทบจะทุกอณูของเมืองทำให้เหมือนนั่งเครื่องย้อนเวลากลับไปยุคกลางแบบไม่มีผิดเพี้ยน อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม

นั่นเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาเยี่ยมชมCesky Krumlov อย่างไม่ขาดสายจนได้รับฉายาว่า Pearl of Renaissance และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย

เมืองเชสกี้ครุมลอฟนั้นเรียกได้ว่ามีขนาดเล็กกระทัดรัดมากเพราะใช้การเดินเท้าสำรวจได้ทั้งเมือง แต่ในความเล็กนั้นก็ได้ซ่อนความน่าสนใจไว้มากมาย ที่เห็นเด่นสุดก็คือ Cesky krumlov Castle ที่เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ2ในเชก รองจาก Pragie Castle เท่าน้น นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวเมืองหลากหลายและผืนป่าธรรมชาติที่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงใบไม้ร่วงอีกด้วย

Chesky Krumlov ได้ถูกขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติขององค์การยูเนสโกในปี 1992

การเดินทางมา Český Krumlov

การเดินทางจาก Prague ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะมีให้เลือกทั้งทางรถไฟและรถบัส แต่ทางรถไฟจะลำบากกว่าเพราะต้องมีการเปลี่ยนเที่ยวรถกลางทาง ฉะนั้น การเดินทางโดยรถบัสจะสะดวกกว่า โดยมีรถบัสให้บริการแทบทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงกลางดึก ทั้งขาไปและกลับจากปราก โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ชั่วโมง ค่าโดยสาร 215 CZK (ประมาณ 300บาท)

ปกติควรทำการจองตั๋วรถบัสล่วงหน้า เพราะจากประสบการณ์ การไปหาตั๋วในเช้าวันเดินทางเลยอาจไม่ได้รอบที่ต้องการ และอาจทำให้กำหนดการท่องเที่ยวมีปัญหาได้ หรือบางทีอาจต้องยืนดดยสาร เพราะในรถคันที่ผมโดยสารไป ระหว่างทางก็มีคนยืนในรถด้วยหลายคน โดยสามารถไปจองที่สถานีก่อนวันเดินทางหรือจองผ่าน Internetก็ได้

ในที่นี้เราแนะนำของ studentagency ก่อน เพราะรถใหม่และบริการดีกว่าเจ้าอื่นๆ เพียงแต่จะเต็มเร็วมาก ต้องทำการจองล่วงหน้าเท่านั้น ก่อนซื้อตั๋วควรตรวจสอบเวลาและวันเดินทางให้เรียบร้อย และที่สำคัญคือดูว่ารถบัสรอบที่เราเดินทางนั้นออกจากสถานีไหน เพราะในปรากจะมีสถานีหลักอยู่2แห่งคือ Na Knížecí และ Florenc มีหลายๆคนที่ไม่ได้ดูสถานีแล้วไปขึ้นรถผิดที่จนต้องตกรถก็มี (แต่รถส่วนใหญ่จะออกจากสถานี Na Knížecí)

การเดินทางไปยัง Na Knížecí นั้นสามารถทำได้โดย นั่ง Metro สาย B มาลงที่สถานี Anděl จากนั้นนั่งรถรางหรือเดินต่อไปยัง Na Knížecí อีกประมาณ 5 – 10 นาที

การเดินทางไปยัง Florenc นั้นสามารถทำได้โดย นั่ง Metro สาย B หรือ C มาลงที่สถานี Florenc จากนั้นเดินต่อไปยัง Bus Terminal อีกประมาณ 5 – 10 นาที

ริมทะเลสุดสวยแห่งอิตาลี AMALFI & POSITANO
วิวสุดปัง อาหารอร่อย ๆ บรรยากาศฟินที่สุดดดดด

พร้อมแผนเที่ยวยังไงให้ฟิน ได้ภาพปังที่สุดด

ภาพชายทะเลงามตาเสมือนภาพในความฝันของใครต่อใครหลาย ๆ คน ภาพที่คิดว่ามีแค่ในรูปวาดหรือความฝัน แต่สำหรับที่นี่ คือความจริงที่อยู่แค่เอื้อมมือเท่านั้นเอง

AMALFI COAST เป็นแนวชายทะเลที่ทอดยาวกว่า 50 กิโลเมตร นับเป็นหนึ่งในแนวหาดริมทะเลที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในยุโรปโดยมีเมืองน้อยใหญ่อยู่ตลอดเส้นทาง ชาวยุโรปโดยเฉพาะคนอิตาลีเองนิยมที่จะมาพักผ่อนกันในช่วงฤดูร้อน ไม่ต่างกันคนไทยที่นิยมไปเที่ยวภูเก็คกัน โดยจุดเด่นที่สุดของเมืองในละแวกนี้คือทำเลที่ตั้งที่มีการสร้างเมืองบนโขดหิน เล็กบ้าง ใหญ่บ้าน สลับกันไปมาตลอดแนวชายฝั่ง ทำให้เกิดภาพเมืองที่สลับซับซ้อน อิงไปกับทะเลสีน้ำเงินเข้มจัด ตัดท้องฟ้าสีครามสดใส เ็นภาพที่ทำให้สดชื่นเ็นที่สุด

แต่ก่อนที่จะสวยงามแบบในปัจจุบัน Amalfi coast ผ่านร้อนหนาวมาอย่างโชกโชน เพราะพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นพื้นที่ยากจนมาก่อน ประชาชนในแถบนี้มีความเป้นอยู่ที่ไม่ค่อยดีนัก บวกกับมีภัยพิบัติบ่อยครั้งทั้งแผ่นดินไป ภูเขาไฟระเบิดและดินถล่ม แต่หลังจากผ่านช่วงแย่ ๆ มาได้ ตั้งแต่ปี 1900 ที่ริเริ่มให้บริเวณนี้เป็นที่ท่องเที่ยว ชีวิตความเป้นอยู่ของคนแถบนี้ก็ดีขึ้นทันตาเห็น จนเป็นเมืองที่มั่ง่งและคึกคักมากที่สุดเมืองหึ่งของอิตาลีอย่างทุกวันนี้

ความงามของชายฝั่ง Amalfi นั้นเตะตาผู้คนทั่วโลก รวมไปถึงองค์กร Unesco จึงได้ทำการขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้ในปี 1997

โดยเมืองสำคัญใน AMALFI COAST ก็ได้แก่ AMALFI และ POSITANO นั่นเอง

การเดินทางมา AMALFI

โดยรถบัส และรถไฟ

จาก NAPLES นั่งรถไฟสาย Circumvesuviana มาลงที่ Sorrento จากนั้นต่อรถบัส SITA ที่อยู่ติดสถานีรถไฟมาที่ AMALFI และเมืองอื่น ๆ ใน AMALFI COAST ได้เลย มีรถออกวันละ 17 รอบ ค่าโดยสาร 4.1 ยูโร

โดยเรือ

ในเดือน เมษายน ถึง ตุลาคม มีเรือให้บริการทุกวันจากหลายบริษัท

ALICOST เดินทางจาก Sorrento มา Amalfi ค่าโดยสาร 8.5 ยูโร
TraVelMar เดินทางระหว่าง Amalfi และ Positano ค่าโดยสาร 8 ยูโร
Coop sant’Andrea เดินทางระหว่าง Amalfi และ Positano ค่าโดยสาร 8 ยูโร

การเดินทางโดยเรือแม้จะมีราคาแพงกว่า แต่โดยรวมแล้วสะดวกและรวดเร็วกว่ารถบัส เพราะไม่ต้องขับไปทางทางเล็ก ๆ เลียบภูเขาแบบรถบัส แถมได้ชมวิวทิวทัศน์จากทะเลด้วย แนะนำให้ไปทางรถบัสและกลับทางเรือ เผื่อสัมผัสทั้งสองบรรยากาศ

ที่พัก

Amalfi Coast Room
Via San Nicola dei Greci 3, 84011 อมาลฟี, อิตาลี
ราคาเริ่มต้น 2,200 บาท / ห้อง

ห้องพักที่บริหารงานกันในครอบครัว ได้บรรยากาศแบบชาวบ้านแท้ ๆ เพราะข้าง ๆ ห้องเป็นชาวอิตาเลี่ยนที่ใช้ชีวิตอยู่จริง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบโลคอล ที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงอาหารเช้าด้วย

มา AMALFI COAST ต้องทำ

1.ถ้ามาถึง AMALFI COAST แล้วอย่าลืมทำสิ่งเหล่านี้ซะล่ะ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะต้องเสียดายอย่างแน่นอน

ชิมหลากผลิตภัณฑ์จากมะนาว ที่นี่มะนาวดังมาก ๆ มีทั้งขนม เครื่องดื่ม ลูกอม สบู่และอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำจากมะนาวให้เลือกซื้อเลือกหา อย่าพลาดที่จะซื้อติดไว้ซักชิ้นล่ะ

2. เสื้อแฟชั่นชายทะเล ที่นี่เป็นเมืองชายทะเลทำให้มีเสื้อรับลมร้อนขายอยู่เยอะมาก และแน่นอนความมีรสนิยมในแบบอิตาลี แฝงไปในดีไซน์ของเสื้อผ้าเหล่านี้ ทำให้เป็นคอเลคชั่นที่น่าซื้อหาจริง ๆ

3.หาร้านอาหารดี ๆ นั่งชิงชมทะเลพร้อมอาหารทะเลเลิศรส เพราะที่นี่เป็นเมืองริมทะเล มีอาหารอิตาเลียนที่มีวัตถุดิบจากทะเลสด ๆ มากมาย ส่วนวิวนั้นเหรอ ? เกินบรรยาย

4. เดินขึ้นไปหาจุดชมวิว เพราะทั้ง POSITANO และ AMALFI มีจุดชมวิวเมืองสวย ๆ ทั้งคู่ เพียงแต่เราต้องเดินซักหน่อย มีบันไดจากในเมืองที่สามารถเดินไปจุดชมิวได้ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที และวิวที่ได้ คุ้มค่าอย่างมาก

5. นั่งเรือชมวิว แน่นอนว่าเราควรหาโอกาสชมวิวจากท้องทะเลดูบ้าง ลองตีตั๋วเรือจาก AMALFI ไป POSITANO ดู ราคาประมาณ 300 บาท แต่วิวที่ได้นั้นเกินราคาไปเยอะเลย

BRUSSELS เมืองเล็กที่มีขนาดความสุขอันยิ่งใหญ่
------------------------------------

ขนาดไม่ได้เป็นตัววัดคุณภาพเสมอไป
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเรานึกถึงการไปเที่ยวยุโรป คนจำนวนมากมักจะนึกไปถึงเมืองใหญ่อย่าง ปารีส ลอนดอน มิวนิค โรม ด้วยขนาดเมืองที่ใหญ่ มีอะไรให้ท่องเที่ยวมากมาย แถมชื่อก็ยังคุ้นหูคุ้นเคยกว่าเมืองอื่น ๆ
แต่ท่ามกลางการแข่งขันโปรโมทการท่องเที่ยวของเมืองใหญ่เหล่านี้

Brussels เมืองหลวงของเบลเยี่ยม ประเทศที่มีขนาดไม่ถึง 1 ใน 10 ของฝรั่งเศส กลับผงาดขึ้นมาต่อกรกับเมืองใหญ่ ๆ ชื่อดังได้อย่างสมภาคภูมิ
วันนี้เราจะพาไปชม Brussels เมืองที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่ที่จริงแล้ว มีอะไร ๆ มากกว่าเราคิดมากมาย
------------------------------------
บรัซเซลส์ ( Brussels) เป็นเมืองหลวงที่อยู่ตรงกลางของประเทศเบลเยี่ยม มีชื่อเป็นทางการว่า Région de Bruxelles-Capitale นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของประเทศแล้วยังเป็นเมืองหลวงของสหภาพยุโรป (EU) อย่างไม่เป็นทางการอีกด้วย โดยเขตเมืองบรัซเซลส์แบ่งเป็นเขตย่อยๆ 19 เขต พื้นที่ 161 ตร กม และมีประชากรประมาณ 1,200,000 คน โดยประเทศเบลเยี่ยมนี้ แบ่งพื้นที่เป็น 2เขตตามภาษาที่ใช้ โดยทางเหนือเป็นเขตของชาวเฟลมิช ที่พูดภาษาดัช และทางใต้ของชาววัลลูนใช้ภาษาฝรั่งเศส โดยตัวเมืองบรัสเซลส์นั้นตั้งอยู่ในเขคทางเหนือ แต่มีการใช้ภาษาทั้งสองภาษา โดยสังเกตได้จากป้ายต่างๆภายในเมืองนั่นเอง

------------------------------------
การเดินทางไปเบลเยี่ยม
------------------------------------
จากไทยมีหลายสายการบินที่ต่อเครื่องไปที่ Brussels ได้เช่น Emirates , Etihad , KLM แต่ถ้าจะบินตรงก็ต้องการบินไทย โดยสามารถตรวจสอบวันและเวลาบินได้ตามเวปไซท์ของแต่ละสายการบิน

------------------------------------
การเดินทางภายในเมือง
------------------------------------
สนามบินประจำเมืองคือ Brussels airport อยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว 20กิโลเมตร สามารถนั่งรถไฟ airport city express เข้าเมืองได้ ใช้เวลา 16 นาที ราคา 8.6 ยูโร หรือรถบัสสาย 12 ใช้เวลาราว 30นาที ค่าโดยสาร 4.5 ยูโร
Metro
ระบบรถไฟใต้ดินเป็นระบบการเดินทางที่สะดวกสบายมากที่สุดในเมือง รถไฟใต้ดินมีทั้งหมด 4สาย โดยรถจะวิ่งทุกๆ 3-10 นาที โดยรถใต้ดินนั้นครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดในเมือง โดยมาตั๋วเหมาจ่ายคือBRUSSELS CARD

รถตู้ ค่าโดยสาร 80 บาทจากสนามบินบุรีรัมย์ท่าอากาศยานบุรีรัมย์มาที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ จุด เริ่มต้นอีกฝั่งอยู่ที่บขส เป็นวิธีการเดินทางเข้าเมืองที่ประหยัดที่สุดครับสำหรับผู้โดยสารที่มาคนเดียว ตารางเดินรถอาจจะไม่ตรงกันกับป้ายที่ติด ให้โทรสอบถามตามเบอร์ ที่ถ่ายเอาไว้ครับ #รถตู้ #บุรีรัมย์

ถ้าชมเมืองอุบลราชธานีในเขตอำเภอเมืองขึ้นรถที่แถวถนนชยางกูรซอยมอเตอร์ไบค์ไปที่สนามบินอุบล​ ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายครับแต่เหมือนรถเมล์เส้นทางพิเศษจากบขสไปท่าอากาศยานอุบลราชธานี

รถแอร์พอร์ตบัสราคา 20 บาทครับสนามบินอุบลวิ่งจากท่าอากาศยานอุบลไปทุ่งศรีเมืองผ่านกิโล 10 ถนนชยางกูรโลตัสสุนีย์ไปบขสอุบลราชธานี