#หยกลายเมฆ เนื้องามและแข็งแกร่ง พร้อมกลับคืนสู่อ้อมกอดแดนมังกร​
ช่อง3 นำละครโรแมนติกดราม่าครบเครื่องเรื่อง “หยกลายเมฆ” กลับมาออกอากาศสร้างความประทับใจกันอีกครั้ง นับเป็นละครที่รวมเอานักแสดงยอดนิยมชื่อดังมาอยู่ร่วมกันมากที่สุด กับเรื่องราวความรักอันขมขื่นในอดีตของผู้เป็นพ่อแม่ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ดินแดนมังกรของรุ่นลูก ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงถิ่นฐานที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีทางธุรกิจ ความริษยา และมนต์ขลังของความรัก โชคชะตากำลังนำพาให้ลูกสาวได้พบกับพ่อและได้พบกับบทบาทใหม่ในชีวิต
“หยกลายเมฆ” นับเป็นละครน้ำดีที่ได้รับความนิยมสูงในปี 2552 และจัดว่าเป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซอีกเรื่องหนึ่งของค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ที่บินไปถ่ายทำถึงต่างประเทศ และยังเป็นการรวมตัวของเหล่านักแสดงแม่เหล็กคุณภาพคับจอตั้งแต่คู่พระนาง “เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร”(สกุลเดิม เทียนโพธิ์สุวรรณ์) ประกบกับ “โอม อัชชา นามปาน” ทั้งคู่เคมีพุ่งแรงมีเสน่ห์จนสะกดคนดูให้หยุดอยู่หน้าจอ ประกอบด้วยเหล่านักแสดงรุ่นใหญ่ที่ฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้อย่างเข้มข้น อาทิ “หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา” “ปิ๊บ รวิชญ์ เทิดวงส์” “น้ำผึ้ง ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” และนางเอกตลอดกาล “ติ๊ก กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ” ร่วมด้วย “เดี่ยว สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล” “ต๊ะ วริษฐ์ ทิพโกมุท” “กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์” “เนย โชติกา วงศ์วิลาศ” “ซาร่า เล็กจ์” “ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา” และนักแสดงรุ่นเล็กร่วมแสดงอีกมากมาย รวมถึงสถานที่ถ่ายทำมีทั้งเมืองไทยและฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวช้อปปิ้งในดวงใจของคนไทย ทั้งหมดถูกร้อยเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจการค้าอัญมณี มีการแข่งขันออกแบบจิวเวลรี่ การต่อสู้แย่งชิงความรักและธุรกิจ อีกทั้งวิวทิวทัศน์ในแต่ละสถานที่ก็สวยงาม จนทำให้ถูกกล่าวล้อเลียนจากบรรดาแฟนละครในโซเชียลมีเดียเวลานั้นว่า เหมือนเป็นละครส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย (Hong Kong) และส่งเสริมการส่งออกอัญมณีไทย ซึ่งทำให้ “หยกลายเมฆ” กลายเป็นละครลูกครึ่งไทยจีนที่มีเสน่ห์น่าติดตาม ส่วนเนื้อเรื่องก็เข้มข้นเพราะตามอิจฉากันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนมาถึงรุ่นลูกก็ยังต้องต่อสู้ทั้งความรักและธุรกิจกันต่อไป
มาร่วมลุ้นไปกับความรักของหญิงสาวนักเรียนนอก ทริยา หรือ แคท และ พอล นักออกแบบจิวเวลรี่หนุ่มชาวฮ่องกง กับรักที่ต้องช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรค และนำหยกฉลุลายสีเขียวเนื้องามตัวแทนความรักที่ทรงอนุภาพของพ่อกับแม่กลับมาประกบกันอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
cr. @tvmagazinetvdrama

[News] เล่นเป็นนักสืบเอกชนในโลกไซเบอร์พังก์ไปกับ Gamedec เปิดให้โหลดเดโมทดลองเล่นฟรีแล้วบน Steam
.
ในตอนนี้ Gamedec เกม RPG ที่คุณจะได้เล่นเป็นนักสืบเอกชนในโลกไซเบอร์พังก์ ก็ได้เปิดให้โหลดเดโมทดลองเล่นฟรีแล้ว บน Steam สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปโหลดมาเล่นอย่างเมามันได้ที่นี่
.
https://store.steampowered.com/app/917720/Gamedec/
กด ดาวน์โหลด ตรง Gamedec Demo
.
Gamedec คือเกม RPG มุมมองไอโซเมตริกแบบเล่นคนเดียวในโลกไซเบอร์พังก์ที่คุณคือนักสืบที่รับหน้าที่ไขปริศนาคดีอาชญากรรมในโลกเสมือน และจะต้องใช้ความฉลาดในการหาข้อมูลจากปากคำพยานและผู้ต้องสงสัย ชิงไหวพริบลับลวงพราง ช่วยเหลือผู้คน และได้พบเจอความสัมพันธ์อันประหลาดระหว่างโลกเสมือนและผู้คนที่ใช้ชีวิตในนั้น ซึ่งเกมจะดำเนินไปตามการตัดสินใจของคุณ โดยไม่ตัดสินว่าอะไรถูกหรือผิด และตัวคุณเองจะเป็นบทสรุปของสิ่งที่คุณตัดสินใจทำลงไป
.
นี่คือ Warsaw City ในศตวรรษที่ 22 ที่เทคโนโลยีอันก้าวหน้าทำให้ความจริงที่สอดคล้องกับชีวิตและความตายมีหลากหลายความหมาย และโลกเสมือนทำให้ธรรมชาติของมนุษย์กลายเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งความใคร่ ความคร้าน ความริษยา และความยโสโอหัง และผู้คนในโลกเสมือนนี้ จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า Gamedec นักสืบเอกชนที่มีประสบการณ์ในโลกเสมือน ที่ทำงานเพื่อค้นหาความลับและกลไกที่ซ่อนในความจริงเหล่านั้นเพื่อแลกกับเงิน และคุณก็คือ Gamedec คนหนึ่งในโลกแห่งนี้
.
Gamedec จะจำลองแนวทางการเล่นแบบ Tabletop RPG ที่เน้นการพัฒนาตัวละครผ่านทางการตัดสินใจต่างๆ และจะให้อิสระในการแก้ไขแต่ละสถานการณ์จากในหลายๆ แง่มุม มากกว่าที่จะบีบให้ผู้เล่นต้องแก้ไขปัญหาได้ทางเดียว ในเกมนี้ทางเลือกเป็นของคุณ และเป็นของคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
.
Gamedec มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการบน Steam ในวันที่ 16 ก.ย. นี้ บน Steam
-------------------------------
GGKeyStore.com ร้านขาย Steam Wallet, เกม Steam, Xbox Pass, PSN ไทย, ไอดีเกมมือถือ, Pokemon TCGO ราคาถูก รับของทันที
-------------------------------
Humble Choice ประจำเดือน ก.ค. จ่าย $12 ประมาณ 370 บาท รับสตีมคีย์ Yakuza 3 Remastered, The Surge 2, DiRT 5, Bee Simulator และอื่นๆ ดูที่นี่ - https://bit.ly/3pZKtBe

ความริษยาที่เกิดในใจเป็นต้นเหตุแห่งหายนะทั้งปวง🙏🏻

"ความริษยา"

" .. ความริษยานั้นจะเกิดได้ด้วยความรู้สึกไม่ดีต่อผู้ใดผู้หนึ่ง "ไม่ใช่ความเกลียด แต่เป็นความรู้สึกว่า ผู้ใดผู้หนึ่งนั้นมีดีกว่าตน เป็นที่สนใจมากกว่าตน ผู้ใหญ่ให้ความสำคัญมาก จนน่ากลัวว่าจะเกินหน้าตน" หรือไม่ก็ "เป็นความรู้สึก ทำนองหมั่นไส้ใครคนใดคนหนึ่งนั้น" ความรู้สึกทำนองดังกล่าว "ที่แท้จริงคือความริษยาที่จะพาให้โลกฉิบหาย" มากน้อยหนักเบาเพียงไร ขึ้นอยู่กับความแรงความอ่อนของความรู้สึกริษยาที่ก็คือความอิจฉาที่รุนแรงนั่นเอง

"บางคนไม่ใช่ผู้มีความริษยา" ที่จะเป็นเหตุแห่งความฉิบหาย "แต่อาจเป็นผู้ร่วมมือกับผู้มีความริษยา คือทั้งที่ความริษยาไม่ได้เกิดในใจตน แต่หลงร่วมก่อทุกข์โทษภัยกับผู้มีความริษยาได้ ด้วยการได้ยินได้ฟังวาจาของผู้มีความริษยา ที่กล่าวร้ายผู้ถูกริษยานานาประการ แล้วหลงเชื่อว่าเป็นความจริง" พลอยเห็นด้วยกับความไม่ดีไม่งามของผู้ถูกริษยา

เห็นสมควรที่จะมีส่วนช่วยให้เป็นที่ปรากฏความไม่ดีแก่โลก เพื่อช่วยคนทั้งหลายในโลกให้ห่างไกลจากความไม่ดีของคนคนหนึ่งนั้น "แม้คนคนหนึ่งนั้นมีความไม่ดีจริง ย่อมไม่ถูกริษยา ย่อมไม่มีผู้ริษยา ที่จะมุ่งให้โลกรู้เพื่อเข้าร่วมในการกีดกัน ในการทำลาย" ไม่ให้คนคนนั้นอยู่อย่างได้ดีมีความสงบสุข

"ดังนั้นควรมีสติใช้ความพิจารณาอย่างรอบคอบ" อย่าตกเป็นผู้ร่วมมือกับผู้หนึ่งผู้ใด "ที่มีใจริษยา ปรารถนาสร้างความเสื่อมเสีย ให้แก่ผู้ใดผู้หนึ่งที่มีฐานะน่าริษยาอย่างยิ่ง ในความรู้สึกของผู้ที่ความริษยาเกิดและเกิดอย่างรุนแรง" พอจะนำให้คิด ให้พูด ให้ทำ "ให้ผู้ที่ถูกริษยาให้กลายเป็นคนไม่ดี ไม่เป็นที่ควรเชื่อถือของคนดี" มีชื่อเสียงเกียรติยศ ที่จะสามารถทำลายผู้ที่เป็นคนดี ให้กลายเป็นคนไม่ดี ในสายตาของผู้ได้ยินได้ฟังคำบอกเล่าของผู้ริษยา

"อาจจะโดยตรงจากวาจาของผู้ริษยานั้น หรืออาจจะมีการฟังต่อ ๆ กันมา ด้วยความเชื่อ โดยปราศจากความเคลือบแคลงสงสัยว่า เป็นความจริงหรือเป็นความไม่จริงเพียงไร" ผลร้ายที่จะเกิดตามความเชื่ออย่างไม่เคลือบแคลงสงสัยเช่นนี้ แม้ผิดก็จะเกิดโทษ มากน้อยหนักเบาเพียงใดก็ได้ แล้วแต่กรณี .. "

แสงส่องใจ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๐
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙