[爆卦]คลอรีน ไล่ งู是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇คลอรีน ไล่ งู鄉民發文沒有被收入到精華區:在คลอรีน ไล่ งู這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 คลอรีน產品中有19篇Facebook貼文,粉絲數超過0的網紅,也在其Facebook貼文中提到, ไหนๆต้องอยู่บ้านอีกนาน มาหาไอเท็มดีๆใช้ในบ้านกันเถอะ!! . นี่ก็กำลังจะถึงเซลส์ 9.9 แล้ว กดของดีใส่ตะกร้า เก็บโค้ตส่วนลดสะสม และเช็กโปรบัตรต่างๆกันหรือย...

 同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅Healthy Natural นานา สมุนไพร,也在其Youtube影片中提到,ลองเลย....เมล็ดเจียและข้าวโอ๊ตจะช่วยในการลดไขมันหน้าท้องของคุณได้เป็นอย่างดี พวกเราทุกคนรู้ดีว่า อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญของวันเป็นอย่างยิ่ง และ...

คลอรีน 在 Worajan Sangngern Instagram 的最佳解答

2021-09-15 16:25:49

ไหนๆต้องอยู่บ้านอีกนาน มาหาไอเท็มดีๆใช้ในบ้านกันเถอะ!! . นี่ก็กำลังจะถึงเซลส์ 9.9 แล้ว กดของดีใส่ตะกร้า เก็บโค้ตส่วนลดสะสม และเช็กโปรบัตรต่างๆกันหรือย...

คลอรีน 在 Daraneenute Pasutanavin Instagram 的最讚貼文

2020-05-02 23:59:07

การดูแลสระว่ายน้ำเองนี่มันหน่วงแท้....บอบบาง อ่อนไหว วันก่อนทาสีหลังคาก็ฝนตกใส่ สีทั้งหลังคาตกลงมาปนกับน้ำในสระ😅 รอจนทาสีหลังคาเสร็จ เตรียมล้างสระไว้ ...

คลอรีน 在 Taya Rogers Instagram 的最佳貼文

2020-05-02 14:27:10

Before our wedding, Mika and I went to get hair treatments done with the Shiseido salon to make sure our hair was in better health before we promised ...

  • คลอรีน 在 Facebook 的最佳解答

    2021-09-07 22:49:00
    有 3,380 人按讚

    ไหนๆต้องอยู่บ้านอีกนาน มาหาไอเท็มดีๆใช้ในบ้านกันเถอะ!!
    .
    นี่ก็กำลังจะถึงเซลส์ 9.9 แล้ว กดของดีใส่ตะกร้า เก็บโค้ตส่วนลดสะสม และเช็กโปรบัตรต่างๆกันหรือยัง เราก็วอร์มนิ้วรอตั้งแต่ตอนนี้ละล่ะ ฮ่า
    .
    💦สำหรับคนที่หาเครื่องกรองน้ำขนาดกะทัดรัดใช้สะดวก ลองดูนี่เลย! เพิ่มความสะอาดมั่นใจให้น้ำที่เราใช้ในบ้าน
    .
    Philips Water Purifier on Tap AWP3751/97
    💧ต่อเข้ากับหัวก็อกน้ำที่บ้านได้เลย ไส้กรองชาโคล 4 ชั้น
    💧น้ำกรองกับน้ำธรรมดาออกคนละช่อง หายห่วงเรื่องสารตกค้างเวลาใช้น้ำธรรมดา
    💧กรองน้ำได้ถึง 1500L. (ประมาณ 5 เดือน) กรองอนุภาคที่เล็กได้ 0.1 ไมครอน ลดความขุ่นของน้ำได้ถึง 99.99%
    💧ช่วยลดสารตะกั่วที่ละลายน้ำได้ *, คลอรีน, สารกำจัดศัตรูพืช ช่วยกำจัดสิ่งปรกที่อาจปนเปื้อนในน้ำได้ 99%
    .
    ราคาเต็ม 2,690 บาท แต่เซลส์ 9.9 นี้ที่ Lazada
    ‼️ราคาพิเศษสุดๆ 1,?79 บาทเท่านั้น‼️ คุ้มสุดๆ เริ่มราคาพิเศษนี้ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 9 ก.ย.ถึง 11 ก.ย.นี้จ้าาา
    .
    📍กดใส่ตะกร้าได้ที่นี่เลย https://c.lazada.co.th/t/c.bVdkRv?url=https://www.lazada.co.th/products/i2064324945.html
    .
    ยุคนี้จะซื้ออะไรต้องให้คุ้มที่สุด ทุกร้านเค้ารวมตัวลดกันขนาดนี้ อะไรจำเป็นต้องใช้ ของมันต้องมี ก็รีบตุนกันเถอะ!!
    .
    #ReikowsLazada #LazadaTh #PhilipsWaterPurifier #PhilipsThailand #เครื่องกรองน้ำ #ลาซาด้า

  • คลอรีน 在 People Persona Facebook 的最佳貼文

    2021-04-24 15:00:49
    有 30 人按讚

    ย้อนกลับไป ในวันที่ 22 เมษายน ในปี 1915 : แก๊สคลอรีนเผยโฉม กับความเลวร้ายของอาวุธเคมี

    หนึ่งในสิ่งที่สงครามแต่ละครั้งเปลี่ยนโลกไปตลอดกาลคือพัฒนาการทางการทหาร อาวุธหลากชนิดถูกจัดสรรมาประชันเพื่อชัยชนะของแต่ละฝ่าย จนเกิดการพัฒนาทางการทหารอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในนั้นคืออาวุธเคมีที่ถูกคิดค้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 นี่เอง เปิดศักราชอาวุธแห่งการฆ่าล้างให้รุนแรงขึ้นกว่าเก่า

    รู้จักคลอรีนก่อนถูกนำไปใช้เป็นอาวุธร้าย

    คลอรีน(Chlorine) เดิมเป็นสารประกอบที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ โดยจะมีลักษณะเป็นแก๊ส คุณสมบัติเด่นคือมีสีเขียวอมเหลืองและกลิ่นฉุน นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางตั้งแต่ในอุตสาหกรรมกระดาษ สี สิ่งทอ น้ำยาทำความสะอาดหลากหลายชนิด ไปจนอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในด้านการฆ่าเชื้อจากวัตถุดิบหรือทำความสะอาดภาชนะที่ใช้งานทั้งหลาย หรือถ้าที่ใช้งานและเกี่ยวข้องอยู่ตอนนี้ น้ำประปาที่เราใช้กันทุกวันนี้ล้วนผ่านการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน ก่อนออกมาเป็นน้ำสำหรับให้เราได้ใช้อุปโภคบริโภค นับเป็นสารที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับการใช้ชีวิต

    แม้จะมีคุณอนันต์แต่โทษของมันร้ายแรงไม่แพ้กัน ด้วยความที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อพื้นเพของมันจึงมีความเป็นพิษสูง ในกรณีได้รับพิษจนเกิดอาการเฉียบพลัน ในปริมาณไม่มากจะเกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองตาและจมูก ไอ สำลัก หายใจลำบาก มากหน่อยก็อาจทำให้เกิดอาการน้ำท่วมปอด ขาดออกซิเจน ทำลายเนื้อเยื่อปอด ไปสู่ระบบหายใจล้มเหลวในเวลาประมาณ 2-3 นาที นี่คือส่วนที่ถูกเล็งเห็นและนำไปพัฒนาเป็นอาวุธในที่สุด

    ก้าวแรกของภัยร้ายแห่งมนุษยชาติ

    ก่อนจะมีการนำคลอรีนไปใช้เป็นอาวุธ ความพยายามในการใช้อาวุธเคมีเคยเกิดขึ้นมาแล้วนั่นคือฝรั่งเศส ในเดือนสิงหาคม 1914 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ระเบิดขึ้นไม่นาน โดยการนำสารประกอบอินทรีย์ที่มีชื่อว่าไซลิล โบรไมด์(Xylyl bromide) อัดไว้ภายในลูกระเบิดขนาด 26 มม. เมื่อทำงานจะก่อให้เกิดแก๊สที่ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อเยื่อบุโพรงจมูก หลอดลม และปอด อีกทั้งส่งผลต่อดวงตา ถูกนำไปใช้ในการบีบพื้นที่ให้ศัตรูต้องออกจากบังเกอร์หรือสนามเพลาะ ในส่วนนี้อานุภาพของแก๊สยังไม่มากหากไม่สูดดมเป็นเวลานาน แต่จะเรียกว่าเป็นบทโหมโรงความเลวร้ายก็คงได้

    จากยาฆ่าเชื้อสู่ต้นตำรับแห่งแก๊สพิษ

    ชาติแรกที่เริ่มนำคลอรีนมาใช้งานเป็นอาวุธอย่างจริงจังคือเยอรมนี โดยบริษัทผลิตสารเคมีชั้นนำร่วมกับผลิตเพื่อใช้ในการสงครามโดยเฉพาะ ภายใต้การกำกับของ ฟริต ฮาเบอร์ ที่ถูกโลกขนานนามให้เป็นบิดาแห่งสงครามเคมี วันแรกที่ถูกใช้คือ 22 เมษายน 1915 ในแนวหน้าแถบเมืองอีปส์(Ypres) เยอรมนีนำมาใช้งานกับแนวรบสนามเพลาะของฝรั่งเศส สร้างความเสียหายให้แนวรบข้าศึกยาวกว่า 7 กิโลเมตร ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 67,000 คน

    และนั่นคือจุดเริ่มต้นความเลวร้าย เยอรมนีได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องทันทีที่มีการนำอาวุธชนิดนี้มาใช้งานในสนามรบแต่ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตมากมาย อย่างที่ปรากฏในบันทึกของนายทหารอังกฤษว่า ในการรบที่ถูกโจมตีด้วยแก๊สคลอรีนมีผู้เสียชีวิตทันที 90 ราย อีก 46 รายเสียชีวิตหลังจากนั้น และคนเจ็บอีก 207 ราย นั่นคือบันทึกที่ได้มาจากแนวรบส่วนเดียว ยังมีอีกมากมายหลายแห่งที่แก๊สนี้ถูกนำไปใช้นับจากนั้น

    แม้มีอาวุธใหม่ชนิดนี้ไม่ได้การันตีชัยชนะเสมอไป ด้วยจำเป็นต้องอาศัยทางลมไม่ให้แก๊สพัดย้อนกลับมาหาผู้ใช้งาน รวมถึงบางครั้งแม้ถูกแก๊สเล่นงานก็สามารถตอบโต้กลับไปได้ อย่างทหารรัสเซียที่ป้อมปราการออสโซเวค แต่ไม่ใช่ทุกครั้งจะทำได้แบบนั้นทำให้ชาติอื่นจำเป็นต้องทำตาม เมื่อมีผู้ริเริ่มหลังทำการประณามพอเป็นพิธีทุกชาติจึงเร่งพัฒนาอาวุธนี้ของตัวเอง อย่างอังกฤษที่พัฒนาแก๊สคลอรีนของพวกเขาอย่าง Red star แต่ด้วยลมที่เปลี่ยนทิศ ประกอบกับหน้ากากกันแก๊สรุ่นแรกไม่มีความทนทานมากนัก ทำให้อาวุธที่คิดมาพิฆาตข้าศึกกลายเป็นหายนะมาสู่ผู้ใช้งานมันเสียเอง

    แก๊สคลอรีนอาจเป็นอาวุธเคมีชนิดแรกที่คิดค้นแต่ไม่ใช่ชนิดสุดท้ายของสงคราม ถัดจากนั้นฟอสจีนถูกคิดค้นและถึงแม้จะไม่ได้ชื่อดังเท่าชนิดอื่น แต่เจ้านี่ก็มีอัตราคร่าชีวิตสูงถึง 85% เมื่อถูกใช้งาน และสร้างผลกระทบในระยะยาวกับผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้ถุงลมที่ปอดถูกทำลายจนทำให้เกิดน้ำท่วมปอดหรือติดเชื้อหลังจากนั้น ตบท้ายด้วยแก๊สมัสตาร์ด ราชาของอาวุธเคมีในยุคนั้น ที่นอกจากทำลายระบบหายใจ ยังทำให้เกิดแผลพุพองเพราะสามารถซึมผ่านเสื้อผ้าและสามารถเกิดได้ทั่วทั้งร่างกาย สร้างความทรมานอันเลวร้ายให้กับเหยื่อ และยังทิ้งสารตกค้างไว้บนดิน น้ำ และอากาศ ปนเปื้อนทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาวอีกด้วย

    หนึ่งในการใช้งานอาวุธเคมีครั้งที่เลวร้ายที่สุดของสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นวันที่ 21 มีนาคม 1918 กองทัพเยอรมันเปิดยุทธการมิคาเอล กับการระดมยิงอาวุธเคมีสาดลงไปแบบปูพรมยาวนานถึงห้าชั่วโมง เป็นผลให้เกิดผู้เสียชีวิตจากการรบครั้งนี้ไปมากกว่า 500,000 ราย และสร้างผู้รับเคราะห์อีกนับล้านที่ต้องทุกข์ทรมานจากผลของอาวุธร้ายชนิดนี้

    สู่ปัจจุบันกับความอำมหิตที่ไม่จบสิ้น

    ปัจจุบันมีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี(Chemical weapon convection)ตั้งแต่ปี 1997 ที่มี 65 ประเทศลงนามเข้าร่วม แต่ไม่มีทีท่าว่าอาวุธชนิดนี้จะหายไป นับแต่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์มนุษยชาติเป็นต้นมา อาวุธเคมีต่างมีส่วนร่วมในสงครามนับจากสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกหลายครั้ง ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ,สงครามเวียดนาม ,สงครามอ่าวเปอร์เซีย ไปจนนำไปใช้ก่อการร้ายในปี 1997 ในรถไฟฟ้าใต้ดินของประเทศญี่ปุ่น หรือยกตัวอย่างที่ใกล้ที่สุดคงต้องเป็นสงครามซีเรีย

    สงครามซีเรียเป็นสงครามกลางเมืองที่เกิดในประเทศซีเรียที่กินเวลายาวนาน ส่งผลกระทบร้ายแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเฉียด 400,000 และสูญหายอีกกว่า 200,000 ราย ยังไม่นับคนอีกหลายล้านที่ต้องอพยพออกจากบ้านเกิดและไม่มีทีท่าจะได้กลับไปส่งผลกระทบไปทั่วยุโรป แน่นอนว่าอาวุธเคมีก็เป็นหนึ่งในนั้น

    แก๊สซารินถูกนำมาใช้งานตั้งแต่สิงหาคมปี 2013 ก่อนเปลี่ยนมาเป็นระเบิดคลอรีนในปี 2014 ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้านการเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยที่อยู่ใต้ดิน อาศัยการรั่วไหลของแก๊สเล็ดรอดเข้าไปคร่าชีวิตคนที่หลบอยู่ด้านใน แค่ปีแรกที่เริ่มใช้ก็มีการโจมตีด้วยแก๊สคลอรีนไปกว่า 24 ครั้ง จนมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 32 ราย และเลวร้ายกว่าคือผู้รอดชีวิตที่ได้รับผลกระทบอีกหลายร้อย ที่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาและทุกข์ทรมานจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปอดนับจากนี้

    แน่นอนว่านี่จะไม่มีทางเป็นครั้งสุดท้ายที่อาวุธชนิดนี้จะถูกหยิบมาใช้งาน ไม่ว่าจะมีข้อห้าม กฎบัตร หรืออนุสัญญาเลิศเลอเพียงไร อาวุธเคมีจะคงอยู่บนโลกและมนุษยชาติต่อจากนี้ไปอีกหลายร้อยปี ตราบที่มันยังมีฤทธิ์คร่าชีวิตมนุษย์ได้ง่ายดายและน่ากลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าสารเคมีที่ถูกสร้างขึ้นมาเหล่านี้เป็นสิ่งผิด หากไม่นับแก๊สมัสตาร์ดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสงครามโดยเฉพาะ สารตัวอื่นล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ประโยชน์กับชีวิตของผู้คน

    ทั้งคลอรีนที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการฆ่าเชื้อให้อุตสาหกรรมทั้งหลายและการประปา ฟอสจีนที่เดิมก็อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตสีย้อมหรือโฟม กระทั่งซารินแก๊สพิษเลื่องชื่อที่สร้างความเสียหายแก่ผู้คน จุดหมายตั้งต้นของเจอร์ฮาร์ด ชเรเดอร์ผู้ค้นพบสารชนิดนี้ แท้จริงเขาแค่ตั้งใจนำมันมาใช้สำหรับการฆ่าแมลงเพื่อหยุดความหิวโหยของมนุษยชาติเท่านั้นเอง

    เห็นได้ชัดว่าสารเหล่านี้เองก็เปรียบเสมือนไฟที่สามารถทำได้ทั้งสร้างชีวิตและทำลายชีวิตไปพร้อมกัน
    ขึ้นอยู่กับผู้ใช้อย่างเราเท่านั้นว่าจะนำมันไปสร้างสรรค์หรือทำลายสิ่งใดบนโลกนี้

    #peoplepersona
    #เขย่งก้าวกระโดด

    ที่มา
    https://www.bbc.com/thai/international-56405029
    https://themomentum.co/syria-chemical-attack/
    https://www.halallifemag.com/chlorine-gas-weapon-syria-civil-war/
    https://www.siamchemi.com/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99/
    https://www.blockdit.com/posts/5ef2c68295d9ef13a534664c
    http://infofile.pcd.go.th/haz/67-Phosgene.pdf?CFID=67464&CFTOKEN=44866816
    https://www.gypzyworld.com/article/view/608

  • คลอรีน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文

    2021-02-01 10:49:00
    有 1,009 人按讚

    คนรวยสุดในโปรตุเกส เริ่มจากธุรกิจจุกไวน์ /โดย ลงทุนแมน
    โปรตุเกสคือประเทศที่นิยมบริโภคไวน์มากที่สุดประเทศหนึ่ง
    ด้วยจำนวนประชากรเพียงแค่ 10 ล้านคน เมื่อเทียบปริมาณการบริโภคไวน์ต่อหัวแล้ว
    ชาวโปรตุเกสบริโภคไวน์มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากชาวฝรั่งเศส

    ไวน์เคียงคู่กับสังคมโปรตุเกสมานานตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน
    และเปรียบเสมือนเลือดที่อยู่ในร่างกายของชาวโปรตุเกส

    ที่สำคัญโปรตุเกสคือประเทศต้นกำเนิดของ “พอร์ตไวน์”
    ซึ่งเป็นไวน์ที่มีแอลกอฮอล์และความหวานมากกว่าไวน์ทั่วไป

    ความผูกพันนำมาสู่ความพิถีพิถันในการเก็บรักษาไวน์
    ด้วยเหตุนี้เอง บริษัท Corticeira Amorim บริษัทผลิตจุกไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    จึงถือกำเนิดที่โปรตุเกส ที่สำคัญก็คือ คนที่รวยที่สุดในโปรตุเกส
    ก็คือทายาทของผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้..

    แล้วเรื่องราวของครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในโปรตุเกสเป็นอย่างไร?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    พอร์ตไวน์เป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโปรตุเกส ใช้องุ่นจากเขตแม่น้ำดูโร
    ซึ่งไหลออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่เมือง Porto เมืองท่าเรืออันดับ 1 ของโปรตุเกส
    และเป็นศูนย์กลางค้าขายไวน์ที่สำคัญ

    ราว 15 กิโลเมตรลงมาทางใต้ของเมือง Porto ในเมือง Mozelos
    บริษัท Corticeira Amorim ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1870
    โดยมีคุณ António Alves de Amorim เป็นผู้ก่อตั้ง

    ด้วยความที่เขาก็เป็นเหมือนชาวโปรตุเกสคนอื่นๆ ที่ชื่นชอบในการดื่มไวน์เป็นชีวิตจิตใจ
    จึงมีความตั้งใจที่จะผลิตจุกไวน์เพื่อเก็บรักษาไวน์ในขวดให้ดีที่สุด

    ตอนนั้น เขาจึงเริ่มต้นจากการเปิดโรงงานเล็กๆ เพื่อผลิตจุกไวน์จากไม้ก๊อก
    โดยในช่วงแรกของการผลิต จุกไวน์ของเขาใช้มือทำทั้งหมด

    คำว่า Corticeira มีความหมายว่า “ไม้ก๊อก” ซึ่งเป็นเปลือกของต้นโอ๊ก
    ไม้ก๊อกดีกว่าไม้ของต้นไม้ชนิดอื่น เนื่องจากมีน้ำหนักเบา อ่อนนุ่ม ทนต่อการเน่าเปื่อย, เปลวไฟ และปลวก
    ซึ่งสามารถกันก๊าซ และของเหลวได้
    จึงเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมทุกประการสำหรับนำมาทำจุกไวน์

    เนื่องด้วยโปรตุเกสเป็นประเทศที่มีป่าต้นโอ๊กมากที่สุดในโลก
    คิดเป็นสัดส่วนถึง 34% ของพื้นที่ป่าต้นโอ๊กทั่วโลก
    จึงทำให้เขาสามารถเข้าถึงวัตถุดิบเพื่อนำไปผลิตจุกไวน์ได้ไม่ยาก

    ด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียดในการผลิต ทำให้ได้จุกไวน์ที่มีคุณภาพ
    และเป็นที่ถูกใจของผู้ผลิตไวน์ในละแวกนั้น

    ความโดดเด่นของจุกไวน์ของเขา คือ สามารถทนต่อความชื้นได้มากถึง 70%
    มีโครงสร้างพิเศษที่ป้องกันก๊าซออกซิเจนในอากาศได้อย่างดีเยี่ยม

    มีการพัฒนาเทคโนโลยี NDtech ซึ่งเป็นจุกไม้ก๊อกธรรมชาติเจ้าแรกของโลก ที่การันตีว่าจะไม่เกิดสาร TCA หรือสาร Trichloroanisole ที่เกิดจากไม้ก๊อกทำปฏิกิริยากับความชื้น คลอรีน และเชื้อรา จนเกิดสารที่มีกลิ่นบูด และมาปนเปื้อนน้ำไวน์ จนทำให้กลิ่นของไวน์ผิดเพี้ยนไป

    จุกไวน์ของ Corticeira Amorim จึงสามารถเก็บรักษารสชาติของไวน์ภายในขวดได้เป็นเวลานาน โดยที่ยังคงกลิ่นเดิม

    ธุรกิจโรงงานผลิตจุกไวน์ของเขาดำเนินเรื่อยมา
    จนมาพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ Americo Amorim ผู้เป็นหลานชายก้าวขึ้นมาบริหารธุรกิจในช่วงทศวรรษ 1950s

    คุณ Americo Amorim ได้ขยายธุรกิจ ต่อยอดจากการผลิตจุกไวน์ไปสู่ธุรกิจอื่น
    ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มต้นโอ๊กเพื่อผลิตไม้, เฟอร์นิเจอร์, พื้นไม้, ผนังไม้ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผลิตจากไม้ก๊อก เพื่อที่จะกระจายผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้หลากหลาย

    หนึ่งในธุรกิจที่มีชื่อเสียงคือ Wicanders พื้นไม้ก๊อกที่มีคุณสมบัติช่วยลดแรงกระแทก และดูดซับเสียงได้มากกว่า 50% จนถูกนำมาใช้ปูพื้นในพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงแรมชื่อดังทั่วโลก

    ผลประกอบการของ Corticeira Amorim
    ปี 2018 รายได้ 28,000 ล้านบาท กำไร 3,000 ล้านบาท
    ปี 2019 รายได้ 28,600 ล้านบาท กำไร 2,900 ล้านบาท

    ปัจจุบันบริษัท Corticeira Amorim มีมูลค่ากว่า 54,000 ล้านบาท
    โดยที่ยอดขาย 70% ยังคงมาจากจุกไวน์
    ซึ่งคุณ Americo Amorim และครอบครัวถือหุ้นเป็นสัดส่วน 60%

    นอกเหนือจากบริษัท Corticeira Amorim แล้ว
    คุณ Americo ยังได้ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย

    ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในธุรกิจน้ำมันและพลังงาน โดยการถือหุ้นของบริษัทพลังงานครบวงจรสัญชาติโปรตุเกสอย่าง Galp Energia โดยถือหุ้นเป็นสัดส่วน 18%
    Banco Unico ธนาคารของประเทศโมซัมบิก ในทวีปแอฟริกา
    และ Tom Ford International แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกสัญชาติอเมริกัน

    คุณ Americo Amorim ได้เสียชีวิตในปี 2017 ด้วยอายุ 82 ปี
    ส่งผลให้ภรรยาของเขา คุณ Maria Fernanda Amorim ได้รับมรดกต่อจากสามี
    และกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโปรตุเกสไปโดยปริยาย

    คุณ Maria Fernanda Amorim และครอบครัว กลายเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในโปรตุเกส ซึ่งทรัพย์สินของเธอและครอบครัวถูกประเมินไว้ถึง 168,600 ล้านบาท

    จากเรื่องนี้เราได้เรียนรู้อะไร?

    การที่เราได้เริ่มต้นทำในสิ่งที่เรารัก จะเป็นการเริ่มต้นที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
    เพราะสิ่งที่เรารัก จะเป็นสิ่งที่เราจะตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ

    อย่างเรื่องราวของ Corticeira Amorim ที่เกิดจากความรักในการดื่มไวน์เหมือนกับชาวโปรตุเกสคนอื่นๆ และมีความตั้งใจที่จะเก็บรักษาไวน์ในขวดให้ดีที่สุด
    จุดนี้เองจึงทำให้เกิดจุกไวน์ที่สามารถเก็บรักษาไวน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการต่อยอดผลิตภัณฑ์ โดยการกระจายผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย
    และขยายการลงทุนไปยังบริษัทอื่น

    ใครจะไปคาดคิดว่าสิ่งเล็กๆ อย่าง “จุกไวน์”
    ก็ทำให้ครอบครัวหนึ่ง กลายเป็นครอบครัวที่รวยที่สุดในประเทศได้
    ไม้แพ้ธุรกิจยักษ์ใหญ่อื่นๆ..

    ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
    บริษัทในเครือ Corticeira Amorim มีพื้นที่ฟาร์มต้นโอ๊กสำหรับผลิตไม้ก๊อกใน 6 ประเทศ
    ขนาดรวมกันมากกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตร
    ซึ่งเป็นขนาดพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับนครราชสีมาทั้งจังหวัด
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References
    -Amorim annual report
    -https://www.forbes.com/sites/tmullen/2018/02/05/why-wine-corks-are-on-the-upswing/?sh=2977f1dd6c5d
    -https://www.amorimcork.co.za/2020/02/03/150-years-a-milestone-for-amorim/
    -https://th.wine-now.asia/blog/history-of-port-wine.html
    https://www.amorimcork.com/en/amorim-universe/
    -https://www.amorim.com/en/business-units/cork-stoppers/
    -https://www.thespruceeats.com/what-is-port-wine-3510911
    -https://data.worldbank.org/country/PT
    -https://www.nationmaster.com/nmx/ranking/wine-consumption-per-capita
    -http://www.worldstopexports.com/top-cork-exporting-countries/
    -https://craft.co/amorim/metrics
    -https://www.forbes.com/sites/angelauyeung/2017/07/17/the-richest-person-in-portugal-cork-billionaire-americo-amorim-dies-at-age-82/?sh=7c52e57317b7

  • คลอรีน 在 Healthy Natural นานา สมุนไพร Youtube 的最佳貼文

    2018-06-11 19:14:21

    ลองเลย....เมล็ดเจียและข้าวโอ๊ตจะช่วยในการลดไขมันหน้าท้องของคุณได้เป็นอย่างดี
    พวกเราทุกคนรู้ดีว่า อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญของวันเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือเหตุผล ที่เราจะต้องมีคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพที่ดี เราจึงนำเสนอเมล็ดเจียและข้าวโอ๊ตที่ให้คุณสมบัติตามที่เราต้องการได้ ซึ่งจะทำให้เรามีพลังงานที่จะใช้ในกิจกรรมทั้งวัน นอกจากนี้มันยังเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในกระเพาะอาหารของเราได้อีกด้วย
    ประโยชน์ของข้าวโอ๊ตและเมล็ดเจีย
    ข้าวโอ๊ต
    ข้าวโอ๊ตถือเป็นสมุนไพร ที่อยู่ในตระกูลธัญพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่ประกอบไปด้วย ไอโอดีน คลอรีน ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม แมงกานีส สังกะสี ทองแดง ไนอาชิน ไบโอติน และวิตามินอีกหลายชนิด ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะรับประทานข้าวโอ๊ตเป็นประจำทุกวัน เพราะมันจะทำให้สุขภาพของเราเข้มแข็งอีกทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ควบคุมน้ำตาลในเลือด เสริมสร้างกระดูกและฟันได้อีกด้วย
    เมล็ดเจีย
    เมล็ดเจียอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 อีกทั้งยังมี แคลเซียม ที่นำไปเป็นผลิตภัณฑ์ในนม ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุง ระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอล และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เมล็ดเจียนี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่มีอาการของโรคไขข้ออักเสบ
    สูตรการทำอาหาร
    ส่วนผสม
    ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
    ผงอบเชย 1 ช้อนชา
    เกลือ 1 หยิบมือ
    วานิลลา 2 ช้อนชา
    น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
    เมล็ดเจีย 4 ช้อนโต๊ะ
    น้ำ 500 มิลลิลิตร
    ขั้นตอนการเตรียม
    นำอบเชย วานิลลาใส่ลงไปในน้ำ และนำไปต้ม พอเดือดแล้วหรี่ไฟลง จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตลงไป ต้มต่ออีกเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นเพิ่มน้ำผึ้ง เกลือ แล้วคนให้เข้ากัน นำไปใส่จานขณะที่มันยังร้อนอยู่ แล้วโรยด้วยเมล็ดเจียและสามารถนำไปรับประทานได้เลย คุณอาจจะเพิ่มผลไม้ไปด้วยก็ได้ อย่างเช่น แอปเปิ้ล กล้วย สตรอเบอร์รี่ เชอร์รี่ และอีกต่างๆ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ไขมันหน้าท้องของคุณลดลงมาได้อย่างแน่นอน
    แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอค่ะ
    เคล็ดลับดีๆแบบนี้ ก็อย่าลืม แชร์ให้เพื่อนๆ หรือคนที่เพื่อนๆรักและ ห่วงใยด้วยคะ..
    เพราะความสุขที่ยิ่งใหญ่ คือการเป็นผู้ให้ ขอให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ร่ำรวยความสุข ถ้วนหน้ากันทุกท่าน ตลอดไปเลยนะคะ..
    อย่าลืม! ถ้าคุณชอบโปรดกด like. ถ้าคุณถูกใจโปรด subscribe! เพื่อเป็นกำลังใจ ให้แก่พวกเราด้วยคะ..ขอบคุณค่า..
    Subscribe to Healthy Natural นานา สมุนไพร
    Youtube : https://goo.gl/urmvNp
    Follow us on Twitter : https://goo.gl/HKZaG4
    Like us on Facebook : https://goo.gl/urmvNp
    Follow us on Google Plus : https://goo.gl/E1ku0J
    Follow us on pinterest : https://goo.gl/TB7RkC

  • คลอรีน 在 My Mesuan Youtube 的精選貼文

    2017-10-08 11:50:20

    ผมคิดว่าเพื่อนๆคงจะได้ความรู้นิดๆหน่อยน่ะครับ สำหรับคลิปนี้ครับ
    ขอบคุณทุกครับ

    ฝากติดน้องสาวผมด้วยน่ะครับ
    https://www.youtube.com/watch?v=ZZswy-s_GKc&t=45s

    ติดตามเพิ่มเติมทางเฟชบุ๊กแฟนเฟจ https://www.facebook.com/MyMesuan/?fref=ts
    ช่องYouTube https://www.youtube.com/channel/UCF4dI07bfrJJ_6sckTqtqjw

    ติดต่องานหรือสปอนเซอร์
    Gmail Mesuansasomwiset@gmail.com

    ที่สำคัญ อย่าลืมกดติดตามและกดกระดิ่งด้วยน่ะครับบบ

  • คลอรีน 在 RAMER Youtube 的精選貼文

    2017-01-28 18:31:01

    ทดลองไนโตรเจนเหลว + น้ำอัดลม และ ไนโตรเจนเหลว + คลอรีน
    ** คลิปนี้ถ่ายทำเมื่อ 13 ม.ค. 2017 - ยังมีการทดลองไนโตรเจนเหลวอีกนะครับ และอย่าลืมดูคลิปลั่นๆป่วนๆนอกสถานที่ของ ละเมอ ด้วยน้าา https://youtu.be/O47oSBEt-aA

    Subscribe อย่าลืมกดติดตาม และกดกระดิ่ง
    " คลิปใหม่มาทุก วันพุธ และ วันเสาร์ "
    เพลย์ลิสต์ Playlist (แนะนำ) https://goo.gl/3ZOglS

    Email Official
    ramer1life@gmail.com

    Follow RAMER ละเมอ
    https://www.facebook.com/ramerlaan
    https://www.instagram.com/ramer.official
    Follow Non นนท์
    https://www.facebook.com/non1life
    https://www.facebook.com/NonOneLife
    https://www.instagram.com/non1life
    https://twitter.com/non1life
    Follow Kong ก้อง
    https://www.facebook.com/anan.phachanapeeda
    https://www.instagram.com/kongtheska
    Follow Eak เอก
    https://www.facebook.com/eak.theska
    https://www.instagram.com/chanathip08
    Follow Yo โย
    https://www.facebook.com/yokudo.slam
    https://www.instagram.com/yokudoelric

你可能也想看看

搜尋相關網站