[爆卦]กลุ่มคน ภาษาอังกฤษ是什麼?優點缺點精華區懶人包

雖然這篇กลุ่มคน ภาษาอังกฤษ鄉民發文沒有被收入到精華區:在กลุ่มคน ภาษาอังกฤษ這個話題中,我們另外找到其它相關的精選爆讚文章

在 กลุ่มคน產品中有14篇Facebook貼文,粉絲數超過86萬的網紅Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing,也在其Facebook貼文中提到, ยิ่งขึ้นราคา ยิ่งขายดี?? เป็นไปได้จริงๆเหรอ??? =============== ตอนที่ผมสร้างคลาส iCLASS34 High Ticket Market แล้วพูดที่หน้าเพจวันแรก ถึงไอเดียทำก...

 同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過18萬的網紅TeTae Rock You,也在其Youtube影片中提到,เสื้อยืดสกรีน จากเพจ กลุ่มคน Loso หัวใจ Loso เพื่อเพื่อน Loso Face Page https://web.facebook.com/TeTaeRockYou Facebook https://www.facebook.com/tetae...

กลุ่มคน 在 Poomjai Tangsanga Instagram 的最佳解答

2020-04-21 04:18:13

ช่วงนี้ออฟฟิศเราแข่งกันลดน้ำหนัก เลยพยายามชวนกันวิ่งหลังเลิกงานทุกเย็น... วันนี้ พี่เลยอยากเขียนถึงความสำคัญของคำว่า”สังคม” รอบข้างตัวเรา... เคยได้ยิน...

กลุ่มคน 在 ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ Instagram 的最佳貼文

2020-05-13 06:00:47

ผู้สร้างผู้ก่อแต่การดี นี่คือชื่อ กลุ่มคน1กลุ่มที่มีจำนวนคนไม่มากเท่าไหร่ รวมตัวการสร้างความสุข สร้างขวัญกำลังใจ สร้างแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ ให้กับพี่น...

กลุ่มคน 在 Mickey ANP Instagram 的最佳貼文

2020-05-10 06:07:53

นั่งนานๆ ทำยังไงดี⁉️ ---------- กล้ามเนื้อก้น ถือว่าเป็น ส่วนที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย จึงสำคัญมากๆ: ✅เช่น ช่วย เวลาเรา ยืดเอว เพื่อ ทำให้ กระดูกเชิงกราน...

  • กลุ่มคน 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最讚貼文

    2021-09-30 09:00:03
    有 801 人按讚

    ยิ่งขึ้นราคา ยิ่งขายดี??

    เป็นไปได้จริงๆเหรอ???

    ===============

    ตอนที่ผมสร้างคลาส iCLASS34
    High Ticket Market
    แล้วพูดที่หน้าเพจวันแรก
    ถึงไอเดียทำการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าPremium

    ไม่ใช่แค่พี่น้องเราที่หน้าเพจ
    แต่คนใกล้ตัวผม
    เพื่อนๆผม
    ก็แทบไม่มีใครเชื่อ

    แต่ละคนบอกว่า...

    “ยิ่งขึ้นราคา ยิ่งขายดีเนี่ยนะ?

    หรือ

    “ไม่ให้ลดราคา แล้วจะขายได้ยังไง?”

    ——————รวมถึงเคสหลายเคสใน1Year
    ที่ผมถ่ายทอดเคสไอเดียนี้ให้กับเค้า
    มาล่วงหน้าแล้ว1-2ปี
    ปัจจุบันมีพี่น้อง140กว่าคนอยู่ในนั้น
    หลายคนเลยที่ไม่เชื่อไอเดียนี้แต่แรก

    แต่บรรยากาศมันเป็นเรื่องที่สำคัญ
    สภาพแวดล้อมมีผลต่อความเชื่อ
    ด้วยความที่
    อยู่ด้วยกันตลอดเวลา

    และแต่ละคนก็เริ่มไม่ลดราคา
    เริ่มขึ้นราคาไปสู่กลุ่ม High ticket
    แล้วขายดีโตเอาๆ
    หลายคนโต 4เท่า
    บางคนโตไปถึง20เท่า

    น้องน้ำที่ทำธุรกิจสักคิ้ว
    ร้าน Bellezza Brows Expert
    ธุรกิจโตไป4เท่า
    ทั้งๆที่ใช้สถานที่ๆเดิม

    CEO เมย์
    เจ้าของรีสอร์ท2หลัง
    บ้านไร่ไออุ่น เพชรบูรณ์
    ไออุ่นรีสอร์ท สระบุรี
    โตธุรกิจรีสอร์ท20เท่า
    ในพื่นที่เดิม

    คุณไก่ที่ทำร้านสูท
    โตธุรกิจหลายเท่าตัว
    จนใกล้จะทะลุ100ล้าน

    และพี่ๆน้องในนั้น
    100กว่าธุรกิจใน1Yearที่โตเพราะ
    การทำ High ticket
    (มีโอกาสจะมาแชร์ให้ฟังวันหลังอีก)

    จนกลายเป็นหลักฐาน
    จนกลายเป็นมาตรฐาน
    กลายเป็นเรื่องปกติ
    ใน1YearCLUB

    —————————คนที่ตามมาหลังๆ
    แรกๆก็ทำใจยาก
    มีคำถามแบบเดียวกันว่า

    “ยิ่งขึ้นราคา ยิ่งขายดีเนี่ยนะ?

    หรือ

    “ไม่ให้ลดราคา แล้วจะขายได้ยังไง?

    เหมือนกับเคสเฮียตี๋ย์
    ที่เค้าทำเต็นท์รถมือ2
    ที่ผมทำคลิปไปก่อนหน้านี้

    ที่เค้าตัดสินใจไม่ลดราคา
    แล้วกลับกลายเป็นขายดี
    ลูกค้าแนะนำบอกต่อ
    หลั่งไหลเข้า
    อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
    เป็นประวัติการณ์ตลอดตั้งแต่ขายรถมา

    =============
    รวมถึง
    ความลับนี่ผมถ่ายทอดให้พี่น้องใน
    iCLASS34 ซึ่งกำลัง ลุยกันอยู่ตอนนี้

    อย่างถ้าพี่น้องเห็นในรูปบทความนี้
    จะมีCommentจากพี่น้อง
    ที่winningday
    แชร์ความสำเร็จกันเวลาเอาเทคนิคไหนไปทำ

    >>>>>

    “เมื่อวันที่ 25/9/21 ผมลองนำไอเดีย In/Up/Max
    มาลองใช้ในธุรกิจ ทั้ง 2 ธุรกิจ
    ในธุรกิจแรก Pitch จากเริ่ม 2.4m
    ใช้ STS อัพไปเรื่อยๆ
    สุดท้ายมาได้ราคา Max ที่ 16.4 ล้าน เฉยเลย
    ตะลึงมาก ไม่นึกว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนี้”

    และอีกข้อความ......

    4 วันที่ผ่านไฟลุกมากๆค่ะอาจารย์
    เรียกได้ว่าคุยกับคนที่บ้านตลอด
    จนคนที่บ้านบอกว่า พักผ่อนก่อนมั้ยยยย !!!
    ต้องบอกเลยว่า หยุดไม่ได้จริงๆ ค่ะ

    “” 4 วันที่ผ่านมากลับไปฟังลูกค้าได้ถูกคนมาค่ะ
    และยอดกลับมาพุ่งอีกแล้ววว 4 แสนไปเล้ยยยค่ะ
    แถมเมื่อกี้ ก่อนเข้าเรียน 20:40 น.
    ปิดดีลไปกับลูกค้าตัวจริงที่ 40K
    ทุกคนต้องอยู่ ต้องจุมตัวกับพี่ๆ
    กลุ่มนี้จริงๆค่ะ แล้วจะไฟลุก
    แล้วจะฟินส์มากๆ แบบบอกไม่ถูกจริงๆค่ะ”””

    <<<<<<<<

    ———————คำถามคือ....

    เราเห็นลัพธ์ตัวเป็นๆแล้ว
    สดๆร้อนจากคนที่ได้ไอเดียนี้

    คำถาม......

    “มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ”

    “ทำไมเป็นแบบนั้น?”

    ทำไมยิ่งแพงยิ่งขายดี?

    ทำไมเราขึ้นราคาแล้วขายได้?

    ทำไมเราไม่ลดราคาแล้ว
    เรายิ่งขายดี?

    ————————ตั้งใจอ่านด้านล่างนะครับ
    วันนี้ผมแชร์จิตวิทยาส่วนนึง2-3มุม
    จาก40-50ไอเดียในคลาสiCLASS34
    High Ticket Market

    สามารถเอาไปใช้กันได้เลย

    Key…..

    1-จิตวิทยาคือ...
    เมื่อเราตัดสินใจไม่ลดราคา หรือขึ้นราคาขึ้นไปอีก

    =เราเลือกที่จะไม่ได้ใช้ราคาเป็นจุดขาย
    =เราไม่ได้กำลังเลือกคนที่สนใจแต่เรื่องราคาถูก
    เข้ามาเป็นลูกค้าเรา

    2.เพราะโดยปกติจะมีจะมีลูกค้า 80%
    ที่สนแต่เรื่องราคาถูกเพียงอย่างเดียว
    แต่.....

    “จะมีลูกค้าถึง20%ที่ตัดสินใจเลือกเพราะ
    คุณค่าอะไรบางอย่าง
    ไม่ได้สนเรื่องราคา”

    3.กลุ่มคน80%มีเงิน20%ของตลาด
    กลุ่มคน20%มีเงิน80%ของตลาด
    =หมายความว่าคนน้อยกว่า
    แต่มีเงินมากกว่ามาก
    (และเค้ายินดีจ่ายเงินด้วยเหตุผลอื่นๆที่ไม่ใช่ราคา)

    4.กลุ่มคน80%ที่สนแต่ราคาถูก
    เวลาบอกต่อคุณ
    เค้าจะบอกต่อว่าร้านนี้ราคาถูก
    (แต่ถ้าวันนั้นมีใครทำถูกกว่าคุณ
    เค้าก็เปลี่ยนไปใช้/ไปชมร้านอื่น)

    5..กลุ่มคน20% ที่สนเรื่องคุณค่า
    ไม่ได้สนเรื่องราคา
    ที่เค้าซื้อเพราะคุณค่าที่คุณมอบให้จริงๆ
    เวลาเค้าบอกต่อ

    “เค้าก็จะบอกต่อคุณค่าที่เค้าได้รับ”
    (เช่นไปร้านนี้เลย บริการดีมาก ใส่ใจจริง
    ไปร้านนี้เลยเจ้าของรู้จริงมากๆ
    ไปซื้อที่นี่ ที่นี้เจ้าของเป็นตัวจริงเรื่องนี้)

    “เค้าบอกต่อคุณ
    เพราะคุณค่าของตัวคุณจริงๆ”

    6.ธุรกิจที่จะโตได้อย่างยั่งยืน
    ไม่ได้มาจากการทำการตลาดไปเรื่อยๆ
    ยิงแอดทุกวัน โฆษณาทุกวัน

    แต่ธุรกิจที่ยั่งยืนจริงๆ

    “โตจากการบอกต่อ ปากต่อปาก”

    ธุรกิจที่ไประดับโลก
    หรือไปได้ไกล
    เค้าทำโฆษณาแค่ระยะนึง
    แล้วหลังจากนั้น
    ลูกค้าเป็นคนทำการตลาดบอกต่อเค้า

    (คุณลองดูรอบตัวคุณ
    ว่าหลายอย่างคุณซื้อเพราะ
    การบอกต่อ)

    7.ถ้าคนบอกต่อเพราะคุณค่า
    คนที่สนคุณค่านั้น
    ก็จะแนะนำบอกต่อ
    คนที่อยากได้คุณค่านั้น
    เข้ามาหาคุณเรื่อยๆ

    มากขึ้นๆๆๆ
    2เป็น4 คน
    4เป็น8คน
    8เป็น16คน
    กลายเป็น1000 10,000
    เทมาหาคุณทวีคูณอย่างรวดเร็ว

    “ธุรกิจคุณก็โตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว”

    8.แต่ถ้าคุณตัดสินใจทำธุรกิจ
    ขายสินค้า
    และบริการ
    ด้วยจุดเด่นที่สุดคือ....

    “ราคาถูกที่สุด”

    คุณก็คงแอบเห็นภาพในหัวใช่ไหม
    ว่าคนก็คงไปบอกต่อคุณว่า

    “ไปซื้อกับคุณสิ
    คุณขายถูกที่สุด”

    แล้วคุณก็เห็นภาพธุรกิจคุณโต
    มากขึ้นๆๆๆ
    2เป็น4
    4เป็น8
    8เป็น16

    กลายเป็น1000 10,000
    เทมาหาคุณทวีคูณอย่างรวดเร็ว?
    ธุรกิจคุณก็โตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว???

    9.Keyที่แท้จริงคือ...

    “ถ้าคุณมีจุดแข็งเดียว”

    “ราคาถูกที่สุด”

    คำถามคือ

    “ถ้าเกิดวันข้างหน้าจะมีเจ้าที่ทำราคา
    ถูกที่สุดเข้ามาแข่งในตลาดคุณล่ะ?”

    คุณเห็นความไม่ยั่งยืนของมันแล้วใช่ไหม?

    ภาพ
    2เป็น4
    4เป็น8
    8เป็น16

    กลายเป็น1000 10,000
    เทมาหาคุณทวีคูณอย่างรวดเร็ว?
    ธุรกิจคุณก็โตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว???

    หายไปกับตาจริงไหม?

    เพราะลูกค้าที่คุณขาย

    เค้าจะแนะนำอะไรคุณให้เพื่อนเค้าอีกล่ะ?
    ในเมื่อคุณไม่ได้ถูกที่สุดแล้ว

    และตัวเค้าเองนั้นแหละ
    ก็อาจจะย้ายไปใช้กับอีกเจ้า

    10.แต่ตรงข้าม.....
    ถ้าเราเลิกคิดว่าเราจะลดราคา
    หรือ
    เราจะขึ้นราคาขึ้นไป

    เหมือนเคสเฮียตี๋ย์ /CEO เมย์ /น้องน้ำ/คุณไก่
    ที่ยกตัวอย่างด้านบน

    ที่ไม่ได้เอาจุดแข็งเรื่องราคามาตั้ง

    11.เค้าจะเริ่มคิดถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจริงๆ

    ได้ทำการบ้านจริงๆ
    มองลึกในตัวเค้าจริงๆ
    ว่าเค้าต้องการอะไร
    แล้วตอบโจทย์
    “ซึ่งเป็นสิ่งที่คนขายควรจะทำอย่างแท้จริง”

    (ผมอยากให้โลกมันเป็นแบบนี้มาก
    เพราะมันทำให้ทุกอย่าง win win win
    คนซื้อได้สิ่งที่ดีที่สุด
    คนขายรวยขึ้นๆคุณภาพชีวิตดีขึ้น
    ก็นำเงินไปลงทุนกับสินค้าและบริการต่อ
    ก็นำของดีมาส่งมอบให้ผู้คนมากขึ้น)

    (เพราะผมเบื่อกับและรำคาญ
    กับการซื่อของไม่ดี ไม่ได้คุณภาพ
    ผมไม่ได้อยากซื้อของถูก
    คนขายไม่ดี ไม่รับผิดชอบ
    เพราะเค้าเองก็ไม่มีกำไรมากพอ
    จะรับผิดชอบหรือพัฒนาอะไรได้
    ผมไม่อยากมาหงุดหงิดเรื่องพวกนี้)

    12.ถ้าคนทำธุรกิจเค้าทำข้อ11
    ก็จะโดนใจลูกค้าจังๆเพราะ
    มันเป็นปัญหาที่แท้จริงของเค้า
    หรือสิ่งที่เค้าต้องการจริงๆ

    13.เมื่อโดนใจ
    เค้าก็บอกต่อคุณค่านั้น
    ออกไปสู่คนอื่นๆ

    และคนอื่นๆที่มาใช้สินค้าหรือบริการ
    ก็บอกต่อแนะนำคุณนั้น

    14.ธุรกิจก็จะโตก้าวกระโดดไวมาก
    และโตอย่างยั่งยืน
    เพราะคนบอกต่อคุณค่าของคุณจริงๆ
    เพราะตัวตนของคุณจริงๆ

    (((และนี่ก็เป็นตัวอย่าง
    เคสพี่น้องใน1Year

    หรือในรูปก็เป็น
    พี่น้องในคลาสiCLASS34
    High Ticket Market
    ที่ลงมือทำจนเห็นผลอย่างรวดเร็ว
    จากการไม่ลดราคา
    (ยังมีwinning dayในนั้นอีก100กว่าข้อความ)
    (จากพี่น้อง200กว่าคนในคลาส)
    ที่เรียนไปได้ครึ่งทาง)))))

    ลุยครับ
    ทุกคน

    “อยากได้ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้”

    และ

    “ได้ใช้เรื่องนี้จริงๆ”

    เพราะนอกจากธุรกิจเรา
    จะโตก้าวกระโดดไวมาก
    และโตอย่างยั่งยืน
    เพราะคนบอกต่อคุณค่าของคุณจริงๆ
    เพราะตัวตนของคุณจริงๆ

    และมันยังทำให้ทุกอย่าง
    “ win win win”
    “คนซื้อได้สิ่งที่ดีที่สุด”
    “คนขายรวยขึ้นๆคุณภาพชีวิตดีขึ้น”
    “ก็นำเงินไปลงทุนกับสินค้าและบริการต่อ”
    ท้ายที่สุด
    “ก็นำของดีมาส่งมอบให้ผู้คนมากขึ้น”

    “ win win win”

    ขึ้นไปอีก

    และทั้งหมดนี่คือเหตุผลของการที่....

    “ยิ่งขึ้นราคา ยิ่งขายดี”

    เช้านี้สวัสดีครับ
    พี่น้องทุกคน

    A10(เอเท็น)

  • กลุ่มคน 在 Facebook 的精選貼文

    2021-07-22 21:00:05
    有 420 人按讚

    คลิปพิเศษจาก อาจารย์หมอ ดร. แพน
    หากมีคำถามอยากถาม
    สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่ลิงค์นี้เลยนะครับ
    https://bit.ly/2TGzNZ8
    กดที่ลิงค์ได้เลยนะครับ

  • กลุ่มคน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文

    2021-05-12 11:00:02
    有 3,056 人按讚

    สรุป ความเหลื่อมล้ำประเทศไทย ในมุมมองเกียรตินาคินภัทร /โดย ลงทุนแมน
    แม้ว่าทั่วโลกโดยรวม ความเหลื่อมล้ำจะมีทิศทางที่ลดลงมาโดยตลอด
    แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย กลับไม่เป็นไปเช่นนั้น

    จากข้อมูลของธนาคารโลกช่วงระหว่างปี 2015 ถึง 2018 พบว่าประชากรไทย
    ที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มจาก 4.9 ล้านคนเป็น 6.7 ล้านคน

    ในขณะที่ปีที่แล้ว ธนาคารโลกก็ได้คาดการณ์ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น
    อีก 1.5 ล้านคน ซึ่งจะกินสัดส่วนเกินกว่า 1 ใน 10 ของประชากรทั้งหมดในประเทศ

    และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP
    ก็ได้ออกรายงาน “เจาะลึกความเหลื่อมล้ำไทย แก้ได้ไหม แก้อย่างไร ?”
    ที่ได้กล่าวถึงสถานการณ์และความท้าทายเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
    พร้อมเสนอกลไกในการลดความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย
    แล้วรายงานฉบับนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
    ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    เรามาเริ่มกัน ความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยอยู่ตรงไหน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก
    ตรงนี้เราสามารถอ้างอิงได้จากดัชนี Gini ที่ใช้วัดการกระจายรายได้ของประชากรในประเทศ

    โดยรวมแล้ว ประเทศไทยจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำระดับกลางค่อนไปทางสูง
    ซึ่งก็จะไม่ได้เหลื่อมล้ำมากเหมือนกับประเทศอินเดียและจีน
    แต่ก็จะไม่ได้น้อยแบบประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป

    ทีนี้ เรามาเริ่มจากมุมมองแรก
    นั่นก็คือ “ความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้”

    รู้หรือไม่ว่ากลุ่มผู้ที่มีเงินเดือนสูงที่สุดในประเทศไทย กำลังมีสัดส่วนที่น้อยลง
    ในขณะที่กลุ่มผู้ที่มีเงินเดือนตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงระดับต่ำ มีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น

    หากดูจากตรงนี้ เราก็อาจจะตีความได้ว่า
    เรากำลังจะมีความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ลดลง

    แต่จริง ๆ ไม่ใช่แบบนั้น เพราะว่าสาเหตุที่กลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย
    มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากนโยบายของภาครัฐ ที่มีการอัดฉีดเงินลงไป และเกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่เข้ามาทำงานในเมืองที่ได้โอนเงินกลับไปยังชนบท

    แม้ความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ในประเทศไทยจะดูดีขึ้น แต่เป็นการดีขึ้นแบบไม่ได้ยั่งยืนในระยะยาว

    ต่อมา เรามาดูกันที่ “ความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่ง”
    ส่วนนี้เป็นการวัดการถือครองสินทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ
    เช่น เงินฝากในธนาคาร หุ้น หรือที่ดิน

    หัวข้อนี้ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรได้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มากในประเทศไทย

    เพราะ Credit Suisse หนึ่งในสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่จากยุโรปได้ประเมินว่า
    กลุ่มคนที่มั่งคั่งที่สุด 10% ของประเทศไทยมีสินทรัพย์มากกว่า 77% ของประชากรทั้งประเทศ

    ในขณะเดียวกัน กลุ่มคน 1% ของประเทศไทย เฉลี่ยแล้วมีทรัพย์สินคนละ 33 ล้านบาท
    ซึ่งต่างกันถึง 2,500 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มคน 20% ที่จนที่สุดในประเทศ..

    นั่นจึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางด้านการถือครองสินทรัพย์สูงที่สุดในโลก โดยสาเหตุสำคัญที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำนับตั้งแต่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1997

    ในขณะที่ ตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวจากช่วงวิกฤติได้ดีกว่าเศรษฐกิจในประเทศ
    นั่นจึงทำให้กลุ่มคนที่มีทรัพย์สินที่อิงมูลค่าจากตลาดหุ้น มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเร็วกว่า

    นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศไทยที่เป็นไปแบบไม่ทั่วถึง
    และกลุ่มคนที่มีรายได้สูงมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่กลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางจนถึงต่ำ
    แทบจะไม่มีการเติบโตเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

    คำถามที่ตามมาก็คือทำไมประเทศไทยยังเหลื่อมล้ำสูง ?

    เราสามารถแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลัก
    1. ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
    2. ปัจจัยภายในที่เกิดจากนโยบายในประเทศ

    มาเริ่มกันที่อะไรที่ประเทศไทยควบคุมไม่ได้ ?
    คำตอบก็คือ “ราคาน้ำมัน”

    ในความเป็นจริงแล้ว ความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยลดลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

    แต่ในปี 2015 ก็ได้เกิดวิกฤติราคาน้ำมัน
    ที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบตกลงจาก 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
    เหลือเพียง 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

    วิกฤติครั้งนั้นส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตรปรับตัวลดลงหนัก
    หลังจากนั้นมา ราคาน้ำมันดิบก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับไปอยู่ในระดับเดิมได้อีกเลย

    ซึ่งภาคการเกษตรถือเป็นหัวใจสำคัญในประเทศของเรา
    เพราะมีสัดส่วนแรงงานอยู่มากถึง 1 ใน 3 ของแรงงานทั้งหมดในประเทศ
    แต่ GDP ที่ถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มคนเหล่านี้ กลับทำได้เพียง 6%

    นอกจากราคาน้ำมันดิบแล้ว อีกส่วนสำคัญก็คือคนไทยยังเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ที่จะช่วยให้ผลผลิตต่อเกษตรกรดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลด้วยเรื่องเงินทุนหรือความรู้ก็ตาม

    แต่เมื่อหลายประเทศทั่วโลกสามารถเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง นั่นก็หมายความว่าราคาสินค้าเกษตรก็จะปรับตัวลดลง

    ผลที่ตามมาคือ ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรที่ปกติรายได้น้อยอยู่แล้ว
    จะยิ่งมีรายได้น้อยลงไปอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    คำถามที่ตามมาก็คือ ถ้าหากไม่ใช่เกษตรกร จะสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้หรือไม่
    เรื่องนี้เราก็ต้องมาย้อนดูตั้งแต่เรื่องของ “โอกาสทางการศึกษา”

    รู้หรือไม่ว่าประเทศไทยมีการใช้จ่ายภาครัฐด้านการศึกษา ที่ใกล้เคียงกับประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่คุณภาพการศึกษากลับวิ่งไปในทางตรงกันข้าม

    ผู้คนที่ร่ำรวยสามารถส่งเสริมให้ลูกเข้าเรียนกวดวิชาและอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
    ในขณะที่ผู้มีรายได้ต่ำไม่สามารถทำได้

    เมื่อการเข้าถึงโอกาสแตกต่างกัน เด็กแต่ละคนจึงมีข้อจำกัด
    ในการดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้ไม่เท่าเทียมกัน

    สะท้อนให้เห็นได้จากผลสอบ O-NET ของสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ในเมืองและในกรุงเทพฯ
    มีค่าเฉลี่ยคะแนนที่สูงกว่าโรงเรียนอื่น ๆ ในทุกสาขาวิชา อย่างมีนัยสำคัญ
    สะท้อนว่ารัฐยังไม่สามารถกระจายคุณภาพการศึกษาให้ทั่วถึง

    เมื่อจบการศึกษา สิ่งที่ตามมาก็คือการเข้าไปเป็นแรงงาน
    มันก็กลับไปที่เรื่องเดิมที่ว่าแรงงานมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ต่ำมาตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง
    โดยมีอัตราการเติบโตเพียง 0 ถึง 3% ต่อปีเท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอกับการออม
    เพราะอัตราเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่เท่า ๆ กัน

    หรือหากเราจะเลือก ก่อตั้งธุรกิจเป็นของตัวเอง
    ในประเทศไทยก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย
    เพราะว่าเรายังขาดกฎหมายกำกับการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นระบบ
    ซึ่งไม่เอื้ออำนวยให้ผู้ประกอบการรายใหม่ ที่ต้องการพื้นที่ในการเติบโตมากนัก

    รู้หรือไม่ว่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเพียง 5% แรกของประเทศไทย
    สร้างรายได้มากถึง 46% ของบริษัทจดทะเบียนทุกแห่งในประเทศไทยรวมกัน..

    ปัญหานี้ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด 19
    ที่ดูเหมือนจะซ้ำเติมให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำแย่ลงอีก

    เพราะในช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าสถาบันการเงินสะดวกใจที่จะช่วยเหลือกลุ่มบริษัทใหญ่มากกว่าผู้ประกอบการรายย่อย เพราะมีความน่าเชื่อถือและฐานะการเงินที่ดีกว่าอย่างชัดเจน

    นอกจากนี้ กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ปกติมีเนื้องานที่ไม่สามารถทำจากที่ห่างไกลหรือจากที่บ้าน
    ก็ได้รับผลกระทบหนักกว่ากลุ่มคนรายได้ระดับอื่น ๆ

    จึงทำให้ในช่วงโรคระบาดโควิด 19 กลายเป็นอีกตัวเร่งสำคัญที่ทำให้กลุ่มผู้ที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.5 ล้านคน

    ในขณะเดียวกัน การที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
    ก็ถือเป็นตัวเร่งความเหลื่อมล้ำเช่นกัน

    เพราะเมื่อเราแก่ตัวแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยากที่จะสามารถสร้างรายได้คงเดิมต่อไป
    แน่นอนว่าเมื่อรายได้ลดลง สิ่งที่ตามมาก็คือหนี้สินที่เพิ่มขึ้น

    ทั้งหมดนี้จึงทำให้ประเทศไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะที่ประชาชน
    จะแก่ก่อนรวยและเป็นการสร้างช่องว่างความเหลื่อมล้ำให้กว้างยิ่งกว่าเดิม

    แล้วแก้ไขยังไงดี ?

    แม้เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้
    แต่ในรายงานก็มีการนำเสนอ “กลไกลดความเหลื่อมล้ำ”
    ซึ่งก็ได้แบ่งออกเป็น 5 หัวข้อ ดังนี้

    1. กลไกทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการแข่งขัน

    เริ่มต้นจากการเปิดโอกาสให้ทุกคนแข่งขันกันอย่างเท่าเทียมและต้องมีการปฏิรูปกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการผูกขาด หากทำได้สำเร็จ ก็น่าจะทำให้การกระจุกตัวของทรัพยากรทางเศรษฐกิจเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

    2. กลไกทางภาษี โดยใช้ระบบภาษีในอัตราก้าวหน้าและภาษีที่เก็บบนฐานความมั่งคั่ง เช่น ภาษีที่ดินและภาษีมรดก

    3. กลไกสวัสดิการของรัฐ ที่ต้องทำให้คนเข้าถึงการศึกษา สาธารณสุขขั้นพื้นฐาน และสินเชื่อ มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

    4. กลไกบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็ง เพื่อป้องกันการทุจริต

    5. กลไกกระจายอำนาจการเมืองและการคลัง ควรมีการปรับนโยบายการจัดสรรอำนาจไปสู่รัฐบาลท้องถิ่นอย่างเหมาะสม เพื่อให้ครอบคลุมการกระจายรายได้สู่ทุกพื้นที่ในประเทศ

    ถึงตรงนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่าความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย
    เกิดขึ้นจากส่วนประกอบหลายอย่าง ซึ่งก็มีทั้งที่เราควบคุมไม่ได้
    และที่เราสามารถควบคุมได้โดยใช้นโยบายในการผลักดันให้ดีขึ้นได้

    จากกลไกการลดความเหลื่อมล้ำทั้ง 5 ข้อ
    ที่ทางกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรได้ทำการนำเสนอเอาไว้
    หากทำได้ข้อใดข้อหนึ่งจากตรงนั้น ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ แล้ว..
    ╔═══════════╗
    Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
    ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
    แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
    Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References
    -https://advicecenter.kkpfg.com/th/money-lifestyle/money/economic-trend/inequality-situation-in-thailand
    -https://openknowledge.worldbank.org/bitstream/handle/10986/34496/9781464816024.pdf
    -http://documents1.worldbank.org/curated/en/841701595602517692/pdf/Executive-Summary.pdf

  • กลุ่มคน 在 TeTae Rock You Youtube 的最佳解答

    2018-11-19 17:50:39

    เสื้อยืดสกรีน จากเพจ กลุ่มคน Loso หัวใจ Loso เพื่อเพื่อน Loso

    Face Page https://web.facebook.com/TeTaeRockYou
    Facebook https://www.facebook.com/tetaeteerawat
    IG https://www.instagram.com/tetaerockyou/

    สนใจสนับสนุนช่อง / sponsor ติดต่องาน
    taerockstar@hotmail.com

    ^^ ฝาก Subscribe เพื่อติดตามคลิปใหม่ๆด้วยนะครับ ^^

    #รีวิวเสื้อ #โซโล่กีต้าร์ #TeTaeRockYou

你可能也想看看

搜尋相關網站