สร้างพลังให้ตัวเอง กันเถอะ!! 16 สิ่ง ที่ควรบอก "ตัวเอง" หลังจากตื่นนอนทุกวัน
การใช้ชีวิตในแต่ละวันนั้นไม่ง่าย เพราะเรื่องที่พบเจอในแต่ละวัน อาจจะทำให้สาวๆหลายคน ไม่อยากมีชีวิตไปทำงาน เบื่อหน่าย หาความสุขในชีวิตไม่ได้ แต่ถ้าคุณบอกกับตัวเองด้วย 16 อย่างนี้ พลังใจของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเลยล่ะ
1.ฉันรายล้อมไปด้วยคนที่รักฉัน
ถ้าคุณรู้สึกว่ามีคนรอบข้างที่รักและแคร์ความรู้สึกของคุณ จะทำให้คุณมีพลังใจและกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆในชีวิตมากยิ่งขึ้น
2.ฉันจะทำทุกอย่างในชีวิตด้วยความรักและความจริงใจ
ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องเล่น เรื่องไหนๆ ถ้าคุณมั่นใจว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่รัก ก็จงทำมันต่อไปด้วยความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ
3.ฉันรักทุกสิ่งที่ฉันทำ และ ฉันรักในสิ่งที่ฉันเลือก
มั่นใจกับสิ่งที่คุณเลือกและสิ่งที่คุณทำ ความสำเร็จก็จะมาในไม่ช้าหรอก
4.ฉันจะไม่เสียใจนาน
เรื่องผิดพลาดล้วนเป็นบทเรียนให้กับคุณ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเสียใจเป็นเวลานานเกินไป และต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำด้วย
5.ฉันจะทำเป้าหมายให้สำเร็จ และ จะเพิ่มความท้าทายในอนาคต
การสร้างความท้าทายให้ตัวเองในแต่ละวัน จะทำให้คุณสนุกกับการใช้ชีวิตเช่น วันนี้ต้องทำงานชิ้นนี้เสร็จ แล้วจะให้รางวัลตัวเอง หรือ วันนี้ต้องวิ่ง 1 ชม.ให้ได้ เป็นต้น
6.ฉันจะสร้างชีวิตที่ดีด้วยมือของฉันเอง
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคือการเพิ่มโอกาสในการสร้างความสำเร็จให้ตัวเอง และจะเป็นใครได้ นอกจากตัวคุณเอง จงคิดเสมอว่า ชีวิตคุณก็เปรียบเหมือนหนัง 1 เรื่อง ที่คุณเป็นผู้กำกับเอง
7.ฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรได้ทั้งนั้น โดยไม่เดือดร้อนใคร
ใช้ชีวิตให้เป็นชีวิตของตัวเองจริงๆ ไม่ต้องแคร์ใครให้วุ่นวาย แค่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็เพียงพอแล้วล่ะ
8.ฉันจะซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง
ความเศร้าความเสียใจ วันแย่ๆ ฉันจะรับมันไว้เอง และจะต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้ได้
9.ฉันจะทำให้ตัวเองอายุยืน สุขภาพดี
ถ้าคุณคิดว่าร่างกายคุณแข็งแรง คุณก็จะแข็งแรง เพราะคุณจะเลือกแต่อาหารที่ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะมีพลังใจในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น
10.ฉันจะต้องยิ้มง่าย หัวเราะง่าย
รอยยิ้มช่วยลดความเครียด หัวเราะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้ ข้อดีเยอะแยะไปหมด ไม่มีข้อเสียเลยนะ เพราะอะไรทำไมจะไม่ทำล่ะ
11. ทุกวันฉันจะมีความสุขกับเรื่องง่ายๆ
เรื่องเล็กน้อยเช่น พนักงานยิ้มให้ ก็ยิ้มกลับไปบ้าง ความสุขง่ายๆที่คุณมองข้าม ลองให้เวลากับมัน แล้วคุณจะมีความสุขในทุกวัน
12.จงปฏิบัติตัวกับคนอื่นเหมือนที่ปฏิบัติกับตัวเอง
ถ้าคุณปฏิบัติกับคนอื่นอย่างดี ไม่ขุ่นมัวหรือมีปัญหา ไม่นินทา กลับกลอก คนรอบตัวคุณก็จะปฏิบัติกับคุณแบบนั้นเช่นกัน คิดไว้เสมอ คนอื่นจะทำกับเราอย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่เราทำตัวทั้งนั้น
13.ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์รอบๆตัว
วลีเก่าของตุรกีกล่าวไว้ว่า ” หากเราแชร์ความสุข ความสุขจะเพิ่มขึ้นสองเท่า แต่ถ้าเราแชร์ความเศร้า ความเศร้าจะลดลงครึ่งหนึ่ง” เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ในทุกด้าน เช่น พ่อแม่ เพื่อนฝูง ครอบครัว แฟน สังคมที่ทำงาน อย่าลืมรักษาและดูแลมันไว้ให้ดี การอยู่คนเดียวนั้นน่าเศร้ายิ่งนัก
14.จงเสียสละและแบ่งปัน
จงให้สิ่งดีๆ กลับคืนต่อคนอื่นจนเป็นนิสัย แล้วชีวิตคุณจะมีความสุข
15.จงมีความสุข พอใจกับสิ่งที่มีอยู่
ความโลภ ความต้องการสิ่งที่มากเกินไป ไม่ทำให้ใครมีความสุขได้จริง จงพอเพียงกับสิ่งที่มีอยู่ รู้จักคำว่าพอ แล้วชีวิตคุณก็จะมีความสุข
16.จงทำตัวง่ายๆให้คนอื่นรัก
อาจจะยากที่จะทำให้คนอื่นรักทุกคน แต่จงทำตัวให้คนอื่นรักได้ง่ายๆ สร้างความสุขให้กับคนรอบข้างแล้วคุณจะมีความสุข
ที่มา lifehack , Mthai
เรียบเรียงโดย yahmano
via Korakoda Anantasomboon

ทุกวันนี้เราทำบุญกันแล้วชอบบอกว่าเราต้องสะสมบุญ แต่ถามจริงๆ ลองนึกกันก่อนตอบนะค่ะ บุญคืออะไรแล้วสะสมกันเพื่ออะไร

เราชอบบอกกันว่าบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการบวชเป็นพระ และการทำบุญกับสงฆ์ แต่บวชแบบไหนสงฆ์แบบไหนละที่จะได้บุญ

การที่จะบวชและได้บุญนั้น ไม่ใช่ใครนึกอยากบวชก็บวชแล้วได้บุญนะค่ะ พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจนว่าการบวชจะมีประโยชน์ต่อเมื่อ
ภิกษุทั้งหลาย อาชีพที่ต่ำที่สุด ในบรรดาอาชีพทั้งหลาย คือการขอทาน

ภิกษุทั้งหลาย คำสาปแช่งอย่างยิ่งในโลก คือคำสาปแช่งว่า แกถือกระเบื้องในมือเที่ยวขอทานเถอะเพราะพระต้องเป็นขอทาน ทุกมื้อหรือทุกอย่างที่มีเกิดจากการขอคนอื่นทั้งสิ้นไม่ได้ทำมาหาทรัพย์นั้นด้วยตนเอง ต้องมองตนเองต่ำที่สุดเพื่อละซึ่งทิฐิแต่ปัจจุบันพระเป็นเช่นนั้นไหม

ภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรทั้งหลาย เข้าถึงอาชีพนี้ เป็นผู้เป็นไปในอำนาจแห่งประโยชน์ เพราะอาศัยอำนาจแห่งประโยชน์ ไม่ใช่คนหนีราชทัณฑ์ ไม่ใช่เป็นคนขอให้โจรปล่อยตัวไปบวช ไม่ใช่คนหนีหนี้ ไม่ใช่เป็นคนหนีภัย ไม่ใช่เป็นคนไร้อาชีพ จึงบวช

อีกอย่างหนึ่ง กุลบุตรนี้บวชแล้ว โดยที่คิดเช่นนี้ว่า เรา ทั้งหลายเป็นผู้ถูกหยั่งเอา โดยชาติชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย เป็นผู้อันความทุกข์หยั่งเอาแล้ว การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ จะพึงปรากฏแก่เรา

ภิกษุทั้งหลาย แต่ว่ากุลบุตรผู้บวชแล้วอย่างนี้กลับเป็นผู้มากด้วยอภิชฌา มีราคะแก่กล้าในกามทั้งหลาย มีจิตพยาบาท มีความดำริแห่งใจเป็นไปในทางประทุษร้าย มีสติอันลืมหลง ไม่มีสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่นแล้ว มีจิตหมุนผิดไป มีอินทรีย์อันตนไม่สำรวมแล้ว

ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเสมือนดุ้นฟืนจากเชิงตะกอน ที่เผาศพยังมีไฟติดอยู่ทั้งสอง ตรงกลางก็เปื้อนอุจจาระ ย่อมใช้ประโยชน์เป็นไม้ในบ้านเรือนก็ไม่ได้ ย่อมใช้ประโยชน์เป็นไม่ในป่าก็ไม่ได้ฉันใด
ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวบุคคลนี้ว่าอุปมาเช่นนั้น คือผู้เสื่อมจากโภคะแห่งคฤหัสถ์ด้วยไม่ทำประโยชน์แห่งสมณะให้บริบูรณ์ด้วย

พระพุทธเจ้ายังตรัสด้วยว่าในการทำบุญนั้น มันยากที่เราจะรู้ว่าใครคืออรหันต์และพระองค์ใดที่เราทำบุญแล้วเราจะได้บุญ เช่น

ต่อให้พระอยู่ป่า แต่หากมีจิต ฟุ้งซ่าน ถือตัว กลับกลอก พูดมาก มีวาจาไม่แน่นอน มีสติลืมหลง ปราศจากสัมปชัญญะ ไม่มีสมาธิ มีจิตที่หมุนผิดไป มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว ภิกษุนั้นควรถูกติเตียน ต่อให้ทำบุญก็ไม่ได้บุญ

พระที่อยู่ใกล้บ้านก็ดี บิณฑบาตเป็นวัตร ฉันในที่นิมนต์ ถือผ้าบังสกุลเป็นวัตร นุ่งห่มคหบดีจีวร แต่ถ้าเป็นผู้ ฟุ้งซ่าน ถือตัว กลับกลอก พูดมาก มีวาจาไม่แน่นอน มีสติลืมหลง ปราศจากสัมปชัญญะ ไม่มีสมาธิ มีจิตที่หมุนผิดไป มีอินทรีย์อันปล่อยแล้ว ภิกษุนั้นควรถูกติเตียน ทำบุญไปก็ไม่ได้บุญ

ดังนั้นหากจะทำบุญให้ได้บุญต้อทำกับพระสงฆ์ที่ไม่ว่าจะอยู่ป่าหรืออยู่ใกล้บ้านจะต้องเป็นผู้ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถือตัว ไม่กลับกลอก ไม่พูดมาก มีวาจาแน่นอน ไม่มีสติลืมหลง มีสติสัมปชัญญะ มีสมาธิ มีเอกัคคตาจิตหรือจิตที่ไม่หมุนไป สำรวมอินทรีย์ หากเราทำบุญกับสงฆ์เหล่านี้แล้วเราจะได้บุญเมื่อละสังขารไปเราจะได้ขึ้นสวรรค์